ถั่วงอก (Sprouts) : ประโยชน์ และสิ่งควรรู้

ถั่วงอก (Sprouts) คือ ต้นอ่อนของถั่วที่งอกจากเมล็ดเขียว คนไทยนิยมกินถั่วงอกที่เป็นต้นอ่อนถั่วเขียวและถั่วเหลืองเป็นหลัก ถั่วงอกมีสารอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระและกรดอะมิโน 

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วงอก ต่อ 100 กรัม

  • พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 5.94 กรัม
  • น้ำ 90.4 กรัม
  • น้ำตาล 4.13 กรัม
  • เส้นใย 1.8 กรัม
  • ไขมัน 0.18 กรัม
  • โปรตีน 3.04 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.084 มิลลิกรัม 7% วิตามินบี 2 0.124 มิลลิกรัม 10% วิตามินบี 3 0.749 มิลลิกรัม 5% วิตามินบี 6 0.088 มิลลิกรัม 7% และวิตามินบี 9 61 ไมโครกรัม 15%
  • วิตามินซี 13.2 มิลลิกรัม 16%
  • วิตามินอี 0.1 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินเค 33 ไมโครกรัม 31%
  • ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุเหล็ก 0.91 มิลลิกรัม 7%
  • ธาตุแมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม 6%
  • ธาตุแมงกานีส 0.188 มิลลิกรัม 9%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 54 มิลลิกรัม 8%
  • ธาตุโพแทสเซียม 149 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุสังกะสี 0.41 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่Sprouts

ประโยชน์ของถั่วงอก

สารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ถั่วงอกอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง อย่างโรคเบาหวานและโรคมะเร็ง และ ถั่วงอกยังให้พลังงานต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังลดความอ้วนหรืออยู่ในช่วงควบคุมอาหาร ถั่วงอกอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด และยังให้พลังงานต่ำ ผู้ที่กินถั่วงอกเป็นประจำก็อาจได้รับประโยชน์ ดังนี้ 

ลดระดับน้ำตาลในเลือด

การกินถั่วงอกช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีในผู้ที่เป็นเบาหวาน จากการศึกษาพบว่าถั่วงอกลดน้ำตาลในเลือดได้ อาจเนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ซึ่งช่วยควบคุมระดับอินซูลิน และยังมีเอนไซม์ในต้นอ่อน ที่มีผลต่อการย่อยคาร์โบไฮเดรต แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของผลเหล่านี้

ช่วยระบบการย่อยอาหาร

การกินถั่วงอกอาจช่วยเรื่องการย่อย จากการศึกษาหลายชิ้นพบว่า การเพาะเมล็ดให้เป็นต้นอ่อนเพิ่มปริมาณใยอาหารมากขึ้นอย่างชัดเจน และใยอาหารนี้ส่วนใหญ่เป็นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ(ไม่ละลายในกระเพาะอาหาร) และยังเป็นอาหารให้กับแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ด้วย แบคทีเรียเหล่านี้สำคัญสำหรับการย่อยอาหาร ทำให้สุขภาพลำไส้ดีและลดอาการท้องอืด

ช่วยทำสุขภาพหัวใจดีขึ้น

ถั่วงอกในอาหารอาจช่วยให้หัวใจมีสุขภาพดี จากการศึกษาจำนวนมากพบว่า การกินถั่วงอกช่วยลดโคเลสเตอรอลในผู้ที่เป็นเบาหวานหรืออ้วน การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า โคเลสเตอรอลชนิดดีเพิ่มขึ้นและไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลชนิดเลวลดลง ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเส้นเลือดแข็ง

ต้านการอักเสบ

ถั่วงอกประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หนึ่งในนั้น คือ การต้านการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าสารอาหารหลายชนิดที่สกัดได้จากถั่วงอก เช่นโพลีฟีนอล กรดแกลลิก และฟลาโวนอยด์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เชื่อกันว่าการกินถั่วงอกอาจบรรเทาอาการของโรคจากการอักเสบเช่น โรคภูมิแพ้ เบาหวาน หรือข้ออักเสบรูมาตอยด์ อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาในคนเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับการต้านการอักเสบ 

รักษาโรคผิวหนัง

สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในถั่วงอก อาจมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคผิวหนัง โดยมีผลงานวิจัยพบว่าโพลีฟีนอลช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ต้านเชื้อโรค ลดการอักเสบ และช่วยให้ผิวแข็งแรง จึงอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาแผลเรื้อรัง แผลไหม้ โรคผื่นแพ้ผิวหนัง รวมทั้งโรคอันตรายอย่างโรคมะเร็งผิวหนังนอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาผิว เช่น รักษาสิว ลดริ้วรอย และจุดด่างดำ แต่งานวิจัยนี้ก็พบผลข้างเคียงจากการใช้อยู่บ้าง และไม่ใด้ศึกษาจากโพลีฟีนอลในถั่วงอกโดยตรง ดังนั้น หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารโพลีฟีนอลเพื่อการรักษาโรคหรือบำรุงผิว ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

โทษของถั่วงอก

ถั่วงอกมีประโยชน์และมีคุณค่าทางอาหารมากมาย แต่โทษของถั่วงอกเกิดจากการปนเปื้อน การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสมและการกินมากเกินไป อาจเป็นอันตรายได้ 
  • เชื้อโรค แบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) และเอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli) จากการปลูก ขนส่งหรือเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และอาหารเป็นพิษ ก่อนนำถั่วงอกมาปรุงอาหาร ควรล้างด้วยน้ำสะอาดผสมด่างทับทิม,เบกกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชู แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อลดเชื้อโรค
  •  สารฟอกขาว  ผู้ผลิตบางรายใส่สารฟอกขาวเพื่อให้ถั่วงอกดูขาวสะอาด ไม่มีรอยช้ำ สดใหม่ และน่ารับประทาน หากคนได้รับสารฟอกขาวในปริมาณมากอาจตกค้างภายในร่างกายและเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหอบหืด ควรเลือกซื้อถั่วงอกที่ดูไม่ขาวเกินไปหรือมีรอยช้ำบ้างเล็กน้อย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับสารฟอกขาวเข้าสู่ร่างกาย
  • สารไฟเตท (Phytate) เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในถั่วงอกดิบ แต่จะลดลงหลังจากการปรุงให้สุก สารไฟเตทมีคุณสมบัติยับยั้งการดูดซึมโปรตีนและแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี หรือแมกนีเซียม ดังนั้น การกินถั่วงอกดิบปริมาณมากและต่อเนื่องอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ ลดลง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ เพราะต้องการสารอาหารเหล่านี้มากกว่าคนทั่วไป เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการของทารกและบำรุงร่างกายมารดา นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีภาวะขาดแร่ธาตุก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน
การเลือกซื้อถั่วงอกให้ปลอดสารพิษ
  • รากจะต้องไม่ยาว (ปลูกโดยใช้ผ้ารองพื้น ไม่ใช่น้ำยาเคมี)
  • ควรเลือกถั่วงอกที่มีเปลือกถั่วปะปนอยู่บ้างเพื่อหลีกเลี่ยงสารฟอกขาว
  • แช่น้ำทิ้งไว้สักประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือจะทำให้สุก ก่อนรับประทาน
ถั่วงอกมีสารอาหารชั้นยอด และปลอดภัยหากกินในปริมาณที่เหมาะสมและปรุงสุก เมนูง่ายๆเช่น ผัดเต้าหู้ถั่วงอก ทำให้อิ่มอร่อยและสุขภาพดี บางคนเพาะถั่วงอกกินเอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับสารฟอกขาวได้อีกทางหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยจากอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สตรีมีครรภ์ บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ขอแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเมื่อบริโภคถั่วงอก:
  • ล้างให้สะอาด:ก่อนบริโภค ให้ล้างถั่วงอกดิบให้สะอาดใต้น้ำไหลเพื่อกำจัดแบคทีเรียที่อาจเกิดขึ้นบนพื้นผิว
  • ปรุงถั่วงอก:ถั่วงอกปรุงอาหารสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยจากอาหารได้ แนะนำให้ปรุงถั่วงอกแบบเบาๆ ด้วยการผัด นึ่ง หรือต้ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับถั่วงอกในขณะที่ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน
  • หลีกเลี่ยงถั่วงอกดิบในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง:บุคคลในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สตรีมีครรภ์ บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ควรพิจารณาหลีกเลี่ยงถั่วงอกดิบทั้งหมด
  • แช่เย็น:เก็บถั่วงอกไว้ในตู้เย็นเพื่อชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ควรบริโภคภายในสองสามวันเพื่อรักษาความสด
  • เลือกแหล่งที่เชื่อถือได้:เมื่อซื้อถั่วงอก ให้เลือกแหล่งที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการจัดการและจัดเก็บอย่างเหมาะสม
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแม้ว่าบางคนอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงถั่วงอกดิบเนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง แต่คนอื่นๆ อาจรู้สึกสบายใจที่จะรวมถั่วงอกเหล่านี้ไว้ในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยของอาหารที่เข้มงวด การปรุงถั่วงอกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยจากอาหาร เนื่องจากความร้อนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ หากคุณชอบรสชาติและเนื้อสัมผัสของถั่วงอก ให้ลองนำไปปรุงอาหารหรือปรุงแบบเบาๆ ก่อนใส่ลงในสลัดหรือวัตถุดิบดิบอื่นๆ โปรดคำนึงถึงหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยของอาหารเสมอเพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนและความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

วิธีเพาะถั่วงอกให้อ้วน

ฮอร์โมนที่ทำให้ถั่วงอกอ้วน โดยการใช้สารสังเคราะห์ไซโตไคนิน
  • ให้นำเมล็ดถั่วเขียวที่ล้างแช่ในน้ำอุ่น 1  ชั่วโมง ตักเมล็ดถั่วเขียวที่ลอยทิ้ง  และแช่น้ำต่อไปอีก 1  คืน
  • นำเมล็ดถั่วเขียวที่แช่ไว้ไปเพาะ
  • นำฟองน้ำปิดทับเมล็ดถั่วเขียว  และกระเบื้องทับบนฟองน้ำเพราะการกดทับยิ่งแน่นมากเท่าไหร่ถั่วงอกก็จะอ้วนมากกว่าเดิม
  • รดน้ำให้ความชื้นอย่างสม่ำเสมอ
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด