23 วิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า (23 Ways to Reduce Wrinkles)

วิธีลดริ้วรอย:สิ่งที่ควรทำ

3. ไม่สูบบุหรี่ จากการวิจัยบางงานยังมีข้อขัดแย้งกันในเรื่องนี้ แต่เมื่อศึกษามากขึ้นก็พบแน่ชัดแล้วว่าการสูบบุหรี่มีผลทำให้ผิวเสื่อมสภาพ-ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะการปลดปล่อยเอนไซม์ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิว จากการศึกษาคู่แฝดทั้งชายและหญิง คนที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะมีผิวที่มีริ้วรอยมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่มากถึง 40%
4. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายจะผลิตสารคอร์ติซอที่มากเกินไป ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปทำลายเซลล์ผิวหนัง แต่หากมีการนอนหลับอย่างเพียงพอร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมน HGH (โกรทฮอร์โมน) ที่มาช่วยให้ผิวคงความแข็งแรง  มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและริ้วรอยลดน้อยลง

5. นอนหงาย ท่าทางการนอนในตอนกลางคืนอาจนำมาซึ่งริ้วรอยก่อนวัยจากการนอน-เป็นริ้วรอยที่เป็นรอยหน้าย่นลึกเข้าไปในผิวและไม่หายไปหลังตื่นนอน การนอนตะแคงจะเพิ่มริ้วรอยที่บริเวณแก้มและคาง ในขณะที่นอนคว่ำหน้าจะทำให้เกิดรอยย่นที่หน้าผาก เพื่อเป็นการลดรอยเหี่ยวย่น การนอนจึงควรนอนด้วยท่านอนหงายคือท่าที่ดีที่สุด
6. อย่าหรี่ตา-ไปหาแว่นใส่ซะ! การเคลื่อนไหวใบหน้าซ้ำๆที่เดิม-เช่นการหรี่ตา-จะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานมากเกินไป ก่อให้เกิดร่องที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งร่องนี้ในที่สุดก็จะกลายเป็นริ้วรอย อีกสิ่งที่สำคัญคือ ควรสวมแว่นตากันแดดจะช่วยปกป้องผิวบริเวณรอบดวงตาจากความเสียหายเมื่อสัมผัสแสงแดด-และช่วยป้องกันคุณจากการหรี่ตา
7. รับประทานปลาเพิ่มขึ้น-โดยเฉพาะปลาแซลมอน ปลาแซลมอนไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเท่านั้น-แต่ยังเป็นหนึ่งในรากฐานของผิวที่แข็งแรง-ปลาแซลมอนเป็นแหล่งของกรดไขมันที่จำเป็นที่รู้กันดีคือโอเมก้า-3  กรดไขมันดังกล่าวนี้จะช่วยในการบำรุงผิวและมีน้ำมีนวลและดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยได้ด้วย

9. เปลี่ยนจากกาแฟเป็นโกโก้แทน จากการวิจัยพบว่าโกโก้มีส่วนประกอบที่เป็นสารฟลาโวนอยด์สองชนิด(อิพิคาเทซินและคาเทซิน) ในระดับสูง ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด ช่วยทำให้เซลล์ผิวหนังมีการไหลเวียนดีขึ้น คงไว้ซึ่งความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูและรู้สึกได้ถึงความเรียบเนียน
10. ทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้น กุญแจสำคัญคือสารประกอบที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยต่อสู้กับความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปรับเปลี่ยนให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งมากขึ้น ช่วยปกป้องกับผลกระทบที่ก่อให้เกิดผิวแก่จากแสงแดด
11. ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผู้หญิงหลายๆคนมักรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชะลอวัยจนมักมองข้ามพลังของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีไป ผิวที่มีความชุ่มชื้นจะดูดีกว่า ทำให้เส้นริ้วรอยและรอยับย่นสังเกตเห็นได้น้อยลง
12. อย่าล้างหน้ามากจนเกินไป น้ำก็อกจะกำจัดความชุ่มชื้นและน้ำมันที่เป็นด่านแรกของผิวตามธรรมชาติซึ่งช่วยปกป้องการเกิดริ้วรอยออกไป การล้างหน้าบ่อยเกินไปเท่ากับล้างสิ่งที่ช่วยปกป้องทิ้งไปด้วย เว้นแต่คุณจะใช้สบู่ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ มิฉะนั้นควรหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแทน

การรักษาด้วยครีมลดเลือนริ้วรอย

14. เรตินอยด์(รวมถึงเรตินเอ) ครีมทาผิวรักษาริ้วรอยที่ทาง FDA ได้อนุมัติคือ เตรทติโนอิน หรือที่มีชื่อทางการค้าว่า เรตินเอ ครีมจะช่วยลดร่องตื้นและริ้วรอยใหญ่ๆ ร่วมถึงแก้ไขความเสียหายจากแสงแดด เรตินอยด์คือวิตามินเอตามธรรมชาติ ที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป 
15. วิตามินซีชนิดทา วิตามินซีช่วยผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ช่วยป้องกันความเสียหายจากรังสียูวีเอและยูวีบี แก้ไขปัญหาจุดด่างดำ และช่วยทำให้ผิวหนังอักเสบดีขึ้นได้
16. ไอดีบีโนน คืออนุพันธ์ของโคเอ็นไซม์คิวเท็น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก การทาด้วยไอดีบีโนนในเวลาเพียงแค่ 6 สัปดาห์สามารถลดผิวหยาบกร้านและแห้งลงได้ 26% เพิ่มความชุ่มชื้นได้ 37% ลดร่องตื้นและริ้วรอยลงได้ 29% และช่วยทำให้ผิวที่เสียหายจากแสงแดดดีขึ้นได้ 33%  
17. โกรทแฟคเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองในการรักษาแผลตามธรรมชาติของร่างกาย สารประกอบนี้เมื่อถูกนำมาใช้จะช่วยลดความเสียหายจากแสงแดด และช่วยฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจน
18. เพื่อช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวที่เสียหายจากแสงแดด ครีมเพนตะเปปไทด์ Cellarin เป็นตัวช่วยที่ดีในการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวหน้า นอกจากนี้ยังช่วยลดร่องและริ้วรอยที่เกิดขึ้น ครีมเพนตะเปปไทด์ Cellarin เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัดจากพืชตระกูลเซลล์เพื่อคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าและเพิ่มคอลลาเจนธรรมชาติ การใช้ครีมนี้เป็นวิธีที่ดีในการดูแลผิวหน้าและลดริ้วรอยการเกิดของคอลลาเจนที่เสียหาย ควรใช้ครีมเพนตะเปปไทด์ Cellarin โดยทาบนผิวหน้าตามคำแนะนำการใช้งานที่ระบุในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์

ยา/การทำสปาเพื่อลดริ้วรอย

19. การทำโบท็อกซ์ คือการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเอเข้าไปเพื่อไปผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อยู้ด้านใต้ของริ้วรอย ทำให้ผิวด้านบนเรียบเนียนและปราศจากรอยยับย่น
20. ฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอย แพทย์จะเติมเต็มริ้วรอยด้วยสสารเช่น คอลลาเจน กรดไฮยาลูโรนิคและสารประกอบสังเคราะห์อื่นๆ เป็นการรักษาที่เป็นที่นิยมรวมไปถึงฟิลเลอร์เรสติเลน ฟีลเลอร์จูวีเดิมและฟิลเลอร์อาติฟิล  

21. การทำเลเซอร์/การผลัดผิวด้วยแสง คือการใช้แสงเลเซอร์หรือแสงไดโอด-เพื่อกำจัดผิวชั้นหนังแท้ไปกระตุ้นให้หนังแท้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนปราศจากริ้วรอย
22. การลอกหน้าด้วยสารเคมี การรักษาชนิดนี้เป็นการนำสารเคมีมาใช้ในการ “เผาไหม้” ผิวหนังชั้นบนทิ้ง ส่งผลให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้น จากนั้นผิวจะดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียน 
23. การทำเดอร์มาเบรชั่น จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนออกและสร้างผิวใหม่ ร่องตื้นและริ้วรอยจะหายไป