ข้อมูลทางโภชนาการ
ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้ผลิตอาหารบางรายจึงใช้กลอุบายที่จะให้ผู้บริโภคอ่านฉลากอาหารแล้วเข้าใจผิด เพื่อที่พวกเขาจะสามารถจำหน่ายอาหารที่แปรรูป หรือไม่มีประโยชน์ได้ กฎข้อบังคับในการติดฉลากข้อมูลทางโภชนาการนั้นอ่านค่อนข้างยาก และซับซ้อน บทความนี้จะอธิบายวิธีอ่านฉลากอาหารให้คุณสามารถแยกแยะได้ว่าอาหารใดมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ การทำความเข้าใจข้อมูลโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจากเป็นการให้ข้อมูลที่มีคุณค่าเกี่ยวกับองค์ประกอบของอาหารที่เราบริโภค และช่วยให้เราตัดสินใจเลือกอย่างมีข้อมูลและดีต่อสุขภาพ ต่อไปนี้เป็นเหตุผลสำคัญบางประการว่าทำไมการรู้ข้อมูลโภชนาการจึงมีความสำคัญ:- อาหารที่สมดุล:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการช่วยให้แต่ละบุคคลสร้างอาหารที่สมดุลและครบถ้วนโดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารที่จำเป็นในอาหารประเภทต่างๆ อาหารที่สมดุลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี
-
- ปริมาณสารอาหาร:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการช่วยให้บุคคลสามารถติดตามการบริโภคสารอาหารของตนได้ โดยมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันในปริมาณที่เพียงพอ
-
- การป้องกันโรค:
- การจัดการน้ำหนัก:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการ รวมถึงปริมาณแคลอรี่ ช่วยให้บุคคลจัดการน้ำหนักได้โดยการทำความเข้าใจสมดุลพลังงาน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างแคลอรี่ที่บริโภคและแคลอรี่ที่ใช้ไป ช่วยในการตัดสินใจเลือกที่สอดคล้องกับการลดน้ำหนัก การรักษา หรือบรรลุเป้าหมาย
-
- โรคภูมิแพ้และข้อจำกัดด้านอาหาร:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่แพ้อาหารหรือมีข้อจำกัดด้านอาหาร ช่วยให้พวกเขาสามารถระบุและหลีกเลี่ยงส่วนผสมเฉพาะที่อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้
-
- การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน:
-
-
- นักกีฬาและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายสามารถใช้ข้อมูลโภชนาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ ช่วยในการทำความเข้าใจความสมดุลของสารอาหารหลัก (คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน) ที่จำเป็นสำหรับพลังงานและการฟื้นฟู
-
- รองรับการเติบโตและการพัฒนา:
-
-
- สำหรับเด็ก วัยรุ่น และสตรีมีครรภ์ การรู้ข้อมูลโภชนาการถือเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสม สารอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียมและธาตุเหล็ก มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงชีวิตเหล่านี้
-
- การตัดสินใจเลือกอาหารอย่างมีข้อมูล:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการช่วยให้แต่ละบุคคลมีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกอาหารที่พวกเขากินได้ ช่วยในการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ เลือกตัวเลือกที่มีสารอาหารหนาแน่น และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว หรือโซเดียมสูง
-
- การป้องกันการขาดสารอาหาร:
-
-
- ข้อมูลโภชนาการช่วยป้องกันการขาดสารอาหารโดยทำให้มั่นใจว่าแต่ละบุคคลรับประทานอาหารที่หลากหลายซึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพที่ดีที่สุด
-
- การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม:
-
- การรับประทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการมีส่วนช่วยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม ข้อมูลโภชนาการช่วยให้แต่ละบุคคลตัดสินใจเลือกที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใจและอารมณ์ด้วย
อย่าปล่อยให้ข้อมูลฉลากโภชนาการที่อยู่ตรงหน้าหลอกเราได้
เคล็ดลับที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการอ่านฉลากทางโภชนาการ คือ การละเว้นการกล่าวอ้างต่างๆ ที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ ฉลากด้านหน้าผลิตภัณฑ์มักจะหลอกหล่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าดีต่อสุขภาพ มีงานวิจัยที่พบว่า การเพิ่มการกล่าวอ้างที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพบนสินค้าทำให้สินค้าดึงดูดผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าที่ไม่มีการกล่าวอ้างด้านสุขภาพ ผู้ผลิตมักไม่ซื่อสัตย์ในการออกแบบฉลากเหล่านี้ พวกเขามักจะใช้คำกล่าวอ้างที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด หรืออ้างสิ่งที่เป็นเท็จ ตัวอย่างเช่น ซีเรียลอาหารเช้าที่มีน้ำตาลสูงหลายชนิด เช่น โกโก้พัฟ ธัญพืชเต็มเมล็ด ฉลากอาจจะระบุว่ามีประโยชน์อย่างมาก แต่ข้อมูลจริงๆ อาจจะต้องอ่านฉลากโดยละเอียดอ่านและศึกษาเกี่ยวกับส่วนประกอบในฉลากอาหาร
ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จะเรียงลำดับการแสดงปริมาณจากมากที่สุดน้อยที่สุด นั่นหมายความว่าส่วนผสมแรกคือ ส่วนประกอบที่ผู้ผลิตใช้มากที่สุด หลักการง่ายๆ คือ การสังเกตส่วนผสม 3 อย่างแรก เนื่องจากเป็นสิ่งที่คุณกำลังรับประทานเป็นส่วนใหญ่ หากส่วนผสมลำดับแรก ได้แก่ ธัญพืชกลั่น น้ำตาลชนิดหนึ่ง หรือไขมันอิ่มตัวให้สันนิษฐานว่าไม่ดีต่อสุขภาพ ให้ลองทางเลือกอื่นๆ แทนโปรดสังเกตปริมาณโภชนาการอาหารที่แนะนำให้บริโภค
ฉลากโภชนาการจะระบุจำนวนแคลอรี่ และสารอาหารในปริมาณมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักจะเป็นการรับประทานครั้งเดียวที่แนะนำ อย่างไรก็ตามขนาดที่แนะนำมักจะน้อยกว่าการบริโภคจริง ตัวอย่างเช่น คำแนะนำในการรับประทาน 1 ครั้ง อาจเป็นโซดาครึ่งกระป๋อง คุกกี้ ¼ ช็อกโกแลต ½ แท่ง หรือบิสกิตชิ้นเดียว ในการทำเช่นนี้ผู้ผลิตพยายามหลอกลวงผู้บริโภคให้เข้าใจว่าอาหารมีแคลอรี่ และน้ำตาลน้อย หลายคนไม่ทราบถึงคำแนะนำในการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และเข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหมายถึง 1 หน่วยบริโภค หากต้องการที่จะทราบถึงคุณค่าทางโภชนาการของสิ่งที่คุณกำลังรับประทานคุณต้องคูณด้วยจำนวนครั้งที่แนะนำให้บริโภคการกล่าวอ้างในฉลากที่มักจะทำให้เข้าใจผิด
การกล่าวอ้างสิทธิ์ด้านสุขภาพของบรรจุภัณฑ์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อถึงดูดใจผู้บริโภค และโน้มน้าวให้คุณมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นดีต่อสุขภาพ ต่อไปนี้คือคำกล่าวอ้างที่พบได้บ่อย และความหมายของมัน- แคลอรี่ต่ำหรือไขมันต่ำ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้ผ่านการแปรรูป เพื่อลดแคลอรี่หรือไขมัน ตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อดูว่ามีการใช้สิ่งใดทดแทนน้ำตาลหรือไม่
- มัลติเกรน ฟังดูดี แต่หมายความว่าผลิตภัณฑ์นี้มีธัญพืชมากกว่า 1 ชนิดเท่านั้น สิ่งเหล่านี้เป็นธัญพืชที่ผ่านการกลั่นมามาก เว้นแต่ผลิตภัณฑ์จะถูกระบุว่าเป็นเมล็ดธัญพืชไม่ผ่านการกลั่น
- ธรรมชาติ นี่ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะคล้ายกับธรรมชาติ แต่กำลังจะสื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้ทำจากธรรมชาติ เช่น แอปเปิ้ล หรือข้าว เป็นต้น
- อินทรีย์ ไม่ได้หมายความว่าดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่นน้ำตลอินทรีย์ก็ยังคงเป็นน้ำตาลอยู่ดี
- ไม่มีน้ำตาล ผลิตภัณฑ์บางอย่างมีน้ำตาลสูง พวกเขาก็หลีกเลี่ยงโดยใช้สารทดแทนความหวาน แต่ก็ยังไม่เกิดประโยชน์อยู่ดี
- แคลอรี่ต่ำ ผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีต่ำจะต้องมีแคลอรี่น้อยกว่าผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของผู้ผลิตนั้นๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าน้อยกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ
- ไขมันต่ำ หมายความว่า ไขมันลดลง แต่โปรดอ่านข้อมูลด้วยความระมัดระวัง
- คาร์โบไฮเดรตต่ำ เป็นที่ทราบกันดีว่าคาร์โบไฮเดรตต่ำจะทำให้สุขภาพดี แต่อย่างไรก็ตามอาหารแปรรูปที่ระบุว่ามีคาร์โบไฮเดรตต่ำก็ยังเป็นอาหารขยะที่ผ่านการแปรรูปอยู่ดี
- ผลิตจากเมล็ดธัญพืช หากธัญพืชไม่ใช่ส่วนผสมที่แสดง 3 อันดับแรง นั่นแสดงว่าประกอบไปด้วยธัญพืชน้อยมาก
- อาหารเสริม หมายความว่ามีการเพิ่มสารอาหารบางอย่างลงในผลิตภัณฑ์ เช่น การเติมวิตามินบางตัวลงไป แต่ะนั่นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
- ปราศจากกลูเตน คำว่า ปราศจากกลูเตนไม่ได้หมายความว่าจะดีต่อสุขภาพ แต่เป็นการบอกว่า ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสมของข้าวสาลี ข้าวไรย์ หรือข้าวบาร์เลย์ อาหารที่ปราศจากกลูเตนจำนวนมากมักจะผ่านการแปรรูป และเต็มไปด้วยไขมัน และน้ำตาลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
- รสผลไม้ อาหารแปรรูปหลายชนิดมีชื่อที่สื่อถึงรสชาติธรรมชาติ เช่น สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่ามีส่วนผสมของผลไม้ แต่อาจจะหมายถึงมีสารเคมีที่ให้รสชาติเหมือนผลไม้ก็ได้
- ไม่มีไขมันทรานส์ หมายถึง“ ไขมันทรานส์น้อยกว่า 0.5 กรัมต่อมื้อ” ดังนั้นหากปริมาณที่แนะนำให้รับประทานนั้นน้อยมากจนทำให้เข้าใจผิด ผลิตภัณฑ์อาจยังคงมีไขมันทรานส์อยู่ อาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงส่วนมากเป็นอาหารออร์แกนิก หรือจากธรรมชาติ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้การันตีว่าจะดีต่อสุขภาพ
ชื่อน้ำตาลในตารางโภชนาการที่แตกต่างกัน
น้ำตาลนั้นมีมากมายหลายชื่อที่หลายๆคนอาจจะไม่รู้จัก ผู้ผลิตอาหารใช้สิ่งนี้เพื่อประโยชน์ โดยการใส่น้ำตาลหลายชนิดลงในผลิตภัณฑ์ มีเจตนา เพื่อซ่อนจำนวนจริงของผลิตภัณฑ์ ในการทำเช่นนี้ทำให้ผู้ผลิตสามารถแสดงรายการส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพได้ที่ด้านบนโดยกล่าวถึงน้ำตาลหลายชนิด (หลายชื่อ) ในบรรทัดต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงปริมาณน้ำตาลโดยรวม เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลจำนวนมากโดยไม่ได้ตั้งใจ ระวังชื่อน้ำตาลต่อไปนี้ในส่วนผสม- ชนิดของน้ำตาล: น้ำตาลหัวบีท น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลเนย น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลอินทผลัม น้ำตาลทอง น้ำอ้อยระเหย และน้ำตาลไอซิ่ง เป็นต้น
- ประเภทของน้ำเชื่อม: น้ำเชื่อมCarob น้ำเชื่อมสีทอง น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง น้ำผึ้ง น้ำหวานหางจระเข้, เชื่อมมอลต์ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำเชื่อมข้าวโอ๊ต น้ำเชื่อมรำข้าว และน้ำเชื่อมข้าว เป็นต้น
- น้ำตาลอื่น ๆ : มอลต์ ข้าวบาร์เลย์ กากน้ำตาล ผลึกน้ำอ้อย แลคโตส สารให้ความหวาน ข้าวโพดฟรุกโตส ผลึกเดกซ์แทรน ผงมอลต์ เอทิลมอลตอล ฟรุกโตสน้ำผลไม้เข้มข้น กาแลคโตส กลูโคสไดแซ็กคาไรด์มอล โตเด็กซ์ตริน และมอลโตส เป็นต้น
บทสรุปการอ่านฉลากโภชนาการที่ดี
วิธีการอ่านฉลากโภชนาการที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการเลือกสินค้าจากฉลากโภชนาการที่หลอกลวงคือ การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป อย่างไรก็ตามหากคุณตัดสินใจที่จะซื้ออาหารแปรรูป โปรดใช้หลักการในบทความนี้ให้เป็นประโยชน์ในการเลือกอาหารด้วยฉลากโภชนาการหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น