อาหารบำรุงตับ (Diet for Your Liver) – สูตรอาหารคำแนะนำ

ตับเป็นที่กักเก็บพลังงานของร่างกาย ตับมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ตั้งแต่การผลิตโปรตีน คอเลสเตอรอล น้ำดี ไปจนถึงการเก็บวิตามิน แร่ธาตุ และแม้กระทั่งคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ตับยังมีหน้าที่สลายสารพิษ เช่น แอลกอฮอล์ ยารักษาโรค และผลพลอยได้จากการเผาผลาญตามธรรมชาติ การรักษาตับให้มีสุขภาพดี เป็นสิ่งที่จะทำให้สุขภาพโดยรวมดีด้วยเช่นกัน บทความนี้แสดงรายการอาหาร 10 ชนิด ที่จะช่วยให้ตับมีสุขภาพดี

1. ชาและกาแฟ

กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ดีที่เราสามารถเลือกดื่มได้เพื่อเสริมสุขภาพตับที่ดี มีการศึกษาพบว่า การดื่มกาแฟช่วยป้องกันตับจากโรคภัย แม้แต่ในผู้ที่มีปัญหาตับก็สามารถดื่มเพื่อเสริมสุขภาพได้ ชาได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าชาอาจมีประโยชน์เฉพาะสำหรับตับ ด้วยผลการศึกษาของญี่ปุ่นชิ้นหนึ่งพบว่า การดื่มชาเขียว 10 ถ้วยต่อวัน พบ ว่าดัชนีในเลือดที่แสดงว่าตับมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ชาเขียวกับประโยชน์ที่คาดไม่ถึง

2. เกรปฟรุ๊ต

เกรปฟรุ๊ตมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถปกป้องตับตามธรรมชาติ สารต้านอนุมูลอิสระหลัก 2 ชนิดที่พบในเกรปฟรุ๊ต คือ Naringenin และNaringin จากการศึกษาในสัตว์พบว่า สารต้านอนุมูลอิสระทั้งคู่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย และผลในการป้องกันตับจากความเสียหายของเกรปฟรุตเกิดขึ้นได้ 2 วิธี โดยการช่วยลดการอักเสบ และปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย การศึกษายังแสดงให้เห็นว่า สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถช่วยลดการพัฒนาของพังผืดในตับที่เป็นอันตรายจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่มากเกินไปที่จะสร้างขึ้นในตับ โดยเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง

3. บลูเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่มีแอนโธไซยานินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ผลเบอร์รี่มีสีที่โดดเด่น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การศึกษาในสัตว์ทดลองหลายครั้งพบว่า แครนเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นผลสด หรือสารสกัด หรือน้ำผลไม้สามารถช่วยให้ตับแข็งแรงขึ้นได้ และการบริโภคผลไม้เหล่านี้เป็นเวลา 21 วันช่วยป้องกันตับจากความเสียหาย นอกจากนี้บลูเบอร์รี่ยังมีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มการตอบสนองของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ

4. องุ่น

องุ่น โดยเฉพาะองุ่นสีแดง และสีม่วง มีสารประกอบพืชที่เป็นประโยชน์มากมาย ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Resveratrol ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การศึกษาในสัตว์ทดลองจำนวนมากพบว่า องุ่นผลสด และน้ำองุ่นมีประโยชน์ต่อตับ โดยพบว่า มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งลดการอักเสบ  ป้องกันความเสียหาย และเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ 

5. กระบองเพชร Pricky Pear

กระบองเพชรลูกแพรหนาม (Prickly pear) ที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Opuntia ficus-indica เป็นแคคตัสที่รับประทานได้ นิยมนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในยาแผนโบราณเพื่อรักษาอาการต่อไปนี้

Diet for Your Liver

6. น้ำบีทรูท

น้ำบีทรูทเป็นแหล่งของไนเตรท และสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าเบตาเลน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ และลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการอักเสบต่างๆ และมีความเป็นไปได้ที่การรับประทานหัวบีทก็จะมีผลดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาส่วนใหญ่เป็นการศึกษาน้ำบีทรูท เราสามารถคั้นน้ำบีทรูทด้วยตัวเอง หรือซื้อน้ำบีทรูทจากร้านค้า มีการศึกษาในหนูทดลองพบว่า น้ำบีทรูทช่วยลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการอักเสบในตับ รวมทั้งเพิ่มเอนไซม์ล้างพิษตามธรรมชาติ

7. ผักตระกูลกะหล่ำ

ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่ และมัสตาร์ด เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีไฟเบอร์สูง และมีรสชาติที่โดดเด่น อีกทั้งมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์จากพืช จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า กะหล่ำดอกและบร็อคโคลี่สกัดช่วยเพิ่มระดับของเอนไซม์ล้างพิษและปกป้องตับจากความเสียหาย และการศึกษาในเซลล์ตับของมนุษย์พบว่า มีผลดีต่อตับแบบเดียวกัน ในตอนที่ผักตระกูลกระหล่ำนั้นสุก 

8. ลูกนัท

นัทมีไขมัน สารอาหารสูง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน E และสาอาหารจากพืชที่เป็นประโยชน์ องค์ประกอบนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ รวมทั้งตับด้วย มีการศึกษาในปี 2019 พบว่า การรับประทานอาหารที่มีนัทหรือถั่วปริมาณมากมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคตับไขมัน (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์) ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาเชิงสังเกตครั้งที่ 2 พบว่า ผู้ชายที่รับประทานถั่วจำนวนมากมีความเสี่ยงในการเป็น NAFLD น้อยกว่าผู้ที่รับประทานน้อย

9. ปลาที่มีไขมัน

ปลาที่มีไขมันประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพในการช่วยลดการอักเสบ และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ การวิเคราะห์ในปี 2016 พบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดไขมันในตับ และไตรกลีเซอไรด์ในผู้ที่มีโรคตับไขมันที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์  แม้ว่าการบริโภคปลาที่มีไขมันสูงที่มีโอเมก้า 3 ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อตับของคุณ แต่การเพิ่มไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ต้องนึกถึง อัตราส่วนของไขมันโอเมก้า 3 ต่อไขมันโอเมก้า 6 ที่เหมาะสมก็มีความสำคัญเช่นกัน อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ กินปลาแซลมอนดีไหม

10. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกถือว่าเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อสุขภาพหัวใจ และการเผาผลาญ รวมทั้งมีผลดีต่อตับด้วยเช่นกัน การศึกษาเล็กๆ พบว่ามีผู้ที่เป็น 11 คนที่เป็น NAFLD การบริโภคน้ำมันมะกอกหนึ่งช้อนชา (6.5 มล.) ต่อวันช่วยเพิ่มระดับเอนไซม์ตับ และไขมันได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มระดับของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับผลการเผาผลาญในเชิงบวก

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นโรคตับ

สำหรับบุคคลที่เป็นโรคตับ การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตับและลดความเครียดในตับเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าคำแนะนำด้านโภชนาการที่เฉพาะเจาะจงอาจแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของโรคตับ แต่คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดมีดังนี้
  • แอลกอฮอล์:
      • แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุสำคัญของความเสียหายของตับ ผู้ที่เป็นโรคตับไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์โดยสิ้นเชิง
  • อาหารแปรรูปสูง:
      • อาหารที่ผ่านการแปรรูปสูง มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์สูง และมีสารอาหารต่ำอาจทำให้เกิดการอักเสบและอาจทำให้ความเสียหายของตับรุนแรงขึ้น จำกัดการบริโภคของว่างที่มีน้ำตาล น้ำอัดลม และอาหารแปรรูป
  • อาหารโซเดียมสูง:
      • ปริมาณโซเดียมที่มากเกินไปอาจส่งผลให้มีการกักเก็บของเหลวและทำให้สภาวะแย่ลง เช่น น้ำในช่องท้อง (การสะสมของของเหลวในช่องท้อง) จำกัดการบริโภคเกลือโดยหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ซุปกระป๋อง และของขบเคี้ยวที่มีรสเค็ม
  • อาหารทอดและอาหารที่มีไขมัน:
      • อาหารทอดและอาหารที่มีไขมันมีส่วนทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (NAFLD) จำกัดการบริโภคของทอด ของขบเคี้ยวแปรรูป และอาหารที่มีไขมันไม่ดีต่อสุขภาพสูง
  • เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป:
      • เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป เช่น เบคอน ไส้กรอก และฮอทดอก มีสารประกอบที่อาจทำให้ตับอักเสบได้ เลือกแหล่งโปรตีนไร้มัน เช่น สัตว์ปีก ปลา และโปรตีนจากพืช
  • วิตามินเอมากเกินไป:
      • วิตามินเอในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อตับได้ หลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่ให้วิตามินเอในปริมาณสูงและควรระมัดระวังอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินนี้ เช่น ตับ
  • หอยดิบหรือปรุงไม่สุก:
      • หอยดิบหรือหอยที่ปรุงไม่สุกอาจมีแบคทีเรียหรือไวรัสที่เป็นอันตรายซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคตับ ปรุงหอยให้ละเอียดก่อนบริโภค
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง:
      • แม้ว่าการบริโภคคาเฟอีนในระดับปานกลางโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย แต่การบริโภคเครื่องดื่มให้พลังงานหรืออาหารเสริมที่มีคาเฟอีนสูงมากเกินไปอาจทำให้ตับเกิดความเครียดได้ ลองจำกัดการบริโภคคาเฟอีนและเลือกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ชาสมุนไพร
  • อาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป:
      • อาหารที่มีน้ำตาลสูงสามารถทำให้เกิดโรคอ้วนและการดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคตับ จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนมหวาน และขนมหวาน
  • ยาและอาหารเสริมบางชนิด:
      • ยาและอาหารเสริมบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับตับหรือทำให้ตับถูกทำลาย ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาหรืออาหารเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นโรคตับ
  • อาหารเสริมสมุนไพรที่ไม่ได้รับการควบคุม:
    • อาหารเสริมสมุนไพรบางชนิดอาจมีผลเสียต่อตับ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนที่จะรับประทานอาหารเสริมสมุนไพร เนื่องจากอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือทำให้อาการของตับรุนแรงขึ้

บทสรุปอาหารดูแลตับ

ตับของเราเป็นอวัยวะที่สำคัญ เพราะทำหน้าที่หลักหลายประการ. ดังนั้น ขอแนะนำให้ดูแลสุขภาพตับให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อปกป้องตับ และควรรับประทานอาหารที่ได้แนะนำในข้างต้นเพื่อเสริมสุขภาพตับ เพราะว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพตับ และช่วยในเรื่องต่อไปนี้
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคตับ และมะเร็ง
  • เพิ่มระดับเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ และล้างพิษ
  • ปกป้องจากสารพิษที่เป็นอันตราย
การรรับประทานอาหารทั้ง 10 อย่างที่แนะนำไป เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยคุณดูแลตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด