ยาโคเดอีน (Codeine) – วิธีใช้ และข้อควรระวัง

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ยาโคเดอีน

ยาโคเดอีนคืออะไร 

ยาโคเดอีน (Codeine)  คือ ยาระงับอาการปวดกลุ่มโอปิออยด์ บางครั้งเรียกว่า นาคอติก โคเดอีนถูกใช้ในการรักษาอาการปวดตั้งแต่น้อยไปถึงปานกลาง โคเดอีนยังอาจถูกใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ได้อยู่ในคู่มือยาดังกล่าวนี้ ตามการวิเคราะห์ของแพทย์ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ยาแก้ปวด

คำเตือน

ไม่ควรใช้ยาโคเดอีนหากมีปัญหาด้านการหายใจรุนแรง มีการอุดตันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ หรือหอบหืดกำเริบบ่อยหรือภาวะระบายลมหายใจเกิน ยาโคเดอีนสามารถทำให้การหายใจหยุดหรือช้าลง และบางทีอาจเสพติดได้ การใช้ยาผิดวิธียาโคเดอีนทำให้เกิดการเสพติด การใช้ยาเกินขนาดหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กหรือคนที่ใช้ยาโดยไม่มีใบสั่งจากแพทย์ ไม่ควรใช้ในคนอายุต่ำกว่า 18 ปี  การรับประทานยาโคเดอีนในระหว่างการตั้งครรภ์อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการถอนยาที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตในเด็กแรกเกิดได้ ผลข้างเคียงรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้หากใช้ยาโคเดอีนร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ หรือร่วมกับยาชนิดอื่นที่เป็นสาเหตุทำเกิดอาการง่วงนอนหรือการหายใจช้า

ก่อนเริ่มรับประทานยา Codeine

ไม่ควรใช้ยานี้หากallergy-0094/”>แพ้ยาหรือมีอาการดังต่อไปนี้:
  • หอบหืดรุนแรงหรือมีปัญหาด้านการหายใจ
  • มีการอุดตันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้
  • มีอาหารหอบหืดกำเริบบ่อยหรือมีภาวะระบายลมหายใจเกิน
ในบางรายยาโคเดอีนอาจมีการย่อยสลายอย่างรวดเร็วในตับและเพิ่มระดับในร่างกายได้สูงขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการหายใจช้าที่เป็นอันตรายและอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก ห้ามใช้ยานี้ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เพื่อความแน่ใจด้านความปลอดภัย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมี
  • โรคตับ
  • การหายใจมีปัญหา มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • หอบหืด โรคหลอดลมอุดตันเรื้อรัง ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับหรือการหายใจผิดปกติแบบอื่นๆ
  • ความโค้งของกระดูกสันหลังผิดปกติที่ส่งผลต่อการหายใจ
  • โรคไต
  • มีการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือมีเนื้องอกในสมอง
  • ความดันโลหิตต่ำ
  • มีการอุดตันในระบบทางเดินอาหาร (กระเพาะอาหารหรือลำไส้)
  • ถุงน้ำดีหรือตับอ่อนผิดปกติ
  • ภาวะขาดไทรอยด์
  • โรคแอดดิสัน หรือโรคที่เกิดจากต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ
  • ต่อมลูกหมากโต การปัสสาวะมีปัญหา
  • มีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ เสพติดยา หรือแอลกอฮอล์
ยาบางชนิดสามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อตัสยาโคเดอีนและเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะรุนแรงที่เรียกว่าดซโรโทนิน ซินโดรม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีการรับประทานยาสารกระตุ้นประสาท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือยาซึมเศร้า ยาอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ โรคพาร์กินสัน ยาปวดศีรษะไมเกรน การติดเชื้อรุนแรงหรือยากันอาการคลื่นไส้และอาเจียน ปรึกษาแพทย์ก่อนการปรับเปลี่ยนจำนวนยาก่อนรับประทานยาทุกครั้ง ให้มีการใช้ยาโคเดอีนในระหว่างการตั้งครรภ์ เด็กทารกอาจเกิดภาวะเสพติดยา ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุทำให้อาการถอนยาในเด็กหลังคลอดที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ เด็กทารกที่เสพติดยาจากยานี้อาจต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์นานหลายสัปดาห์ แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ ไม่ควรให้นมบุตรในระหว่างการรับประทานยาโคเดอีน ยาชนิดนี้สามารถถูกส่งผ่านทางน้ำนมมารดา และเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการง่วงนอน การหายใจมีปัญหาหรือเสียชีวิตในเด็กทารก

