การดูแลรักษาฟันปลอม (Caring for Dentures)

ฟันปลอมมีกี่แบบ

1. ฟันปลอมถอดได้

• ราคาถูกกว่าฟันปลอม-ฟันแบบติดแน่น
• ถอดออกมาล้างทำความสะอาดง่าย
• ไม่รบกวนฟันข้างเคียง

• ประสิทธิภาพน้อย อาจเคี้ยวอาหารบางชนิดได้ไม่ดีนัก
• อาจหลวมได้ เมื่อเวลาผ่านไป
• เศษอาหารอาจติดใต้ฟันปลอม ทำให้รำคาญขณะกินอาหาร

2. ฟันปลอมแบบติดแน่น

•  สวยงาม 
• บดเคี้ยวได้ดี แข็งแรง 
• ไม่รำคาญ 

• ต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อยึดฟันปลอม 
• ถอดล้างทำความสะอาดไม่ได้ หากทำความสะอาดไม่ดีอาจทำให้ฟันข้างเคียงเสียหาย,เป็นโรคเหงือก หรือฟันผุได้ง่าย
• ราคาแพง 

3. รากฟันเทียม

• สวยงามเหมือนฟันจริงมากที่สุด
• ใช้ได้เท่าเทียมฟันจริง ไม่เกิดการผุซ้ำตรงที่ทำ 

• ราคาสูง 
• ระยะเวลาในการทำนาน มีหลายขั้นตอน
• ถ้าผิดพลาด แก้ไขยาก

 การเลือกใส่ฟันปลอมแบบไหนดี ขึ้นอยู่กับจำนวนของฟันที่เสียไป,สภาพในช่องปากและงบประมาณสำหรับบูรณะฟัน ซึ่งควรต้องตรวจช่องปากและปรึกษากับทันตแพทย์ของคุณ ก่อนการตัดสินใจ

การดูแลรักษาฟันปลอมแบบติดแน่น

การดูแลรักษาฟันปลอมแบบถอดได้

• ระวังฟันปลอมตกแตก เมื่อถอดออกมาควรถือฟันปลอมอย่างระมัดระวัง ควรมีผ้ารองหรือมีน้ำเต็มในอ่าง 
• แปรงและล้างฟันปลอมเป็นประจำทุกวัน เพื่อขจัดเศษอาหารและคราบหินปูน และป้องกันการเกิดคราบถาวร แต่ควรใช้ยาสีฟันเพราะยาสีฟันจะไปกัดกร่อนและทำให้เกิดรอยเล็ก ๆ บนฟันปลอมซึ่งอาหารอาจจะไปติดในรอยเหล่านั้นได้ ใช้แปรงที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มที่ถูกทำมาเพื่อฟันปลอมโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แปรงที่มีขนแข็งเพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายฟันปลอม แปรงเบาๆเพื่อไม่ให้พลาสติกได้รับความเสียหาย ควรล้างฟันปลอมหลังมื้ออาหารทุกมื้อ 
• ทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฟันปลอม สบู่ที่ใช้ล้างมือหรือน้ำยาล้างจานที่อ่อนโยนสามารถทำความสะอาดฟันปลอมได้ การล้างโดยเครื่องอัลตร้าโซนิค เป็นอ่างทำความสะอาดที่มีสารทำความสะอาดผสมอยู่ แช่ฟันปลอมในนั้น แล้วมันก็จะถูกทำความสะอาดโดยคลื่นเพื่อที่จะกำจัดสิ่งที่สะสมอยู่ออกไป  วิธีนี้ไม่ได้ใช้แทนการแปรงฟันปลอมเป็นประจำ แต่มันถูกแนะนำให้ใช้เพราะความปลอดภัยและประสิทธิภาพของมัน 
• เมื่อไม่ใช้ฟันปลอมควรแช่ไว้ในน้ำเปล่าหรือนำ้ยาทำความสะอาดฟัน อย่างไรก็ตาม ฟันปลอมมีส่วนประกอบที่เป็นโลหะอยู่ การแช่ในน้ำยาอาจทำให้สีหมองลงได้ ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลรักษาฟันปลอม ไม่ควรแช่ฟันปลอมในน้ำร้อน เพราะจะทำให้หดตัวได้ 

กระบวนการทำความสะอาดทีละขั้นตอน :

• การเตรียมการ :

• • • ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น อย่าลืมล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียไปยังฟันปลอมของคุณ
    • เติมน้ำอุ่นลงในถ้วยหรือชามฟันปลอมเพื่อใช้ในการล้างและแช่ฟันปลอม

• ถอดฟันปลอม :

• • • ค่อยๆ ถอดฟันปลอมออกจากปาก ใช้มือทั้งสองข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการงอหรือทำให้เสียหาย

• ล้างฟันปลอม :

• • • ถือฟันปลอมของคุณใต้น้ำไหลเพื่อกำจัดเศษอาหารและเศษอาหารที่หลุดออก ล้างฟันปลอมทั้งบนและล่าง

• น้ำยาทำความสะอาด :

• • • ใช้น้ำยาล้างจานสูตรอ่อนโยนจำนวนเล็กน้อยหรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะฟันปลอมกับแปรงฟันปลอมหรือแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันธรรมดา เนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อนมากเกินไปและทำให้วัสดุฟันปลอมเสียหายได้

• แปรงฟันปลอม :

• • • แปรงฟันปลอมทุกพื้นผิวเบา ๆ รวมถึงฟัน เหงือก และสิ่งที่ยึดติดที่เป็นโลหะหรือพลาสติก
    • ระมัดระวังแต่อ่อนโยนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พื้นผิวฟันปลอมเป็นรอย
    • ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับบริเวณที่มีคราบหรือสิ่งสะสม

• แช่ฟันปลอม :

• • • การแช่ฟันปลอมในน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมสามารถช่วยขจัดคราบฝังแน่นและแบคทีเรียได้
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมตามระยะเวลาแช่ที่แนะนำ โดยปกติจะทำในชั่วข้ามคืน

• ล้างอีกครั้ง :

• • • หลังจากแช่เสร็จแล้ว ให้ล้างฟันปลอมให้สะอาดโดยใช้น้ำไหลเพื่อขจัดสิ่งตกค้างออกจากน้ำยาทำความสะอาด

• แปรงปากของคุณ :

• • • ขณะที่ฟันปลอมหลุดออก คุณควรแปรงเหงือก ลิ้น และเพดานปากเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มหรือผ้ากอซ เพื่อขจัดคราบพลัคและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

• จัดเก็บอย่างเหมาะสม :

• • • เมื่อไม่ได้สวมฟันปลอม ให้เก็บไว้ในถ้วยฟันปลอมที่เต็มไปด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาแช่ฟันปลอม เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันปลอมแห้งและบิดเบี้ยว

• การบำรุงรักษารายวัน :

• • ทำความสะอาดฟันปลอมของคุณอย่างน้อยวันละครั้ง โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร เพื่อให้ฟันปลอมสะอาดและสดชื่น
• การตรวจสุขภาพเป็นประจำ :
  • นัดตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำกับทันตแพทย์ของคุณ ซึ่งสามารถตรวจฟันปลอมของคุณเพื่อหาสัญญาณของการสึกหรอ ความเสียหาย หรือชิ้นส่วนที่ไม่เหมาะสม และทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น

เราสามารถปรับเปลี่ยน หรือ ซ่อมฟันปลอมได้หรือไม่ 

เราต้องทำฟันปลอมใหม่หรือไม่ 

เราจะดูแลเหงือกและช่องปากอย่างไรเมื่อใส่ฟันปลอม 

เราควรพบทันตแพทย์บ่อยแค่ไหนเมื่อใส่ฟันปลอม 

นี่คือที่มาในบทความของเรา

• https://www.mayoclinic.org/denture-care/expert-answers/faq-20058375
• https://www.ada.org/en/member-center/oral-health-topics/dentures