ประโยชน์ของโยเกิร์ต (Benefits of Yogurt) 

โยเกิร์ตคืออะไร

โยเกิร์ต คือ ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ทำโดยการเติมเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิตลงไปในนม โยเกิร์ตถูกนำมารับประทานกันมานานหลายพันปีมาแล้ว และมักถูกนำมาใช้ในมื้ออาหารหรือของว่างอยู่บ่อยๆ พอๆกับเอาไปใช้เป็นส่วนประกอบของซอสและของหวาน ยิ่งกว่านั้น ในโยเกิร์ตยังมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์รวมอยู่และมีการทำงานเหมือนโพรไบโอติก ส่งผลให้เกิดประโยน์ต่อสุขภาพมากมายมากกว่านมสดธรรมดา โยเกิร์ตส่วนใหญ่จะมีสีขาวและข้น แต่ก็มีหลายยี่ห้อที่มีการใส่สีสังเคราะห์ ในบทความนี้จะบอกทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโยเกิร์ต

โยเกิร์ตรสธรรมชาติสรรพคุณ

โยเกิร์ตนมล้วน 3.5 ออนซ์ (100 กรัม)มีรายละเอียดโภชนาการดังนี้

ข้อมูลฉลากโภชนาการ : โยเกิร์ตรสธรรมชาติ -100 กรัม

สารอาหาร ปริมาณ
แคลลอรี่ 61
น้ำ 88%
โปรตีน 3.5 g
แป้ง 4.7 g
น้ำตาล 4.7 g
ใยอาหาร 0 g
ไขมัน 3.3 g

1. โปรตีน

โยเกิร์ตคือแหล่งที่อุดมไปด้วยโปรตีน โยเกิร์ตธรรมชาติ 1 ถ้วย (245กรัม)ที่ทำมาจากนมสดมีโปรตีนประมาณ 8.5 กรัม โปรตีนที่อยู่ในโยเกิร์ตที่วางขายตามท้องตลาดบางครั้งมีค่าความเป็นนมสูงกว่าเพราะว่ามีการเติมนมผงลงโยเกิร์ตในระหว่างกระบวนการผลิต โปรตีนในโยเกิร์ตมีเวย์หรือเคซีน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการละลายในน้ำ โปรตีนนมที่สามารถละลายน้ำได้เรียกว่าเวย์โปรตีน ส่วนโปรตีนนมที่ไม่ละลายน้ำเรียกว่าเคซีน  ทั้งเคซีนและเวย์คือสารอาหารชั้นยอด อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายและง่ายต่อการย่อย

เคซีน

โปรตีนส่วนใหญ่ในโยเกิร์ต (80%) คือเคซีน ส่วนใหญ่ที่พบมากคืออัลฟ่า-เคซีน เคซีนจะช่วยเพิ่มการดูดซับแร่ธาตุต่างๆเช่นแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง

เวย์

ในโยเกิร์ตมีเวย์โปรตีนอยู่ราว 20%   โยเกิร์ตมีกรดอะมิโนชนิดโซ่กิ่ง เช่น วาลีน ลิวซีนและไอโซลิวซีน เวย์โปรตีนเป็นที่นิยมมากในหมู่นักสร้างกล้ามเนื้อและนักกีฬา เพิ่มเติมคือการบริโภคอาหารเสริมเวย์โปรตีนให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายหลายอย่าง ช่วยในการลดน้ำหนักและลดความดันเลือดให้ต่ำลงได้

2. ไขมัน

จำนวนไขมันในโยเกิร์ตขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่นำมาใช้ทำโยเกิร์ต โยเกิร์ตสามารถผลิตจากนมได้ทุกชนิด -นมสด นมไขมันต่ำ หรือนมปราศจากไขมัน โยเกิร์ตส่วนใหญ่ที่วางขายในสหรัฐอเมริกามีทั้งแบบไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน พบว่ามีไขมันราว 0.4%ในโยเกิร์ตปราศจากไขมันและพบไขมัน 3.3% ในโยเกิร์ตไขมันเต็ม  ไขมันส่วนใหญ่ในโยเกิร์ตเป็นชนิดอิ่มตัว (70%) แต่ที่เหลือเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันนมเป็นไขมันเฉพาะตัวเพราะให้กรดไขมันมากกว่า 400 ชนิดที่แตกต่างกัน

ไขมันทรานส์จากสัตว์เคี้ยวเอื้องในโยเกิร์ต

ไขมันทรานส์ของโยเกิร์ตที่ได้จากสัตว์เรียกว่าไขมันทรานส์จากสัตว์เคี้ยวเอื้องหรือไขมันทรานส์นม ไม่เหมือนไขมันทรานส์ที่พบในผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ไขมันทรานส์จากสัตว์เคี้ยวเอื้องจัดเป็นไขมันที่มีประโยชน์ ไขมันทรานส์จากสัตว์เคี้ยวเอื้องส่วนใหญ่ในโยเกิร์ตคือกรดแวกซีนิกและกรดคอนจูเกเตดไลโนอิก (CLA) ในโยเกิร์ตอาจมี CLA มากกว่าในนม นักวิจัยเชื่อว่ากรด CLA มีประโยชน์เพื่อสุขภาพที่หลากหลาย-แต่การรับประทานอาหารเสริม CLA ในปริมาณมากอาจทำอันตรายต่อระบบเผาผลาญได้

3. คาร์บ

คาร์บในโยเกิร์ตธรรมชาติคือน้ำตาลที่เรียกว่าแลคโตส (น้ำตาลนม)และน้ำตาลกาแล็กโทสแต่อย่างไรก็ตาม น้ำตาลแลคโตสในโยเกิร์ตจะมีต่ำกว่าในนม สิ่งนี้เป็นเพราะแบคทีเรียหมักเป็นผลให้เกิดการย่อยสลายแลคโตส เมื่อแลคโตสมีการแตกสลาย มาในรูปแบบของกาแล็กโทสและกลูโคส น้ำตาลกลูโคสส่วนใหญ่จะแปรเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก ซึ่งเป็นสสารที่ช่วยแต่งเติมรสชาติในโยเกิร์ตและในผลิตภัณฑ์หมักตัวอื่นๆ โยเกิร์ตส่วนใหญ่มีการเติมความหวานเพิ่มเข้าไป-มักใช้ซูโคส (น้ำตาลขาว)- ควบคู่ไปกับการแต่งเติมกลิ่นรส ส่งผลให้จำนวนน้ำตาลในโยเกิร์ตจะสูงหลากหลายกันออกไปและอาจมีตั้งแต่ 4.7% ถึง 18.6% หรืออาจมากกว่านั้น

4. วิตามินและแร่ธาตุ

โยเกิร์ตไขมันเต็มมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม คุณค่าทางสารอาหารที่หลากหลายจากโยเกิร์ตที่แตกต่างชนิดกันออกไป ยกตัวอย่าง คุณค่าทางสารอาหารอาจขึ้นอยู่กับชนิดของแบคทีเรียที่ใช้ในกระบวนการหมัก วิตามินและแร่ธาตุที่พบในโยเกิร์ตธรรมชาติที่ทำมาจากนมคือ:
  • วิตามินบี12 เป็นสารอาหารที่พบในอาหารจากสัตว์เกือบทุกชนิด
  • แคลเซียม ผลิตภัณฑ์นมคือแหล่งของแคลเซียมที่ง่ายต่อการดูดซึม
  • ฟอสฟอรัส ในโยเกิร์ตคือแหล่งของฟอสฟอรัสที่ดี เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นซึ่งมีบทบาทที่สำคัญในกระบวนการทางชีววิทยา
  • ไรโบเฟลวิน ผลิตภัณฑ์นมคือแหล่งหลักๆของไรโบเฟลวิน (วิตามินบี2) ในอาหารสมัยใหม่ 

5. โพรไบโอติก

โพรไบโอติกคือแบคทีเรียมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แบคทีเรียที่มีประโยชน์พบได้ในผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยว เช่นโยเกิร์ตที่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตและ โพรไบโอติกหลักในผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวคือแล็กติกแอซิดแบคทีเรียและบิฟโดแบคทีเรีย โพรไบโอติกส์มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายหลายอย่างขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และปริมาณที่รับประทาน 
  • ช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานดีขึ้น จากการศึกษาพบว่าโพรไบโอติกแบคทีเรียอาจช่วยทำให้ภูมิต้านทานดีขึ้นได้
  • ลดคอเลสเตอรอล การรับประทานโพรไบโอติกบางชนิดและผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเป็นประจำอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดลงได้
  • วิตามินสังเคราะห์ บิฟโดแบคทีเรียสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้หรือทำให้เหมาะสมสำหรับวิตามินหลายชนิด ซึ่งรวมไปถึงไทแอมีน ไนอาซิน โฟเลตและวิตามินบี6 บี12และวิตามินเค
  • สุขภาพของระบบการย่อย นมเปรี้ยวจะมีบิฟโดแบคทีเรียที่อาจช่วยทำให้ระบบการย่อยดีขึ้นและช่วยบรรเทาอาการโรคลำไส้แปรปรวนได้
  • ช่วยป้องกันอาการท้องร่วง โพรไบโอติกอาจช่วยรักษาอาการท้องร่วงที่มีสาเหตุมาจากยาปฏิชีวนะ
  • ช่วยป้องกันอาการท้องผูก จากการศึกษาหลายกรณีพบว่าการบริโภคโยเกิร์ตนมเปรี้ยวที่มีบิฟโดแบคทีเรียเป็นประจำอาจช่วยลดอาการท้องผูกได้
  • ทำให้ความสามารถในการย่อยดีขึ้น โพรไบโอติกแบคทีเรียแสดงให้เห็นแล้วว่าช่วยย่อยแลคโตสดีขึ้น ทำให้อาการของการแพ้น้ำตาลแลคโตสลดน้อยลง 
ประโยชน์เพื่อสุขภาพต่างๆเหล่านี้จากโยเกิร์ตอาจไม่เกิดผลเช่นนี้เสมอไป เพราะโยเกิร์ตบางชนิดอาจถูกฆ่าเชื้อหลังจากเติมโพรไบโอติกแบคทีเรียเข้าไป-ดังนั้นจึงเป็นแบคทีเรียที่ไม่ได้ทำให้เกิดผลใดๆ โยเกิร์ตที่ยังมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและยังคงทำงานอยู่นั้นจึงจะมีโพรไบโอติกแบคทีเรียที่สามารถช่วยทำให้สุขภาพของระบบย่อยอาหารดีขึ้นได้Benefits of Yogurt

ประโยชน์ของโยเกิร์ต

ผลกระทบต่อสุขภาพของนมและผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเช่นโยเกิร์ตมีการศึกษากันอย่างกว้างขวาง โยเกิร์ตโพรไบโอติกสามารถก่อประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าประทับใจได้มากมายหลายอย่างซึ่งดีกว่านมที่ไม่ใช่นมเปรี้ยว

กินโยเกิร์ตทุกวันช่วยระบบย่อยอาหาร

โพรไบโอติกโยเกิร์ตส่งผลที่ดีต่อระบบการย่อยอาหารที่หลากหลาย การบริโภคโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตและยังทำงานอยู่เป็นประจำอาจช่วยรักษาอาการท้องเสียจากยาปฏิชีวนะได้ด้วยการฟื้นฟูแบคทีเรียในลำไส้ให้มีความสมดุล เพิ่มเติม โยเกิร์ตโพรไบโอติกที่มีบิฟโดแบคทีเรียอาจช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวนได้และช่วยลดอาการท้องผูก โพรไบโอติกอาจช่วยบรรเทาอาการแพ้น้ำตาลแลคโตสด้วยทำให้ระบบย่อยแลคโตสดีขึ้น

โรคกระดูกพรุนและสุขภาพเรื่องกระดูก

โรคกระดูกพรุนคือโรคที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุและมีปัจจัยเสี่ยงสูงในการเกิดกระดูกแตกหักในกลุ่มวัยดังกล่าว ผลิตภัณฑ์นมถูกพิจารณาแล้วว่าสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ ตามความเป็นจริงแล้วนั้น นมมีส่วนช่วยในเรื่องมวลกระดูก มีผลทำให้กระดูกมีแคลเซียมและโปรตีนสูง

ความดันโลหิต

ความดันโลหิตสูงผิดปกติคือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดโรคหัวใจ จากการศึกษาพบว่าการบริโภคโยเกิร์ตเป็นประจำอาจช่วยลดความดันเลือดในคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง แต่อย่างไรก็ตามผลที่ได้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงที่โยเกิร์ต จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์นมชนิดอื่นๆก็สามารถส่งผลได้ใกล้เคียงกัน 

โทษของโยเกิร์ต

โยเกิร์ตอาจส่งผลสำหรับคนบางคน-โดยเฉพาะในคนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสหรือแพ้โปรตีนจากนม

ภาวะแพ้น้ำตาลแลคโตส

โยเกิร์ตมีน้ำตาลในนมน้อยกว่านม เพราะน้ำตาลแลคโตสบางตัวในนมสามารถย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคสและกาแล็กโตสในระหว่างการผลิตโยเกิร์ต เพราะฉะนั้นจึงดีสำหรับคนที่มีภาวะแพ้น้ำตาลแลคโตส แต่อย่างไรก็ตาม โพรไบโอติกแบคทีเรียอาจช่วยทำให้ความสามารถในการย่อยแลคโตสดีขึ้นได้

แพ้นม

ภาวะแพ้นมเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนักและมักเกิดขึ้นกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีการกระตุ้นจากโปรตีนนม- เวย์และเคซิน-ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์นม ดังนั้น โยเกิร์ตควรเป็นสิ่งที่คนแพ้นมควรหลีกเลี่ยง

การเติมน้ำตาล

จำไว้ให้ขึ้นใจว่าโยเกิร์ตไขมันต่ำทุกชนิดมีการใส่น้ำตาลเพิ่มเติมทั้งสิ้น การรับประทานน้ำตาลมากส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เช่นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ด้วยเหตุนี้ทางที่ดีควรอ่านฉลากและหลีกเลี่ยงโยเกิร์ตที่มีน้ำตาล- ที่มักมาในรูปแบบของซูโคสหรือน้ำเชื่อมที่ได้จากการไฮโดรไลซ์ตาร์ชจากข้าวโพด-เป็นส่วนผสม

โยเกิร์ตกินตอนไหนดีที่สุด

การรับประทานโยเกิร์ตขณะท้องว่างนั้นจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ได้ดี หากรับประทานโยเกิร์ตในตอนเช้า หากอยากให้ระบบย่อยทำงานได้ดีและเป็นปกติ ควรรับประทานโยเกิร์ตในช่วงค่ำ โยเกิร์ตกินก่อนนอนอ้วนไหม  การรับประทานโยเกิร์ตก่อนนอนนั้นหากเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มเติมเลย แต่หากเป็นโยเกิร์ตที่มีน้ำตาลสูงนั้นอาจจะต้องระมัดระวังนิดหน่อย 

เมนูโยเกิร์ตที่แนะนำ

การเพิ่มโยเกิร์ตลงในมื้ออาหารจะเป็นแหล่งของโปรไบโอติก โปรตีน แคลเซียม และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ นี่คือเมนูตัวอย่างที่ใช้โยเกิร์ตในอาหารต่างๆ ตลอดทั้งวัน: อาหารเช้า: กรีกโยเกิร์ตพาร์เฟ่ต์
  • วัตถุดิบ:
    • กรีกโยเกิร์ต (ธรรมดาหรือรส)
    • เบอร์รี่รวมสด (สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่)
    • กราโนล่าหรือมูสลี่
    • น้ำผึ้ง  (เติมตามความต้องการ)
อาหารว่างช่วงเช้า: โยเกิร์ตสมูทตี้ อาหารกลางวัน: สลัดไก่ย่างพร้อมน้ำสลัดโยเกิร์ต
  • วัตถุดิบ:
    • อกไก่ย่าง
    • ผักใบเขียวผสม (ผักโขม ผักร็อกเก็ต หรือผักกาดหอม)
    • แตงกวา มะเขือเทศเชอรี่ และพริกหยวกหั่นเป็นชิ้น
    • น้ำสลัดโยเกิร์ตพร้อมสมุนไพร (เช่น ผักชีลาว ผักชีฝรั่ง น้ำมะนาว)
ของว่างยามบ่าย: สลัดผักกับโยเกิร์ต
  • วัตถุดิบ:
    • กรีกโยเกิร์ต 
    • ผักดิบต่างๆ (แครอทแท่ง, เซเลอรี่, พริกหยวก)
    • เครื่องปรุงรส เช่น ผงกระเทียม ผงหัวหอม หรือผักชีลาว
อาหารเย็น: แกงไก่กับซอสโยเกิร์ต
  • วัตถุดิบ:
    • ชิ้นไก่ (หรือเต้าหู้/ผักทางเลือก)
    • เครื่องเทศแกง (ยี่หร่า ขมิ้น ผักชี)
    • หัวหอม กระเทียม ขิง
    • ซอสมะเขือเทศหรือมะเขือเทศหั่นเต๋า
    • กรีกโยเกิร์ต (สำหรับซอสครีม)
ของหวาน: ไอติมผลไม้โยเกิร์ต
  • วัตถุดิบ:
    • โยเกิร์ตกรีก
    • ผลไม้สดชิ้น (สตรอเบอร์รี่ มะม่วง กีวี)
    • น้ำผึ้งเพื่อความหวาน (หากต้องการ)
เมนูตัวอย่างนี้ประกอบด้วยอาหารและของว่างที่หลากหลายซึ่งมีโยเกิร์ต ให้สารอาหารและรสชาติที่หลากหลายตลอดทั้งวัน โยเกิร์ตสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยสามารถใช้ได้ทั้งกับอาหารคาวและหวาน และยังเป็นส่วนเสริมที่ดีเยี่ยมสำหรับสูตรอาหารต่างๆ โดยให้ประโยชน์ทางโภชนาการด้วย การปรับสูตรอาหารให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคลและความต้องการด้านอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญ

ประเด็นสำคัญ

โยเกิร์ตคือผลิตภัณฑ์นมที่ทำจากนมเปรี้ยว โพรไบโอติกโยเกิร์ตตามธรรมชาติที่มีจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตและทำงานอยู่นั้นคือผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการเติมน้ำตาลเข้าไปในส่วนผสม โยเกิร์ตยังมีประโยชน์ต่อระบบการย่อยอาหารและอาจช่วยลดน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/295714
  • https://www.webmd.com/food-recipes/features/benefits-yogurt
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด