อาหารแหล่งของฟอสฟอรัส (Phosphorus in Your Diet)

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
อาหารแหล่งของฟอสฟอรัส

ฟอสฟอรัสคือ อะไร และทำไมจึงมีความสำคัญ 

ฟอสฟอรัส คือ แร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายมากเป็นอันดับสองรองจากแคลเซียม ร่างกายของเราต้องการฟอสฟอรัสในการทำงานมากมาย เช่น กรองของเสีย และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ คนส่วนใหญ่ได้รับปริมาณฟอสฟอรัสตามที่พวกเขาต้องการผ่าการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้นคนส่วนใหญ่ได้รับฟอสฟอรัสมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ โรคไต หรือการกินฟอสฟอรัสมากเกินไป และมีแคลเซียมไม่เพียงพออาจทำให้ได้มีฟอสฟอรัสมากเกินไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม โรคบางชนิด ( เช่นโรคเบาหวาน และโรคพิษสุราเรื้อรัง ) หรือการใช้ยารักษาโรค ( เช่น ยาลดกรดบางชนิด) อาจเป็นสาเหตุทำให้ระดับฟอสฟอรัสในร่างกายตกลดต่ำมากเกินไป ระดับธาตุฟอสฟอรัสที่สูงเกินไป หรือต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ เช่น โรคหัวใจ อาการปวดข้อ หรือเหนื่อยล้า

ประโยชน์ของฟอสฟอรัสคือ อะไร 

ร่างกายเราต้องการฟอสฟอรัสเพื่อ
  • ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี
  • ช่วยสร้างพลังงาน
  • ช่วยการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
ฟอสฟอรัสยังช่วยในเรื่องดังต่อไปนี้ เช่น :
  • ช่วยเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรง
  • ช่วยจัดการให้ร่างกายจัดเก็บ และใช้พลังงานของร่างกาย
  • ลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย
  • กรองของเสียในไต
  • ช่วยการเจริญเติบโต รักษา และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ
  • ช่วยสร้างดีเอ็นเอ และอาร์เอ็นเอ  ยีนที่สร้างหน่วยโครงสร้างของร่างกาย
  • รักษาสมดุล และการใช้วิตามิน เช่น วิตามินบี และดี รวมถึงแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ไอโอดีน แมกนีเซียม และสังกะสี
  • ช่วนทำให้หัวใจเต้นปกติ
  • ช่วยเรื่องการนำกระแสประสาท

ใครที่ต้องการฟอสฟอรัส 

แม้ว่าฟอสฟอรัสจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับปริมาณฟอสฟอรัสที่ได้รับ:
  • เด็กและวัยรุ่นที่กำลังเติบโต:ฟอสฟอรัสเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน เด็กและวัยรุ่นมีข้อกำหนดเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของพวกเขา
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร:สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอาจมีความต้องการฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก
  • นักกีฬา:การออกกำลังกายอย่างหนักและการออกกำลังกายสามารถเพิ่มความต้องการฟอสฟอรัสได้ เนื่องจากมีบทบาทในการเผาผลาญพลังงานและการทำงานของกล้ามเนื้อ นักกีฬาอาจต้องแน่ใจว่าตนได้รับฟอสฟอรัสในปริมาณที่เพียงพอจากอาหารของตน
  • บุคคลที่มีอาการป่วยบางอย่าง:อาการทางการแพทย์บางอย่าง เช่น โรคไต อาจต้องมีการตรวจสอบการบริโภคฟอสฟอรัสอย่างระมัดระวัง ในกรณีเหล่านี้ อาจจำเป็นต้องควบคุมระดับฟอสฟอรัสในเลือดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ:ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีพื้นฐานจากพืชอาจจำเป็นต้องใส่ใจกับปริมาณฟอสฟอรัสที่ได้รับ เนื่องจากแหล่งที่มาของฟอสฟอรัสจากพืชอาจมีการดูดซึมได้น้อยกว่าแหล่งที่มาจากสัตว์
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคืออาหารที่สมดุลมักให้ฟอสฟอรัสในปริมาณที่เพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่ ฟอสฟอรัสพบได้ในอาหารหลากหลายประเภท รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ ปลา สัตว์ปีก เมล็ดธัญพืช ถั่ว เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว 

อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง

อาหารส่วนใหญ่จะมีฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบ อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนคือแหล่งของฟอสฟอรัสที่ดีเยี่ยม ซึ่งมีอยู่ในอาหารเช่น :
  • เนื้อ และเนื้อสัตว์ปีก
  • ปลา
  • นม และผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ
  • ไข่
เมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลเซียม และโปรตีนเพียงพอ เราก็จะได้รับฟอสฟอรัสเพียงพอไปด้วย เพราะอาหารที่มีแคลเซียมสูงก็จะมีฟอสฟอรัสสูงไปด้วย อาหารที่ไม่ใช่โปรตีนบางอย่างก็เป็นแหล่งของฟอสฟอรัสได้ หรือพืชที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น :
  • โฮลเกรน ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี
  • มันฝรั่ง
  • กระเทียม
  • ผลไม้แห้ง
  • เครื่องดื่มอัดลม (ใช้กรดฟอสฟอริกในการผลิตก๊าซคาร์บอเนชั่น) 
ขนมปังโฮลเกรน และซีเรียลจะมีฟอสฟอรัสมากกว่าขนมปังที่ทำจากแป้งขวา แต่อย่างไรก็ตาม ฟอสฟอรัสในอาหารประเภทถั่ว เมล็ดธัญพืชเป็นไฟเตต ซึ่งดูดซึมได้ไม่ดี

<a href=Phosphorus in Your Diet” width=”300″ height=”191″ />

เราต้องการฟอสฟอรัสเท่าไร 

ปริมาณฟอสฟอรัสที่ร่างกายต้อการจากการบริโภคนั้นขึ้นอยู่กับช่วงอายุ ผู้ใหญ่มีความต้องการฟอสฟอรัสน้อยกว่าเด็กที่มีอายุระหว่าง 9 ถึง 18 ปี แต่มากกว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 8 ปี ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวันสำหรับฟอสฟอรัสคือ
  • ผู้ใหญ่ (อายุ 19 ปีขึ้นไป) :700 มก.
  • เด็ก (อายุ 9-18 ปี): 1,250 มก.
  • เด็ก (อายุ 4-8 ปี): 500 มก. 
  • เด็ก (อายุ 1-3 ปี): 460 มก.
  • ทารก (อายุ 7-12 เดือน): 275 มก.
  • ทารก (อายุ 0-6 เดือน): 100 มก.
ไม่ค่อยมีใครรับประทานอาหารเสริมฟอสฟอรัส เพราะคนส่วนใหญ่มักได้รับฟอสฟอรัสที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอแล้วจากอาหารที่รับประทาน

ใครที่ต้องฟอสฟอรัสเป็นพิเศษ

ฟอสฟอรัสเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานทางสรีรวิทยาต่างๆ ในร่างกาย เป็นองค์ประกอบสำคัญของ DNA, RNA และ ATP (อะดีโนซีน ไตรฟอสเฟต) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ ฟอสฟอรัสยังเป็นองค์ประกอบโครงสร้างของกระดูกและฟัน แม้ว่าฟอสฟอรัสจะมีความสำคัญสำหรับทุกคน แต่บางกลุ่มอาจมีความต้องการแร่ธาตุนี้โดยเฉพาะ:
  • เด็กและวัยรุ่นที่กำลังเติบโต:
      • ฟอสฟอรัสมีความสำคัญต่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตของกระดูก เด็กและวัยรุ่นในช่วงที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมีความต้องการฟอสฟอรัสที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการสร้างกระดูกและฟัน
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร:
      • ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร มีความต้องการฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับพัฒนาการของทารกในครรภ์และการถ่ายโอนสารอาหารผ่านทางน้ำนมแม่
  • นักกีฬาและบุคคลที่ใช้ชีวิตแอคทีฟ:
      • ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอาจมีความต้องการฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้น ฟอสฟอรัสเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงาน และนักกีฬาอาจต้องการแร่ธาตุนี้มากขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของกล้ามเนื้อและการฟื้นฟู
  • บุคคลที่มีภาวะสุขภาพบางประการ:
      • ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางประการอาจมีความต้องการฟอสฟอรัสเปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีความผิดปกติที่ส่งผลต่อการเผาผลาญของกระดูกหรือผู้ที่มีความผิดปกติของไตอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปริมาณฟอสฟอรัส
  • ผู้สูงอายุ:
      • ผู้สูงอายุอาจมีการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญฟอสฟอรัส และบางคนอาจเสี่ยงต่อการขาดฟอสฟอรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขารับประทานอาหารได้ไม่ดีหรือมีปัญหาการดูดซึมบกพร่อง
  • ผู้ที่ควบคุมอาหารหรือชอบรับประทานอาหารบางชนิด:
    • บุคคลที่รับประทานอาหารที่มีข้อจำกัด เช่น อาหารวีแกนหรืออาหารมังสวิรัติที่ไม่รวมผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มีฟอสฟอรัสสูงบางชนิด อาจจำเป็นต้องให้ความสนใจกับแหล่งฟอสฟอรัสทางเลือกอื่นเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของพวกเขา
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแม้ว่าฟอสฟอรัสจะจำเป็นต่อสุขภาพ แต่การบริโภคที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในการเผาผลาญแคลเซียมได้ ในบางกรณี สภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น ความผิดปกติของไต อาจต้องมีการติดตามและควบคุมปริมาณฟอสฟอรัส

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากมีฟอสฟอรัสมากเกินไป

โทษของฟอสฟอรัสคือ การได้รับฟอสฟอรัสมากเกินไปก็สามารถเป็นพิษได้ เมื่อได้รับแร่ธาตุมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ทำให้อวัยวะแข็ง และเนื้อเยื่ออ่อนนุ่ม เมื่อมีปริมาณฟอสฟอรัสระดับสูงจะส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการใช้แร่ธาตุตัวอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี เมื่อฟอสฟอรัสรวมตัวกับแคลเซียมทำให้แร่ธาตุไปสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หากได้รับฟอสฟอรัสน้อยเกินไป

ยาบางชนิดอาจทำให้ระดับฟอสฟอรัสในร่างกายลดต่ำลงได้ เช่น : อาการของฟอสฟอรัสต่ำ คือ หากคุณรับประทานยาดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกรับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง หรือรับประทานอาหารเสริม

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.kidney.org/atoz/content/phosphorus
  • https://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/what-is-phosphorus
  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chronic-kidney-disease/expert-answers/food-and-nutrition/faq-20058408
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด