น้ำแร่ธรรมชาติได้มาจากแหล่งน้ำใต้ดิน ต่างจากน้ำดื่มปกติ น้ำแร่จะไม่ผ่านกระบวนการทางเคมี
เหมือนชื่อเรียก น้ำแร่มีแร่ธาตุปริมาณสูงเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะแมกนีเซียม แคลเซียม และโซเดียม แต่น้ำแร่ดีกว่าน้ำปกติ และประโยชน์คืออะไร ในบทความนี้จะอธิบายถึงประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ได้จากการดื่มน้ำแร่
น้ำแร่และน้ำปกติ
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนต้องการน้ำเพื่อมีชีวิตรอด น้ำไม่เพียงจะช่วยในหารทำงานของร่างกายที่จำเป็นเท่านั้นแต่ยังช่วยให้สารอาหารที่จำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาดื่มน้ำสะอาด แต่ก็มีอีกหลายๆคนเลือกจะดื่มน้ำแร่จากขวดเพื่อรับรู้ถึงความบริสุทธิ์ และได้ประโยชน์เพื่อสุขภาพ น้ำแร่ต่างกับน้ำปกติอย่างไร โดยยึดหลักความจริงของหลักฐานที่มีพบว่าความแตกต่างนั้นยังไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัด ต่อไปนี้คือ ข้อแตกต่างระหว่างน้ำจากก็อก และน้ำแร่น้ำก็อก
น้ำที่มาจากท่อน้ำภายในบ้านนั่นมาจากพื้นผิว หรือแหล่งน้ำใต้ดิน ในสหรัฐน้ำจากก็อกจะต้องได้มาตรฐานตามกฏหมายน้ำดื่มปลอดภัยจากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะควบคุม และจำกัดจำนวนสารปนเปื้อนที่มีอยู่ในน้ำที่มีไว้ใช้บริโภคในบ้าน น้ำตามที่สาธารณะจะถูกนำมาจากแหล่งน้ำเพื่อนำมาดูแลต้นไม้ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยสารเคมี น้ำสะอาดทั้งหลายนี้จะถูกส่งต่อไปยังบ้านเรือนผ่านระบบท่อใต้ดิน น้ำก็อกจะมีการเติมสารประกอบแร่ธาตเข้าไป ซึ่งรวมไปถึงแคลเซียม แมกนีเซียม และโปรแตสเซียม น้ำบาดาลจะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุสูงซึ่งจัดว่าเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุที่อยู่ในน้ำบาดาลเกิดจากการสะสมซึ่งนั่นเท่ากับสามารถกัดกร่อนท่อ หรือทำให้ไม่เกิดการไหลเวียน การดื่มน้ำจากแหล่งสาธารณะอาจมีการปนเปื้อนจากสนิมหรือการรั่วซึมของท่อที่สามารถก่อให้เกิดน้ำเป็นพิษได้น้ำแร่
น้ำแร่มาจากแหล่งใต้ดินธรรมชาติ และน้ำแร่ธรรมชาติ ซึ่งให้แร่ธาตุสูงกว่าน้ำก็อก แร่ธาตุที่มักพบในน้ำแร่รวมไปถึง:- แคลเซียม
- แมกนีเซียม
- โปรแตสเซียม
- โซเดียม
- ไบคาร์บอเนต
- เหล็ก
- สังกะสี
1. เป็นแหล่งของแมกนีเซียม
ทั้งน้ำแร่ และน้ำก็อกเป็นแหล่งของแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีบทบาทที่จำเป็นในการควบคุมความดันโลหิต ระดับกลูโคสในเลือด และการทำงานของเส้นประสาท น้ำในบางแหล่งอาจมีแมกนีเซียมมาก หรือน้อยแตกต่างกันออกไป จำนวนแมกนีเซียมในน้ำสามารถมีได้ตั้งแต่ 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ไปจนถึง 120 มก./ลิตร ขึ้นอยู่กับแหล่งของน้ำ ปริมารสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันของแมกนีเซียมคือ:- 310–320 มก.สำหรับผู้ใหญ่เพศหญิง
- 400–420 มก.สำหรับผู้ใหญ่
- เบื่ออาหาร
- อ่อนเพลีย
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- คลื่นไส้ และอาเจียน
- เหน็บชา หรือเสียวซ่า
- ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ
- มีระดับแคลเซียม หรือโปรแตสเซียมต่ำ
- อารมณ์เปลี่ยน
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- ชัก
2. ความดันโลหิตต่ำ
การมีระดับแมกนีเซียมต่ำอาจส่งผลทำให้ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคที่เป็นสาเหตุทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ น้ำแร่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด3. ช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือด
น้ำแร่อาจมีปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม และโปรแตสเซียมจำนวนมาก ซึ่งล้วนช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด แคลเซียมคือ สิ่งที่จำเป็นสำหรับสร้าง และทำให้กระดูกแข็งแรง น้ำแร่ช่วยควบบคุมอัตรา และจังหวะการเต้นของหัวใจ4. ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง
น้ำแร่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง เมื่อเนื้อเยื่อกระดูกมีการสลาย ร่างกายจะสะสมกระดูกใหม่ขึ้นแทน ในระหว่างช่วงวัยรุ่น กระดูกใหม่จะมีการสะสมอย่างรวดเร็วกว่ากระดูกคนสูงอายุที่สลายตัว แต่อย่างไรก็ตามหลังจากอายุ 20 ปี การสูญเสียกระดูกจะเริ่มมีมากกว่าการสร้างตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเปราะบาง กระดูกอ่อนแอ การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงสามารถทำให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันการสูญเสียกระดูกได้ แมกนีเซียมช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงจากการศึกษาแนะนำว่าหญิงสูงอายุคนได้รับแมกนีเซียมสูง มากกว่า 422.5 มก.ต่อวัน มีมวลกระดูกมากกว่าคนที่ได้รับแร่ธาตุต่ำ5. ช่วยทำให้ระบบย่อยมีสุขภาพที่ดี
การได้รับแมกนีเซียมที่พอเพียงจากการรับประทานสามารถช่วยป้องกันท้องผูก และช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แมกนีเซียมจะดึงเอาน้ำไปสู่ลำไส้ ซึ่งชวยทำให้ลักษณะของอุจจาระดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อลำไส้มีการผ่อนคลาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ การดื่มน้ำแร่ที่มีแมกนีเซียมซัลเฟต และโซเดียมซัลเฟตเป็นส่วนประกอบช่วยทำให้มีการขับถ่ายบ่อยขึ้น และทำให้คุณภาพชีวิตของคนที่มีภาวะท้องผูกดีขึ้นความเสี่ยงและโทษของน้ำแร่
น้ำแร่มีความปลอดภัยในการดื่ม น้ำแร่คาร์บอเนตที่มีกรดคาร์บอนิกอาจเป็นสาเหตุของการสะอึก หรือท้องอืด น้ำแร่ไม่ได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อเหมือนกับน้ำก็อกเพราะบรรจุขวดจากแหล่งน้ำ ดังนั้นอาจมีเชื้อจุลินทรีย์ที่หลากหลายพิษจากพลาสติก
พลาสติกบรรจุภัณฑ์ทุกชนิดมีบิสฟีนอล เอ หรือBPA เป็นสารเคมีที่ไปรบกวนการทำงานฮอร์โมนให้เป็นปกติ ไมโครพลาสติก ส่วนประกอบของพลาสติกขนาดเล็ก คือ สิ่งที่ควรเป็นกังวล นักวิทยาศาสตร์พบไมโครพลาสติกในอาหาร และเครื่องดื่มรวมถึงอาหารทะเล เบียร์ และเกลือบริโภคน้ำโซดาทำให้ฟันเสียหาย
น้ำที่มีความซ่า หรือน้ำโซดา สามารถทำให้เคลือบฟันเสียหาย น้ำโซดามีระดับค่าพีเอชต่ำกว่าน้ำปกติ ทำให้มันเป็นกรดอ่อนๆ น้ำโซดาจึงไปลดเคลือบฟันบนฟันได้อย่างเห็นชัดเจนในห้องปฏิบัติการ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ น้ำอัดลมมีโทษหรือเปล่าน้ำแร่และคำถามที่พบบ่อย
น้ำแร่คืออะไร?- น้ำแร่คือน้ำที่มีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ มักมาจากน้ำพุใต้ดินและวางตลาดเนื่องจากประโยชน์ต่อสุขภาพและมีแร่ธาตุที่เป็นเอกลักษณ์
- ปริมาณแร่ธาตุในน้ำแร่อาจแตกต่างกันไป แต่แร่ธาตุทั่วไป ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม และไบคาร์บอเนต องค์ประกอบเฉพาะขึ้นอยู่กับลักษณะทางธรณีวิทยาของแหล่งน้ำ
- ใช่ น้ำแร่แตกต่างจากน้ำประปา แม้ว่าน้ำประปาอาจผ่านกระบวนการบำบัดและการทำให้บริสุทธิ์ แต่น้ำแร่นั้นได้มาจากน้ำพุธรรมชาติและมีแร่ธาตุอยู่ตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อม
- น้ำแร่มักได้รับการยกย่องว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำแร่อาจส่งผลต่อสุขภาพกระดูก ความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ และความเป็นอยู่โดยรวม อย่างไรก็ตาม ปริมาณแร่ธาตุในน้ำแร่อาจไม่เพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นแหล่งสารอาหารหลักได้
- บางคนเชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำแร่บางประเภทอาจช่วยในการย่อยอาหาร อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างนี้มีจำกัด และการตอบสนองของแต่ละคนต่อเครื่องดื่มอัดลมอาจแตกต่างกันไป
- โดยทั่วไปหญิงตั้งครรภ์สามารถดื่มน้ำแร่ในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารที่สมดุล อย่างไรก็ตาม การพิจารณาสภาวะสุขภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล
- ใช่ น้ำแร่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เช่นเดียวกับน้ำทั่วไป ปริมาณแร่ธาตุไม่ส่งผลต่อคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย
- ไม่มีการจำกัดปริมาณน้ำแร่ที่แนะนำต่อวันโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การกลั่นกรองเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการบริโภคแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ บุคคลที่มีปัญหาด้านสุขภาพโดยเฉพาะควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
- โดยทั่วไปน้ำแร่จะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและไม่หมดอายุในลักษณะเดียวกับอาหารที่เน่าเสียง่าย อย่างไรก็ตาม รสชาติและคุณภาพอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเก็บน้ำไว้ในภาชนะที่แสงหรืออากาศสามารถทะลุผ่านได้
บทสรุป
น้ำแร่มีแมกนีเซียม แคลเซียม โซเดียม และแร่ธาตที่มีประโยชน์สูง การดื่มน้ำแร่อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จากการวิจัยพบว่าคนที่ดื่มน้ำแร่ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีขึ้นมากกว่าคนที่ดื่มน้ำก็อก ในอเมริกาได้มีกฏหมายควบคุมคุณภาพของน้ำก็อกไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าน้ำก๊อกจะต้องปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ที่สร้างความเสียหาย น้ำก็อกอาจมีการเติมแร่ธาตุทำให้มีราคาถูกลงเพื่อเป็นตัวเลือกแทนน้ำแร่ การดื่มน้ำแร่โซดาอาจเป็นสาเหตุทำให้ฟันสึกกร่อน แร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำก็อกจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสถานที่หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น