ผักชี
ผักชี คือสมุนไพรใกล้ตัวที่ถูกนำไปใช้เพิ่มรสชาติในอาหารหลายๆประเทศ ผักชีมาจากพืชชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coriandrum sativum และเป็นพืชประเภทเดียวกับพาร์สลีย์ แครอทและเซเลอรี่โภชนาการของผักชี
ผักชีหรือที่รู้จักกันในชื่อผักชีหรือผักชีฝรั่งเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติที่ให้สารอาหารที่จำเป็นต่างๆ คุณค่าทางโภชนาการของใบผักชี (ต่อ 100 กรัม) มีดังนี้- แคลอรี่:ประมาณ 23 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต:ประมาณ 3.67 กรัม
- โปรตีน:ประมาณ 2.13 กรัม
- ไขมัน :ประมาณ 0.52 กรัม
- ไฟเบอร์:ประมาณ 2.8 กรัม
- วิตามิน:ใบผักชีอุดมไปด้วยวิตามิน รวมถึงวิตามินเ วิตามินซี วิตามินเค และวิตามินบีหลายชนิด เช่น กรดโฟลิก ไรโบฟลาวิน และไนอาซิน
- แร่ธาตุ:ประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็กในปริมาณเล็กน้อย
ประโยชน์ของผักชีมีมากมาย
ต่อไปนี้คือ 8 ประโยชน์เพื่อสุขภาพของผักชี1 ผักชีช่วยลดน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลง
น้ำตาลในเลือดสูงคือปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เม็ดผักชี สารสกัดและน้ำมันผักชีอาจลดน้ำตาลในเลือดได้ ในความจริงแล้ว คนที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำหรือรับประทานยาโรคเบาหวานควรระวังการใช้ผักชีเพราะสรรพคุณของผักชีมีประสิทธิผลทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ จากการศึกษาในสัตว์แนะนำว่าเม็ดผักชีช่วยลดเลือดในน้ำตาลได้ด้วยเพราะมีเอนไซม์ที่ช่วยกำจัดน้ำตาลในเลือด จากการศึกษาในหนูที่เป็นโรคอ้วนและน้ำตาลในเลือดสูงพบว่าผักชีสกัดหนึ่งโดส (9.1 มก.ต่อน.น.ตัวหนึ่งปอนด์หรือ 20 มก.ต่อนน.ตัวหนึ่งกก.)ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ 4 mmol/L ใน 6 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลต่อน้ำตาลในเลือดเหมือนยาไกลเบนคลาไมด์ จากการศึกษาที่คล้ายกันพบว่าเม็ดผักชีสกัดในปริมาณเท่ากันช่วยลดน้ำตาลในเลือดและเพิ่มการปล่อยอินซูลินในหนูที่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อเทียบกับสัตว์ในกลุ่มควบคุม2 ผักชีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผักชีมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์เสียหายเพราะสารอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถต่อสู้กับการอักเสบในร่างกายได้ สารประกอบเหล่านี้รวมถึง เทอร์ไพนีน เควอซิทินและโทโคฟีรอล ซึ่งอาจต้านมะเร็ง สร้างภูมิคุ้มกันและมีฤทธิ์ปกป้องระบบประสาท จากการศึกษาในหลอดทดลองและในสัตว์3 ประโยชน์ของผักชีต่อสุขภาพของหัวใจ
จากการศึกษาในสัตว์และในหลอดทดลองพบว่าผักชีอาจช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เช่นความดันเลือดสูงและระดับคอเลสเตอรอล (ตัวเลว) LDL ผักชีสกัดมีบทบาทเป็นยาขับปัสสาวะ ช่วยให้ร่างกายขับโซเดียมและน้ำส่วนเกินออก ซึ่งอาจช่วยลดความดันเลือดให้ต่ำได้ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผักชีอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลให้ต่ำลงได้ หนึ่งในกรณีศึกษาพบว่าหนูที่ได้รับเม็ดผักชีมีคอเลสเตอรอล (ตัวเลว) LDLลดลงและเพิ่มคอเลสเตอรอล (ตัวดี) HDL ได้อย่างชัดเจน ยิ่งกว่านั้นหลายคนพบว่าการรับประทานสมุนไพรและเครื่องเทศที่เผ็ดร้อนเหมือนผักชีจะช่วยลดปริมาณโซเดียมที่ทานเข้าไป ซึ่งอาจช่วยทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้น คนที่บริโภคผักชีในปริมาณมากร่วมกับเครื่องเทศอื่นๆ มีแนวโน้มทำให้อัตราการการเกิดโรคหัวใจต่ำลง -โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคนที่รับประทานอาหารแบบตะวันตก ซึ่งเต็มไปด้วยเกลือและน้ำตาล
4 ผักชีประโยชน์ป้องกันสมองให้มีสุขภาพดี
โรคทางสมองทั้งหลายรวมไปถึงโรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งล้วนเป็นผลร่วมกับการอักเสบทั้งสิ้น คุณสมบัติต้านการอักเสบในผักชีอาจช่วยเป็นเกราะป้องกันให้กับโรคดังกล่าว จากการศึกษาหนูพบว่าสารสกัดผักชีช่วยปกป้องไม่ให้เซลล์ประสาทเสียหายที่เกิดจากยากันชัก เพราะมีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาในหนูพบว่าใบผักชีช่วยทำให้ความจำดีขึ้น จึงแนะนำให้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ผักชียังอาจช่วยจัดการเรื่องภาวะวิตกกังวลได้ด้วย จากการศึกษาในสัตว์พบว่าสารสกัดผักชีมีประสิทธิผลใกล้เคียงกับยาไดแอซิแพม เป็นยารักษาโรควิตกกังวลเพื่อลดอาการของโรค5 สรรพคุณผักชีช่วยระบบย่อยอาหารและสุขภาพของลำไส้
น้ำมันสกัดที่ได้จากเม็ดผักชีอาจเร่งและช่วยทำให้ระบบการย่อยดีขึ้น จากการศึกษาคนจำนวน 32 คนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน พบว่าคนที่ใช่ยาสมุนไพรที่มีผักชีเป็นส่วนประกอบ 30 หยดวันละ 3 ครั้ง สามารถลดอาการปวดท้อง ท้องอืดและไม่สบายตัวได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก6 ผักชีอาจช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ
ผักชีมีสารต้านจุลินทรีย์เป็นส่วนประกอบที่อาจช่วยในการต่อสู้กับการติดเชื้อและโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหาร เพิ่มเติมจากการทดลองในหลอดทดลองแสดงให้เห็นว่าเมล็ดผักชีคือเครื่องเทศของชาวอินเดียที่สามารถต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่มีส่วนทำให้เกิดโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ7 อาจช่วยปกป้องผิว
ผักชีอาจมีประโยชน์สำหรับผิวมากมาย ซึ่งรวมไปถึงรอยผื่นไม่รุนแรงเช่นโรคผิวหนังอักเสบ จากการศึกษาหนึ่งพบว่า สารสกัดล้มเหลวในการรักษาผื่นผ้าอ้อมในทารกด้วยตัวของมันเอง แต่สามารถนำมาใช้ร่วมกับสารประกอบเพื่อช่วยผ่อนคลายอื่นๆได้เพื่อเป็นการรักษาด้านอื่น สารต้านอนุมูลอิสระในสารสกัดผักชีอาจช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์เสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่ผิวแก่ก่อนวัยได้พอๆกับป้องกันผิวเสียหายจากแสงรังสีอัลตราไวโอเลตบี8 ง่ายในการเพิ่มเติมในมื้ออาหาร
ทุกส่วนของผักชีสามารถรับประทานได้ แต่เม็ดและใบมีรสชาติที่แตกต่างกันมาก ในขณะที่เม็ดผักชีเป็นกลิ่นรสชาติที่คล้ายดิน ส่วนใบผักชีกลับมีกลิ่นฉุน ซึ่งดีสำหรับนำมาทำเป็นซุป เม็ดผักชีสามารถนำไปทำอาหารอบ ผักดอง ผักย่าง เมื่อโดนความร้อนเม็ดผักชีจะปล่อยกลิ่นหอมออกมา ใบผักชีสามารถนำไปใช้ในซุปหรือใส่ในพาสต้า ซัลซามะเขือเทศหรือในก๋วยเตี๋ยว คุณสามาระนำไปทำเป็นพูเร่ด้วยการนำไปผสมกับกระเทียม ถั่ว น้ำกะทิและน้ำมะนาวเพื่อปั่นสำหรับเบอร์ริโต ซัลซาหรือเป็นน้ำซอสประเด็นสำคัญ
ผักชีมีกลิ่นหอม เป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มักนำมาใช้ในการประกอบอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ผักชีอาจช่วยลดน้ำตาลในเลือด ต่อสู้กับการติดเชื้อและช่วยทำให้หัวใจ สมอง ผิวพรรณและระบบการย่อยอาหารมีสุขภาพที่ดี คุณสามารถนำทั้งเม็ดและใบผักชีมาใช้ได้ง่ายในการรับประทานนี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น