Codeine

ยาโคเดอีนควรรับประทานอย่างไร 

รับประทานยาโคเดอีนตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามข้อแนะนำในคู่มือยา ยาโคเดอีนสามารถทำให้เกิดอาการหายใจช้าหรือหยุดได้ ห้ามใช้ยาในปริมาณมากเกินไปหรือนานเกินไปกว่าที่แพทย์สั่ง แจ้งให้แพทย์ทราบหากยาดูเหมือนจะไม่ได้ผลรวมไปถึงการบรรเทาอาการปวด ยาโคเดอีนอาจทำให้เกิดการเสพติดแม้จะใช้ในปริมาณปกติก็ตาม ห้ามแบ่งยาใช้ร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะในคนที่มีประวัติเสพติดยาหรือใช้ยาไปในทางที่ผิด การใช้ยานาโคติกผิดวิธีอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเสพติดยา การใช้ยาเกินขนาดหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กหรือคนที่ใช้ยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ การขายยาหรือให้ยาโคเดอีนคือสิ่งที่ผิดกฏหมาย ควรรับประทานยาโคเดอีนพร้อมอาหารหรือนมหากมีอาการมวนท้องหรือปวดท้อง ดื่มน้ำ 6 ถึง 8 แก้วต่อวันเพื่อช่วยป้องกันอาการท้องผูกในขณะรับประทานยาโคเดอีน ไม่ควรใช้ยาทำให้อุจจาระนิ่ม (ยาระบาย) โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ไม่ควรหยุดยาโคเดอีนทันทีหลังจากใช้มาเป็นระยะเวลานาน มิฉะนั้นอาจเกิดอาการถอนยาที่ไม่พึงประสงค์ ปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการหยุดการใช้ยานี้อย่างปลอดภัย เก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้องห่างไกลจากความชื่นและความร้อน เฝ้าติดตามการใช้ยา ยาโคเดอีนคือยาที่เสพติดได้และควรรับรู้หากมีคนที่ใช้ยาไม่เหมาะสมหรือใช้ยาโดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ ไม่ควรเก็บยาโอปิออยด์ที่เหลือ เพียงแค่โดสเดียวเท่านั้นก็สามารถเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในคนที่ใช้ยาโดยไม่ตั้งใจหรือไม่เหมาะสม ปรึกษาเภสัชกรถึงสถานที่นำคืนยาที่ไม่ได้ใช้ หากไม่ด้ส่งยาคืนกลับให้นำยาที่เหลือไปผสมกับทรายแมวหรือผงกาแฟบดในถุงพลาสติกที่ปิดผนึกก่อนทิ้งลงในถังขยะ

หากลืมรับประทานยาจะเกิดอะไรขึ้น 

เพราะยาโคเดอีนคือยาที่ใช้แก้ปวด จึงเป็นยาที่มักไม่ค่อยมีการลืมรับประทาน ให้ข้ามมื้อยามื้อที่ลืมไปเลยหสกพบว่าใกล้เวลายาในมื้อถัดไป ห้ามรับประทานยาเพิ่มเพื่อทดแทนมื้อที่ลืมรับประทานยา

หากรับประทานยาเกินขนาดจะเกิดอะไรขึ้น 

พบแพทย์ฉุกเฉินทันที การรับประทานยาโคเดอีนเกินขนาดสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กหรือคนที่ใช้ยาโดยไม่มีใบสั่งจากแพทย์ การใช้ยาเกินขนาดเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง ผิวหนังเย็นและแตกลอก รูม่านตาเล็กเท่ารูเข็ม การหายใจช้าลง ง่วงนอนมาก หรือโคม่า 

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคืออะไร

ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ อาตทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายหรือเสียชีวิตได้ ยาโคเดอีนอาจทำระบบความคิดหรือปฏิกิริยาแย่ลง หลีกเลี่ยงการขับรถหรือใช้อุปกรณ์เครื่องจักรจนกว่าจะรู้ว่าตัวยาจะส่งผลอะไรต่อตัวคุณบ้าง อาการมึนงงหรือง่วงนอนรุนแรงอาจเป็นสาเหตุทำให้หกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุอื่นๆ

ผลข้างเคียงของยาโคเดอีน

พบแพทย์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือหากมีสัญญานของปฏิกิริยาแพ้ยาโคเดอีน : มีผื่นขึ้น หายใจลำบาก บวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือคอ เหมือนยานาโคติกชนิดอื่นๆ ยาโคเดอีนสามารถทำให้การหายใจช้าลงได้ อาจถึงขั้นเสียชีวิตหากการหายใจเริ่มช้ามากเกินไป ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากพบว่ามีอาการหายใจช้าลงร่วมกับการหยุดหายใจเป็นเวลานาน รีมฝีปากเป็นสีม่วงหรือมีอาการปลุกตื่นยาก โทรหาแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้:

  • หายใจเสียงดัง ถอนหายใจ หายใจไม่สุด
  • อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงหรือชีพจรเต้นอ่อน
  • รู้สึกวิงเวียนศีรษะ คล้ายจะหมดสติ
  • สับสน กระวนกระวาย เห็นภาพหลอน ความคิดหรือพฤติกรรมผิดปกติ 
  • รู้สึกมีความสุขหรือเศร้าสุดขีด
  • ภาวะชัก (มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง)
  • การปัสสาวะมีปัญหา
  • ระดับคอติซอลต่ำ – คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร มึนงง เหนื่อยล้ามากขึ้นหรืออ่อนแรง 
พบแพทย์ทันทีหากมีอาการกลุ่มเซโรโทนิน ซินโดรม เช่น กระสับกระส่าย เห็นภาพหลอน มีไข้ เหงื่อออก ตัวสั่น อัตราการเต้นหัวใจเร็ว กล้ามเนื้อแข็งตัว ชักกระตุก ไม่ให้ความร่วมมือ คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสีย ผลข้างเคียงรุนแรงอาจมีมากขึ้นในผู้สูงอายุและคนที่มีน้ำหนักตัวมากเกิน ขาดสารอาหารหรืออ่อนแอ การใช้ยาโอปิออยด์เป็นระยะเวลานานอาจส่งผลทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก (ความสามารถในการมีบุตร) ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง  ผลข้างเคียงทั่วไปของยาโคเดอีนได้แก่
  • รู้สึกมึนศีรษะหรือง่วงนอน
  • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
  • ท้องผูก
  • มีเหงื่อออก
  • คันเล็กน้อยหรือมีผื่นขึ้น
  ใครที่ควรหลีกเลี่ยงโคเดอีน บุคคลที่มีภาวะต่อไปนี้ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการใช้โคเดอีน:
  • โรคภูมิแพ้:
      • บุคคลที่แพ้โคเดอีนหรือฝิ่นอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ปฏิกิริยาการแพ้ฝิ่นอาจมีตั้งแต่ปฏิกิริยาทางผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรงที่คุกคามถึงชีวิต
  • สภาพระบบทางเดินหายใจ:
      • โคเดอีนสามารถระงับการทำงานของระบบทางเดินหายใจ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ
  • หยุดหายใจขณะหลับ:
      • บุคคลที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) ซึ่งเป็นภาวะที่มีลักษณะการหายใจติดขัดระหว่างการนอนหลับ ควรใช้โคเดอีนด้วยความระมัดระวัง สารฝิ่นอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจแย่ลง และอาจทำให้อาการหยุดหายใจขณะหลับแย่ลง
  • การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น:
      • โคเดอีนสามารถเพิ่มความดันในกะโหลกศีรษะได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้โคเดอีนในบุคคลที่มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ มีความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น หรือสภาวะที่อาจรุนแรงขึ้นจากความดันที่เพิ่มขึ้นในกะโหลกศีรษะ
  • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร:
      • โคเดอีนอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกและอาจชะลอการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร บุคคลที่มีภาวะระบบทางเดินอาหารบางอย่าง เช่น ลำไส้อุดตันหรือโรคลำไส้อักเสบ ควรใช้โคเดอีนด้วยความระมัดระวัง
  • ความผิดปกติของตับ:
      • โคเดอีนถูกเผาผลาญในตับ และบุคคลที่มีความผิดปกติของตับอย่างมีนัยสำคัญอาจจำเป็นต้องใช้โคเดอีนด้วยความระมัดระวัง อาจพิจารณาปรับขนาดยาหรือใช้ยาอื่น
  • ความผิดปกติของไต:
      • โคเดอีนและสารของมันจะถูกขับออกทางไต บุคคลที่มีความผิดปกติของไตอย่างรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรืออาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงโคเดอีนโดยสิ้นเชิง
  • ประวัติการใช้สารเสพติดหรือการเสพติด:
      • บุคคลที่มีประวัติการใช้สารเสพติดหรือติดยาเสพติด โดยเฉพาะฝิ่น ควรหลีกเลี่ยงโคเดอีน โคเดอีนก็เหมือนกับฝิ่นอื่นๆ ที่อาจนำไปใช้ในทางที่ผิด การเสพติด และการเสพติด
  • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
      • การใช้โคเดอีนในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โคเดอีนสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่และอาจส่งผลต่อทารกได้ และควรพิจารณาถึงความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
  • ผู้สูงอายุ:
    • ผู้สูงอายุอาจไวต่อผลข้างเคียงของโคเดอีน เช่น อาการหายใจลำบากและท้องผูก อาจจำเป็นต้องมีขนาดยาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าและการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในประชากรกลุ่มนี้
สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ที่สมบูรณ์ของคุณ รวมถึงอาการป่วยและยาที่มีอยู่ก่อนที่คุณใช้ ก่อนที่จะใช้โคเดอีน ใช้โคเดอีนตามปริมาณและคำแนะนำที่แนะนำโดยผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณหรือตามบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เสมอ หากคุณพบผลข้างเคียงใดๆ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้โคเดอีน โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพของคุณทันที
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด