นิ้วล็อค (Trigger Finger) : อาการ สาเหตุ การวินิจฉัยโรค การรักษา

นิ้วล็อค (Trigger Finger) คือ การอักเสบของปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่นิ้วทำให้เกิดอาการปวดนิ้วและมีความเจ็บปวด และอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวนิ้วหรืองอนิ้วได้ นิ้วล็อค (Trigger Finger)

อาการนิ้วล็อค

อาการเริ่มแรกที่พบบ่อย ได้แก่ :
  • อาการปวดร้าวที่ฐานของนิ้วโป้งหรือนิ้วอื่น
  • เป็นตุ่มหรือก้อนรอบ ๆ นิ้วบริเวณใกล้ฝ่ามือ
  • รอบฐานนิ้วจะอ่อนนุ่ม
  • มีเสียงกริ๊ดหรือเสียงเหมือนนิ้วเคลื่อนเมื่อเกิดการเคลื่อนไหว
  • รู้สึกฝืดในนิ้ว
หากผู้ป่วยนิ้วล็อคไม่ได้รับการรักษานิ้วล็อคอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ ได้แก่ นิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วอื่นหรือทั้งสองอย่างถูกล็อคอยู่ในตำแหน่งที่งอหรือตรง ซึ่งผู้ป่วยอาจไม่สามารถทำนิ้วให้ตรงโดยไม่ใช้มืออีกข้างหากมีอาการขั้นรุนแรง นิ้วล็อคอาการมักจะแย่ลงในตอนเช้า และจะเริ่มมีอาการดีขึ้นในวันถัดไป  

ลองดู Movinix และ Flexadel ช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นเอ็นและข้อ


สาเหตุอาการนิ้วล็อค

นิ้วล็อคเกิดจาก การที่กระดูกเล็ก ๆ หลายอัน เส้นเอ็นจะเชื่อมต่อกระดูกเหล่านี้กับกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวหรือเอ็นตึง กล้ามเนื้อนิ้วจะดึงกระดูกเพื่อขยับนิ้วของคุณ เอ็นยาวหรือที่เรียกว่า เอ็นกล้ามเนื้อยืด ซึ่งจะยื่นจากปลายแขนไปจนถึงกล้ามเนื้อและกระดูกที่มือของคุณ เอ็นกล้ามเนื้องอเลื่อนผ่านปลอกเอ็นกล้ามเนื้อซึ่งเป็นเหมือนอุโมงค์สำหรับเอ็น หากอุโมงค์แคบลงคุณจะไม่สามารถขยับเอ็นได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่นิ้วชี้ เมื่อเอ็นเลื่อนผ่านแคบลงจะเกิดการระคายเคืองและบวม การเคลื่อนไหวจึงกลายเป็นเรื่องยากลำบาก อาจเกิดการอักเสบและอาการรุนแรงได้ เคลื่อนไหวไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้นิ้วของคุณอยู่ในตำแหน่งที่โค้งงอ และเป็นเรื่องยากมากที่จะกลับมาตรง

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดนิ้วล็อค

บางคนมีแนวโน้มที่จะเป็นนิ้วล็อคมากกว่าคนอื่น ตัวอย่าง มักจะพบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคนิ้วล็อคได้แก่ :
  • อายุระหว่าง 40 และ 60 ปี
  • มีโรคเบาหวาน
  • มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ
  • มีโรคไขข้ออักเสบ
  • เป็นวัณโรค
  • การทำกิจกรรมซ้ำ ๆ ซึ่งอาจทำให้มือเกร็งเป็นเวลานาน เช่น การเล่นเครื่องดนตรีบางประเภท
นิ้วล็อคมักจะเกิดกับนักดนตรี เกษตรกรและคนงานอุตสาหกรรม

การวินิจฉัยโรคนิ้วล็อค

โดยปกติแล้วแพทย์สามารถวินิจฉัยนิ้วล็อคได้ด้วยการตรวจร่างกายและสอบถามอาการทั่วไปเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ แพทย์จะฟังเสียงนิ้วเมื่อเคลื่อนไหว และตรวจดูบริวเวณนิ้วที่งอ และอาจให้ผายและกำมือของคุณ โดยทั่วไปการวินิจฉัยไม่ต้องใช้การ X-ray หรือการทดสอบภาพอื่น ๆ

การรักษานิ้วล็อค

รักษานิ้วล็อคด้วยตนเอง

การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ การรักษาที่บ้านเช่น:
  • หยุดพักจากกิจกรรมซ้ำ ๆ เป็นเวลา 4-6 สัปดาห์
  • ใช้ไม้ทาบหรือเฝือกเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวและพักมือ
  • ใช้ความร้อนหรือน้ำแข็งเพื่อลดอาการบวม
  • วางมือในน้ำอุ่นหลาย ๆ ครั้งตลอดทั้งวันเพื่อคลายเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
  • ยืดนิ้วของคุณเบา ๆ เพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว

ยาและอาหารเสริม

ยาอาจช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ยาต้านการอักเสบรวมถึง:

การผ่าตัด

หากยาและการรักษาที่บ้านไม่ได้ผลแพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดนิ้วล็อค หลังจากที่คุณได้รับการฉีดยาชา ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลเล็ก ๆ บนฝ่ามือจากนั้นก็ตัดปลอกเอ็นที่มีความตึง เมื่อปลอกเอ็นสมานพื้นที่บริเวณที่ล็อคจะคลายตัวช่วยให้นิ้วของคุณขยับได้ง่ายขึ้น ความเสี่ยงในการผ่าตัด ได้แก่ การติดเชื้อหรือผลการผ่าตัดที่ไม่มีประสิทธิภาพ การฟื้นจากการผ่าตัดอาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ถึง 6 เดือน แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้การออกกำลังกายทำกายภาพบำบัดเพื่อบรรเทาอาการตึงหลังการผ่าตัด ตามกฎทั่วไปเมื่อแพทย์คลายปลอกเอ็นแล้วเส้นเอ็นก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ผู้ป่วยนิ้วล็อคจะสามารถกลับสู่การทำกิจกรรมปกติได้ภายใน 2-3 วัน แพทย์จะทำการตัดไหมใน 7 – 14 วัน หลังการผ่าตัด

ท่าบริหารอาการนิ้วล็อค

  •  โดยการเหยียดยืดเส้นเอ็นนิ้วมือเบา ให้ตึงพอประมาณ ค้างไว้ประมาณ 10-30 วินาที ทำซ้ำได้เรื่อยๆ ไม่ร่วมกับพักการใช้งานที่ต้องออกแรงนิ้วมือเพื่อให้เส้นเอ็น และปลอกหุ้มเส้นเอ็นได้พักการใช้งาน 
  • กำ และ แบมือ ในน้ำอุ่นประมาณวันละ 5 นาที น้ำต้องเป็นน้ำอุ่นไม่ร้อนจัดจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้อาการอักเสบเป็นเพิ่มมากขึ้น ทำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

ภาพรวมของอาการนิ้วล็อค

นิ้วล็อคสามารถหายเองได้หากเริ่มมีอาการและเริ่มรักษาด้วยตัวเองในเบื้องต้น การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและการหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างจะช่วยป้องกันการเกิดนิ้วล็อคกลับมาอีก การรักษาด้วย Corticosteroid อาจมีประสิทธิภาพ แต่อาการอาจมีผลกระทบตามมาหลังจากการรักษาด้วยวิธีนี้ จากการศึกษาวารสารตีพิมพ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการผ่าตัดกระดูกและข้อ นักวิจัยพบว่าอาการกลับคืนมาภายใน 12 เดือนจากร้อยละ 56 ของตัวเลขที่ได้รับผลกระทบหลังจากผู้ป่วยวยนิ้วล็อคเข้ารับการรักษาด้วยการฉีด corticosteroid อาการเหล่านี้มักจะกลับมาหลายเดือนหลังจากได้รับการฉีดยา อย่างไรก็ตามการฉีดยานั้นง่ายและรวดเร็ว ช่วยให้คุณสามารถชะลอการผ่าตัดจนกว่าจะถึงเวลาที่สะดวก นักวิจัยในการศึกษานี้ยังพบว่าผู้ป่วยโรคนิ้วล็อคที่เป็นโรคเบาหวาน อาการจะขึ้นอยู่กับระดับอินซูลินและอาการนิ้วล็อคอาจมีแนวโน้มที่อาการจะกลับมาอีก

การออกกำลังกายนิ้วมือ

แพทย์และนักกายภาพบำบัดอาจแนะนำการออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อง่ายๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและตึงที่เกี่ยวข้องกับนิ้วชี้หรือนิ้วหัวแม่มือ เราร่างตัวอย่างด้านล่าง ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ 3-5 ครั้งในต่อวัน  

1. งอปลายนิ้ว

ในการฝึกงอปลายนิ้ว ให้จับนิ้วไว้ใต้ข้อต่อด้านบน จากนั้นงอปลายนิ้วโดยให้นิ้วที่เหลืออยู่นิ่งๆ

2. ข้องอปลายและข้อกลาง

ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนบางส่วนสำหรับการออกกำลังกายส่วนปลายและข้อต่อส่วนกลาง
  • ถือนิ้วไว้เหนือข้อนิ้วที่ฐานของมือ
  • งอส่วนปลายและข้อกลางของนิ้วโดยให้นิ้วที่เหลืออยู่นิ่งๆ
  • คลายนิ้วกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น

3) การยืดข้อมือแบบพาสซีฟ

ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนบางส่วนในการยืดข้อมือแบบพาสซีฟ
  • วางฝ่ามือเข้าด้วยกันที่ด้านหน้าของหน้าอกใต้คาง
  • ค่อยๆ ลดมือลงมาที่รอบเอว จนกระทั่งรู้สึกยืดข้อมือและนิ้ว
  • ดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 10วินาที
  • จับฝ่ามือเข้าด้วยกันแล้วเลื่อนมือกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น

4. งอข้อมือที่กำแน่น

ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำบางประการสำหรับการออกกำลังกายงอข้อมือที่กำแน่น
  • กำกำปั้นหลวมๆ แล้ววางลงบนโต๊ะโดยให้นิ้วหัวแม่มือหงายขึ้น
  • งอข้อมือและนิ้วเข้าหาลำตัว
  • ยืดเหยียดค้างไว้2 วินาที
  • กลับข้อมือไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น
  • ทำซ้ำ 10 ครั้งในแต่ละด้าน

5. งอข้อมือจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง

  • วางฝ่ามือลงบนโต๊ะโดยให้ข้อมือเหยียดตรง
  • งอข้อมือไปทางซ้ายให้มากที่สุด
  • กดค้างไว้2 วินาที
  • ย้ายข้อมือกลับไปที่ศูนย์
  • งอข้อมือไปทางขวาให้สุด
  • กดค้างไว้ 2 วินาที
  • ย้ายข้อมือกลับไปที่ศูนย์
  • ทำซ้ำ 10 ครั้งในแต่ละด้าน

6. หมุนด้วยมือ

  • วางมือบนโต๊ะโดยให้ฝ่ามือคว่ำลง
  • ค่อยๆ พลิกฝ่ามือขึ้นเท่าที่รู้สึกสบาย
  • กดค้างไว้ 2 วินาที
  • พลิกมือกลับเพื่อให้ฝ่ามือคว่ำลง
  • ทำซ้ำการออกกำลังกาย 10 ครั้ง

7. กำมือ

  • วางมือด้านนอกบนโต๊ะโดยให้นิ้วหัวแม่มือชี้ขึ้น รักษาข้อมือให้ตรง
  • กำมือเป็นกำปั้นหลวมๆ
  • กดค้างไว้ 2 วินาที
  • คลายกำปั้นและยืดนิ้วให้ตรง
  • กำและคลาย 10 ครั้ง

8. ขดนิ้ว

  • เริ่มต้นด้วยการหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว
  • กำมือเป็นกำปั้นหลวมๆ
  • ค่อยๆ คลายนิ้วหัวแม่มือและนิ้วมือออกจนสุด
  • กดค้างไว้ 2 วินาที
  • งอนิ้วและนิ้วหัวแม่มือกลับเป็นกำปั้นหลวมๆ
  • งอและคลายนิ้วหัวแม่มือและนิ้ว 10 ครั้ง

9. นิ้วงอ

การออกกำลังกายงอนิ้วสามารถช่วยให้เส้นเอ็นในนิ้วหัวแม่มือแข็งแรงขึ้น หากต้องการทำแบบฝึกหัดนี้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
  • งอนิ้วหัวแม่มือเข้าหาฝ่ามือจนแตะปลายนิ้วชี้
  • กดค้างไว้ 10 วินาที
  • ทำซ้ำแบบฝึกหัดที่นิ้วกลาง แหวน และนิ้วก้อย

ลิ้งค์ด้านล่างเป็นแหล่งข้อมูลบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/a-to-z-guides/myositis-symptoms-treatments-prognosis
  • https://medlineplus.gov/myositis.html 
  • https://www.assh.org/handcare/condition/trigger-finger 
  • https://www.nhs.uk/conditions/trigger-finger/ 

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด