ประโยชน์ของแมงกานีส (Benefits of Manganese) – คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ประโยชน์ของแมงกานีส
แมงกานีสเป็นแร่ธาตุรอง ที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย  แมงกานีสทำให้สมอง และระบบประสาททำงานได้อย่างเป็นปกติ รวมไปถึงระบบเอนไซม์ของร่างกายด้วย  ในขณะที่แมงกานีสประมาณ 20 มิลลิกรัมถูกกักเก็บในไต ตับ ตับอ่อน และกระดูก คุณก็ยังจำเป็นต้องได้รับแมงกานีสจากอาหาร  แมงกานีสเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ถูกพบมากในเมล็ดพืช และธัญพืช แมงกานีสถูกพบเล็กน้อยใน ถั่ว ผักใบเขียว และชา 

1. อาจช่วยให้สุขภาพกระดูกดีขึ้นเมื่อรวมกับสารอาหารอื่น 

แมงกานีสสำคัญต่อสุขภาพของกระดูก รวมไปถึงการพัฒนา และการคงสภาพของกระดูก  เมื่อรวมกับแคลเซียม ซิงค์ และทองแดง แมงกานีสช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในผู้ใหญ่ 

2. มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งอาจช่วยลดการเกิดโรคต่าง ๆ 

แมงกานีสเป็นส่วนหนึ่งของสารต้านอนุมูลอิสระซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย  สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายเซลล์ในร่างกาย ทำให้เกิดการแก่ โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด  SOD ช่วยต่อสู้กับผลกระทบที่รุนแรงจากอนุมูลอิสระโดยการเปลี่ยนซุปเปอร์ออกไซด์เป็นโมเลกุลที่เล็กลงที่จะไม่ทำลายเซลล์  อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอันตรายหรือไม่ 

3. ช่วยลดการอักเสบ เมื่อรวมกับกลูโคซามีน และ Chondroitin 

จากที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แมงกานีสอาจช่วยลดการอักเสบ และความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคที่เกิดจากการอักเสบได้  อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ลิ้นอักเสบ

Benefits of Manganese

4. ควบคุมน้ำตาลในเลือด 

แมงกานีสมีบทบาทในการควบคุมน้ำตาลในเลือด  ในสัตว์บางชนิด การขาดแมงกานีสทำให้เกิดความไม่ทนทานต่อน้ำตาล ซึ่งคล้าย ๆ กับเบาหวาน อย่างรไก็ตาม การศึกษาในมนุษย์ยังไม่แน่ชัด  แมงกานีสมีหน้าที่หลายอย่างที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การมีแมงกานีสต่ำอาจทำให้เกิดผลเสียต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด 

5. ลดการเกิดโรคลมชัก 

โรคหลอดเลือดสมองทำให้เกิดโรคลมชักในผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของการไหลเวียนเลือดในสมอง  แมงกานีสช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อสมองได้ การมีแมงกานีสในร่างกายในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอย่างเช่นโรคหลอดเลือดสมอง 

6. มีหน้าที่ช่วยเผาผลาญสารอาหาร 

แมงกานีสช่วยกระตุ้นเอนไซม์หลายชนิดในกระบวนการเผาผลาญ ทั้งยังมีบทบาทในกระบวนการเคมีต่าง ๆ ในร่างกาย  นอกจากนี้ ยังช่วยย่อยโปรตีน และกรดอะมิโนต่าง ๆ รวมไปถึงการเผาผลาญคอเลสเตอรอล และคาร์โบไฮเดรต  แมงกานีสช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากวิตามินต่าง ๆ เช่น โคลีน ไทอะมีน วิตามินซี และวิตามินอี และยังช่วยให้ตับทำงานปกติอีกด้วย 

7. อาจใช้ลดอาการก่อนประจำเดือนมาเมื่อใช้ร่วมกับแคลเซียม 

ผู้หญิงหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับอาการก่อนประจำเดือนมา อาการเหล่านั้น เช่น วิตกกังวล ปวดท้องน้อย อารมณ์แปรปรวน หรือซึมเศร้า  จากการศึกษาพบว่า การรับประทานแมงกานีส และแคลเซียมอาจช่วยทำให้อาการก่อนประจำเดือนมาดีขึ้นได้  อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ปวดประจำเดือน

8. อาจช่วยปกป้องสมองจากสารอนุมูลอิสระ และทำให้สมองทำงานดีขึ้น 

แมงกานีสเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการทำงานของสมองที่ดี และมักใช้รักษาโรคที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทต่าง ๆ  คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของแมงกานีสเป็นตัวช่วยที่ป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเซลล์สมอง  นอกจากนี้ แมงกานีสสามารถช่วยเชื่อมต่อสารสื่อประสาท และกระตุ้นการเคลื่อนที่ของไฟฟ้าในร่างกายของเราได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น 

9. มีส่วนทำให้ไทรอยด์มีสุขภาพดีขึ้น 

แมงกานีสเป็นสารประกอบสำคัญของเอนไซม์หลายชนิด ซึ่งหมายความว่าแมงกานีสช่วยให้เอนไซม์ทำงานอย่างเหมาะสม  นอกจากนี้ แมงกานีสยังมีหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนไทรอกซีนที่เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติ ซึ่งจะช่วยให้การรับรส การเผาผลาญ น้ำหนัก และการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เป็นปกติ 

10. อาจช่วยรักษาแผลโดยการมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจน 

แร่ธาตุรอง เช่น แมงกานีสเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในกระบวนการรักษาแผล  การรักษาของแผลนั้นจำเป็นต้องใช้คอลลาเจนมาก  แมงกานีสจำเป็นต่อการสร้างกรดอะมิโนโพรไลน์ ซึ่งจำเป็นต่อคอลลาเจน และการรักษษแผลในเซลล์ผิวหนังของมนุษย์  การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการทาแมงกานีส แคลเซียม และซิงค์บนแผลเรื้อรังเป็นเวลา 12 สัปดาห์จะช่วยทำให้แผลดีขึ้นได้  แต่ผลการรักษานี้ยังจำเป็นต้องทำการทดลองต่อไป 

 อาหารที่มีแมงกานีส

แมงกานีสเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ รวมถึงการเผาผลาญ การสร้างกระดูก และการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ การรวมอาหารที่อุดมไปด้วยแมงกานีสไว้ในอาหารของคุณสามารถช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะบรรลุความต้องการในแต่ละวัน ต่อไปนี้คืออาหารที่เป็นแหล่งแมงกานีสที่ดี:
  • ถั่ว:

  • ธัญพืช:

  • ผักใบเขียว:

      • ผักโขม
      • ผักคะน้า
      • กระหล่ำปลี
      • ชาร์ทสวิส
      • ผักกาดเขียว
  • ชา:

      • ชาดำและชาเขียวมีแมงกานีสในปริมาณปานกลาง
  • ผลไม้:

      • สัปปะรด
      • อะโวคาโด
      • บลูเบอร์รี่
      • ราสเบอรี่
      • สตรอเบอร์รี่
  • อาหารทะเล:

      • หอยแมลงภู่
      • หอยกาบ
      • กั้ง
      • ปลาเทราท์
  • เครื่องเทศ:

  • เต้าหู้และเทมเป้:

    • เต้าหู้และเทมเป้ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชก็มีแมงกานีสเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแม้ว่าแมงกานีสจะมีความสำคัญต่อสุขภาพ แต่การบริโภคอาหารเสริมมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดพิษได้ ดังนั้น โดยทั่วไปจึงแนะนำให้ได้รับสารอาหารจากการรับประทานอาหารที่สมดุล แทนที่จะพึ่งอาหารเสริมเพียงอย่างเดียว เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ หากคุณมีข้อกังวลหรือสภาวะเกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะ ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหรือนักโภชนาการที่ลงทะเบียนเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด