ส้ม (Orange) เป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยมของโลกเลยก็ว่าได้ ส้มมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus x sinensis และอยู่ในผลไม้ตระกูลซิตรัส ซึ่งเป็นผลไม้กลุ่มใหญ่ ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบถึงต้นกำเหนิดของส้มอย่างแน่ชัด แต่การปลูกพืชน่าจะเริ่มในเอเชียตะวัน ออกนับพันๆปีมาแล้ว ทุกวันนี้ ปลูกส้มกันในเขตอบอุ่นของโลก ทั้งกินสดและกินน้ำส้ม ส้มมีใยอาหาร วิตามินซี ไทอามีน โฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ร่างกาย
สรรพคุณของส้ม และสารอาหาร
ในส้มครึ่งลูก (100 กรัม) มี แคลอรี 47 น้ำ 87% โปรตีน 0.9 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11.8 กรัม น้ำตาล 9.4 กรัม ใยอาหาร 2.4 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม ส้มประกอบด้วยน้ำและคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ มีโปรตีนและไขมันเล็กน้อยและแคลอรีต่ำ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เช่นกลูโคส,ฟรุกโตสและซูโครสเป็นคาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่ที่พบในส้ม ทำให้ส้มมีความหวาน แม้ว่าจะมีน้ำตาล แต่ส้มมี Glycemic index (GI คือการวัดว่าน้ำตาลถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดได้เร็วเพียงใด หลังกินอาหาร) เพียง 31–51 ซึ่งถือว่าต่ำ ค่า GI ต่ำมีผลดีต่อสุขภาพ ส้มที่มีค่าGI ต่ำเพราะมี polyphenol มาก และมีใยอาหาร ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดค่อยๆสูงขึ้นใยอาหาร
ส้มเป็นแหล่งของเส้นใยอาหาร ส้มผลใหญ่หนึ่งผล 184 กรัม มีใยอาหารราว 18%ของที่ร่างกายต้องการต่อวัน ใยอาหารที่พบมากในส้มคือ Pectin, Cellulose, Hemicellulose และ Lignin ใยอาหารมีผลดีต่อสุขภาพมากมาย รวมทั้งการทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ลดน้ำหนักและลดคอเลสเตอรอลวิตามินและเกลือแร่
ส้มมีวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด โดยเฉพาะ วิตามินซี ไทอามีน โฟเลตและโพแทสเซียม- วิตามินซี ส้มมีวิตามินซีมาก ส้มผลใหญ่หนึ่งลูก ให้วิตามินซีมากกว่า 100% ของความต้องการต่อวัน
- ไทอามีน เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง บางครั้งเรียกวิตามินบี1 พบในอาหารทั่วไป
- โฟเลต หรือ วิตามินบี9 หรือกรดโฟลิกมีหน้าที่หลากหลาย พบมากในพืช
- โพแทสเซียม ส้มมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยลดความดันเลือดในผู้ที่มีความดันเลือดสูงและอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
สารจากพืชอื่นๆ
ส้มดีต่อสุขภาพเนื่องจากส้มมีสาร Bioactive Plant ในปริมาณมาก และนอกจากนี้ยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสองชนิดที่พบมากในส้มคือ Carotenoid และ PhenolicPhenolic
ส้มเป็นแหล่งสำคัญของ Phenolic โดยเฉพาะ flavonoid ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี- Hesperidin เป็น flavonoid จากพืชตระกูลซิตรัส เป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลักในส้ม มันมีผลดีต่อสุขภาพมากมาย
- Anthocyanins เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ flavonoid ทำให้ส้มเลือด(blood orange)มีเนื้อเป็นสีแดง
Carotenoid
ผลไม้ตระกูลซิตรัสทั้งหมดมีสารต้านอนุมูลอิสระ carotenoid สูงชึ่งทำให้ส้มมีสีสดใส- Beta-cryptoxanthin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระcarotenoid ที่มีมากมายในส้ม และร่างกายของเราจะเปลี่ยนมันเป็นวิตามินเอ
- Lycopene สารต้านอนุมูลอิสระ ที่พบมากในส้มนาเวลที่มีเนื้อสีแดง Lycopene ยังพบในมะเขือเทศและเกรปฟรุต มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
กรดซิตริก
ส้มและผลไม้ตระกูลซิตรัสมีกรดซิตริกและซิเตรตสูง ทำให้มีรสเปรี้ยว จากการวิจัยพบว่ากรดซิตริกและซิเตรตอาจช่วยป้องกันการก่อตัวของนิ่วในไตได้ประโยชน์ต่อสุขภาพของส้ม
จากการศึกษาในคนและสัตว์ พบว่า การรับประทานส้มเป็นประจำช่วยให้สุขภาพดี เช่น ประโยชน์ต่อไปนี้สุขภาพหัวใจ
โรคหัวใจยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการตายก่อนวัยอันควรของคนในโลก สาร Flavonoid โดยเฉพาะ Hesperidin ในส้มอาจมีผลป้องกันโรคหัวใจ การศึกษาในคลินิกในคน แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำส้มทุกวันเป็นเวลาสี่สัปดาห์ มีผลทำให้เลือดเจือจางลง และอาจลดความดันโลหิตลงได้ชัดเจน ใยอาหารก็มีบทบาทเช่นกัน การกินใยอาหารในผลไม้ตระกูลซิตรัสแสดงให้เห็นว่าช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดได้ หากรับประทานส้มทั้งผล และรับประทานอย่างสม่ำเสมออาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ป้องกันการเกิดนิ่วในไต
ส้มเป็นแหล่งของกรดซิตริก และซิเตรต ซึ่งเชื่อว่าช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต ผู้ที่มีนิ่วในไต จะได้รับโพแทสเซียมซิเตรต ซิเตรตในส้มก็ดูเหมือนจะได้ผลอย่างเดียวกันป้องกันเลือดจาง
เลือดจางคือการที่มีระดับเม็ดเลือดแดงหรือฮีโมโกลบินต่ำ ทำให้การขนส่งออกซิเจนไปที่อวัยวะต่างๆน้อยลง ส่วนใหญ่เกิดจาดการขาดธาตุเหล็ก แม้ว่าส้มไม่มีธาตุเหล็ก แต่มันมีกรดอินทรีย์ เช่นวิตามินซีและกรดซิตริก ซึ่งสารทั้งสองนี้ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เมื่อกินพร้อมอาการที่มีธาตุเหล็ก ส้มจึงช่วยป้องกันเลือดจางได้ประโยชน์ของน้ำส้ม
น้ำส้มเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก ความแตกต่างที่สุดของส้มทั้งผลและน้ำส้มคือ น้ำส้มมีใยอาหารน้อยมาก น้ำส้มหนึ่งถ้วย (240 ซีซี) มีน้ำตาลธรรมชาติเท่ากับส้มสองผล และไม่อิ่มด้วย ดังนั้น เมื่อเราดื่มน้ำส้ม ก็มักจะมากไปและทำให้น้ำหนักเพิ่มและมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อดื่มน้ำส้มที่เพิ่มน้ำตาล แม้ว่าน้ำส้มจะดีต่อสุขภาพ หากดื่มพอดี แต่ส้มทั้งผลเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก แต่ถึงกระนั้นยังมีความเชื่อว่าหากดื่มน้ำส้มทุกวันจะช่วยให้ผิวพรรณสดใสโทษของส้ม
ส้มไม่มีผลเสีย บางคนอาจแพ้ส้ม แต่น้อยมาก บางคนที่มีอาการแสบหน้าอก การกินส้มทำให้อาการเลวลง เพราะส้มมีกรดอินทรีย์ ส่วนใหญ่คือ กรดซิตริก และแอสคอร์บิค (วิตามินซี)สรรพคุณของเปลือกส้ม
นอกจากส้มที่มีประโยชน์อย่างมากมายต่อสุขภาพแล้ว เปลือกส้มกินแล้วอย่าทิ้งเพราะสามารถทำประโยชน์ได้หลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในครัวเรือนเปลือกส้มทำอะไรได้บ้าง
- เปลือกส้มสามารถใช้ผสมลงไปในปุ๋ยหมักเพื่อลดกลิ่นเหม็นของปุ๋ยหมักได้
- นำเปลือกส้มมาบดเป็นสครับขัดผิวได้
- นำเปลือกส้มไปแปรรูปเป็นเทียนหอมแบบทำเองได้บ้านได้ง่าย ๆ
- เปลือกส้มนำไปตากแห้งแล้วนำมาเผาเพื่อไล่ยุงได้
โภชนาการของส้ม 100 กรัม
คุณค่าทางโภชนาการต่อไปนี้เป็นค่าโดยประมาณจากส้มดิบส่วนที่บริโภคได้ 100 กรัม (ส้มลูกเล็กประมาณ 1 ผล):- แคลอรี่: 43 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต: 8.2 กรัม
- น้ำตาล: 8.2 กรัม
- ใยอาหาร : 2.4 กรัม
- โปรตีน: 1 กรัม
- ไขมัน : 0.2 กรัม
- วิตามินซี : 53.2 มิลลิกรัม (88% ของมูลค่ารายวัน)
- วิตามินเอ: 225 IU (4% ของมูลค่ารายวัน)
- โฟเลต: 30 ไมโครกรัม (8% ของมูลค่ารายวัน)
- โพแทสเซียม : 181 มิลลิกรัม
- แคลเซียม : 43 มิลลิกรัม
- เหล็ก: 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 : 0.07 มิลลิกรัม
สุดท้าย
ส้มเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยมของโลก อร่อยและมีคุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูง และวิตามินอื่นๆ เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้อาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและนิ่วในไต สรุปง่ายๆ ผลไม้ซิตรัสสีสันสดใสนี้ดีเลิศ เหมาะแก่การเพิ่มเข้าไปในอาหารสุขภาพนี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/272782
- https://www.webmd.com/food-recipes/health-benefits-oranges
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น