การจัดฟันแบบใส (Clear Brace) – ข้อดีและข้อเสีย  

การจัดฟันด้วยเซรามิกมีความคล้ายคลึงกับการจัดฟันด้วยโลหะ แต่จะใช้ตัวยึดแบบใส หรือสีที่เหมือนกับฟันแทน เปรียบเหมือนการจัดฟันแบบใส การจัดฟันด้วยเซรามิกกำลังได้รับความนิยมเพราะสังเกตเห็นได้ไม่ชัดเหมือนการจัดฟันด้วยโลหะ ถือเป็นจุดเด่นอย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังสนใจจัดฟันใหม่ แล้วไม่อยากรู้สึกประหม่าเวลาใช้ที่จัดฟัน อย่างไรก็ตามการจัดฟันด้วยเซรามิกมีข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนด้วย

ข้อดี ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันด้วยเซรามิก เปรียบเทียบกับการจัดฟันด้วยโลหะ ข้อดี
  • เมื่อจัดฟันใสจะมองเห็นได้น้อยกว่าการจัดฟันด้วยโลหะ เพราะเซรามิกที่ใช้จัดฟันมักมีสีใส หรือสีที่เหมือนฟัน
  • ฟันเข้ารูปได้เร็วขึ้น กว่าการจัดฟันแบบครอบใส (Invisalign) การจัดฟันด้วยเซรามิกใช้เวลาประมาณ 18 ถึง 36 เดือนในการทำให้ฟันเข้ารูป แต่การจัดฟันแบบใสแบบทั่วไปที่ใช้เวลาเป็นปี หรือนานกว่า และมีโอกาสที่การจัดตำแหน่งจะคาดเคลื่อน
  • ผู้จัดฟันสามารถเลือกสีที่ต้องการได้ การใช้เหล็กจัดฟันจะมีสีให้เลือกเพียงสีเดียวคือ สีเทา (อาจมีสีเงินเมทัลลิกเงางาม) แต่การจัดฟันด้วยเซรามิกจะมีสีให้เลือกเกือบทุกสีตามต้องการ
  • ไม่รบกวนการวินิจฉัยด้วยรังสี การจัดฟันด้วยโลหะมักรบกวนภาพที่ถ่ายด้วยรังสีวินิจฉัย การจัดฟันด้วยเซรามิกจะทำให้เกิดการรบกวนในลักษณะดังกล่าวน้อยกว่ามาก
ข้อเสีย 
  • ราคาแพงกว่าการจัดฟันด้วยโลหะ
  • อาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกเสียวเหงือก เพราะตัวยึดเซรามิกจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวยึดโลหะ ซึ่งอาจให้ทำความสะอาดได้ยากกว่า ทำให้เกิดอาการเหงือกบวม หรือเหงือกร่นได้ หากแปรงฟันได้ไม่ดีพอ
  • มีความทนทานน้อยกว่าแบบโลหะเล็กน้อย เครื่องมือจัดฟันเซรามิกมีแนวโน้มที่จะแตกได้ง่ายกว่า ซึ่งการถอนออก (Bebonding) มักก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวฟันได้ (เคลือบฟัน)
  • จัดฟันได้ช้ากว่าแบบโลหะ เพราะมีความเปราะบางกว่า อาจต้องซ่อมแซมตัวยึดที่ชำรุด หรือปรับแบบจัดฟันเพิ่มเติมในแต่ละรอบนัด ซึ่งจะยิ่งล่าช้ามากขึ้น
  • สกปรกได้ง่าย สายยางยืดแบบจัดฟันจะเปื้อนได้ง่าย จึงต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ

ผู้ที่เหมาะกับการจัดฟันด้วยเซรามิกที่ดี

การจัดฟันแบบใสด้วยเซรามิก เหมาะกับผู้ใหญ่เพราะฟันหยุดการเปลี่ยนแปลงแล้ว วิธีนี้จะช่วยให้ฟันได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสน้อยที่ตัวยึดจะชำรุด เมื่อเกิดการเคลื่อนตัวของฟัน การจัดฟันด้วยเซรามิกเป็นทางเลือกเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้การจัดฟันไม่เด่นมากนัก เนื่องจากมีสีเหมือนฟัน หรือสีขาวจึงสังเกตเห็นได้ยากจน จึงเหมาะกับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน หรือเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และไม่ต้องการดึงดูดความสนใจของผู้อื่น ระยะเวลาการใช้งานเมื่อเทียบกับการจัดฟันด้วยโลหะ และการดัดฟันใสด้วยเซรามิก การจัดฟันด้วยเซรามิกใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง 3 ปีในการทำให้ฟันเข้ารูป แต่การจัดฟันด้วยโลหะใช้เวลาน้อยกว่า 1 ปีถึง 3 ปี เครื่องมือจัดฟันด้วยเซรามิกมักเปราะง่าย หากฟันเคลื่อนไหวบ่อย ๆ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวยึดบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟันถูกกดมากเกินไป เมื่อตัวยึดเซรามิกแตกง่าย การจัดฟันอาจใช้เวลานานขึ้น เนื่องจากต้องคอยปรับตัวยืดใหม่อยู่เรื่อยๆ

Clear Brace

ความทนทานของการจัดฟันแบบใส

การจัดฟันด้วยเซรามิกมีความทนทานน้อยกว่าการจัดฟันด้วยโลหะ เนื่องจากโลหะมีความทนทานมากกว่า การจัดฟันด้วยเซรามิกมีโอกาสแตกหักได้มากกว่าการจัดฟันด้วยโลหะถึง 2 เท่า แม้จากการกระแทกแบบปกติ กรณีเป็นนักกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวปากบ่อย ๆ เช่น การร้องเพลง การอภิปราย หรือการพูดในที่สาธารณะ ควรพิจารณาการจัดฟันด้วยโลหะซึ่งทนทานกว่า

แบบดัดฟันด้วยเซรามิกสกปรกได้ไหม

ตัวยึดเซรามิกสกปรกได้ยาก แต่สายยางยืดที่ใช้ยึดกับลวดอาจเปื้อนได้ง่าย ซึ่งวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้สายรัดเซรามิกสกปรก ได้แก่:
  • แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารทุกมื้อ เพื่อขจัดเศษอาหารที่อาจทำให้เกิดการเปื้อน
  • หลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่ทิ้งคราบ หรือทำให้ฟันเปลี่ยนสี อย่างมะเขือเทศ ไวน์ กาแฟ ชา โซดา หรือเครื่องปรุงรส เช่น ซอสมะเขือเทศ และมัสตาร์ด
  • ไม่ควรสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะทิ้งคราบเหลืองบนฟัน และส่วนประกอบของอุปกรณ์จัดฟันได้
  • ไม่ควรใช้ยาสีฟันฟอกฟันขาว สารฟอกสีฟันสามารถทำให้ผิวฟันขาวกว่าฟันที่ใต้อุปกรณ์จัดฟัน
  • พบทันตแพทย์ที่จัดฟันให้อย่างสม่ำเสมอ ทันตแพทย์จะพิจารณาจัดรูปแบบฟัน และอุปกรณ์ให้เหมาะสม
เทคนิคการเลือกสีอุปกรณ์จัดฟัน สีของวัสดุจัดฟันเซรามิกแต่ละชิ้นสามารถเปลี่ยนได้ ตามระยะเวลาการดูแลรักษาที่เหมาะสม ซึ่งประกอบประกอบด้วย:
  • เหล็กจัดฟันเพื่อยึดฟันเข้าด้วยกัน มักมีสีขาว
  • ลวดยึดฟันที่โค้งไปรอบ ๆ ฟัน เพื่อเชื่อมต่อเหล็กดัดฟันทั้งหมด และออกแรงกดที่ฟัน เพื่อให้ฟันเข้ารูป มักมีสีเงิน สีขาว หรือสีที่เตรียมให้กลมกลืนกับเหล็กดัดฟัน
  • แถบยางยืด แถบยางยืดใช้ติดกับตะขอบนตัวยึด เพื่อจัดลวดเย็บฟัน และช่วยปรับตำแหน่งของฟัน และกราม สามารถเลือกแถบนี้ได้เกือบทุกสีที่ต้องการ

ข้อดีและข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

เครื่องมือจัดฟันแบบใส 

  • รูปแบบ:
      • ข้อดี:เครื่องมือจัดฟันแบบมองไม่เห็นนั้นเกือบจะโปร่งใส ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟัน
      • ข้อเสีย:อาจไม่เหมาะกับปัญหาฟันที่เกมากเกินไป  
    • เบาบาง:
      • ข้อดี:โดยทั่วไปแล้ว เหล็กจัดฟันแบบมองไม่เห็นจะสบายกว่าเหล็กจัดฟันแบบเดิมๆ เนื่องจากทำจากพลาสติกเรียบไม่มีขอบคม
      • ข้อเสีย:บางคนอาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยหรือรู้สึกกดดันเมื่อเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์จัดฟันชุดใหม่
  • การถอดออก:
      • ข้อดี:เครื่องมือจัดฟันแบบมองไม่เห็นสามารถถอดออกได้ ช่วยให้รักษาสุขอนามัยในช่องปากได้ง่ายขึ้น รับประทานอาหารได้โดยไม่มีข้อจำกัด และในโอกาสพิเศษโดยไม่ต้องใส่เหล็กจัดฟัน
      • ข้อเสีย:ความสม่ำเสมอในการสวมอุปกรณ์จัดฟันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาที่ประสบความสำเร็จ และการลืมใส่อุปกรณ์จัดฟันอาจส่งผลต่อความก้าวหน้า
  • เวลาการรักษา:
      • ข้อดี:เวลาในการรักษาจะแตกต่างกันไป แต่บางกรณีอาจเสร็จสิ้นด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบดั้งเดิม
      • ข้อเสีย:ความสำเร็จของการรักษาขึ้นอยู่กับความยินยอมของผู้ป่วยในการสวมอุปกรณ์จัดฟันตามระยะเวลาที่แนะนำในแต่ละวัน
  • การจำกัดอาหาร:
    • ข้อดี:ไม่มีข้อจำกัดด้านอาหาร เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันสามารถถอดออกได้ระหว่างมื้ออาหาร
    • ข้อเสีย:ต้องถอดอุปกรณ์จัดฟันออกก่อนรับประทานอาหารหรือดื่มสิ่งอื่นที่ไม่ใช่น้ำ และการไม่ทำเช่นนั้นอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันเป็นคราบหรือเสียหายได้

สรุปภาพรวมของการจัดฟันแบบใหม่

การจัดฟันด้วยเซรามิกอาจเป็นทางเลือกที่ดี หากต้องการใช้อุปกรณ์จัดฟันไม่มาก แต่ก็จะมีความทนทานน้อยกว่าเล็กน้อย และอาจใช้เวลานานกว่าในการจัดรูปฟัน และอาจมีราคาแพงกว่า และเปื้อนได้ง่ายกว่า ปรึกษากับทันตแพทย์ก่อนตัดสินใจ เลือกเครื่องมือที่ใช้จัดฟันทั้งโลหะ หรือเซรามิก เพื่อให้เหมาะสมกับผู้จัดฟันมากที่สุด
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด