ประโยชน์และการนำน้ำมันละหุ่งมาใช้ (Castor Oil)
น้ำมันละหุ่ง คือ
น้ำมันละหุ่งเป็นน้ำมันพืชที่ใช้งานได้หลากหลาย มีการใช้งานกันมาอย่างยาวนานหลายพันปี
ผลิตโดยการสกัดน้ำมันจากเมล็ดพืช Ricinus communis หรือที่เรียกว่าเมล็ดละหุ่งซึ่งมีเอนไซม์ที่เป็นพิษเรียกว่าริซิน แต่กระบวนการให้ความร้อนน้ำมันละหุ่ง จะทำลายสารพิษนี้ และทำให้สามารถใช้น้ำมันได้อย่างปลอดภัย
น้ำมันละหุ่งมีประโยชน์ทางยา ทางอุตสาหกรรม และทางเภสัชกรรมได้หลายประเภท
โดยทั่วไปจะใช้เป็นสารเติมแต่งในอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และยังใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นในอุตสาหกรรม และส่วนประกอบเชื้อเพลิงไบโอดีเซล
ยุคอียิปต์โบราณ น้ำมันละหุ่งจะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงในตะเกียง ใช้เป็นยาตามธรรมชาติในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น อาการระคายเคืองตา และแม้กระทั่งให้สตรีมีครรภ์เพื่อกระตุ้นการคลอดบุตร
ทุกวันนี้ น้ำมันละหุ่งยังเป็นวิธีการรักษาธรรมชาติที่ได้รับความนิยมสำหรับอาการทั่วไป เช่น อาการท้องผูก และโรคผิวหนัง และมักใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อความงามจากธรรมชาติ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหยได้ที่นี่
คุณประโยชน์ของน้ำมันละหุ่ง
- ยาระบาย
น้ำมันละหุ่งสรรพคุณ เป็นยาระบายตามธรรมชาติที่ดี การทำงานของยาระบาย คือการกระตุ้นเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดันในลำไส้ ช่วยให้ลำไส้สะอาดมากขึ้น ยาระบายสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว และอาจใช้เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกชั่วคราว
เมื่อบริโภคน้ำมันระหุ่งจะถูกย่อยในลำไส้เล็ก ทำให้เกิดกรดริซิโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันหลักในน้ำมันละหุ่ง จากนั้นกรดริซิโนเลอิกจะถูกดูดซึมโดยลำไส้ กระตุ้นให้ทำหน้าที่เป็นยาระบาย สามารถใช้น้ำมันละหุ่งเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกได้
เมื่อผู้สูงอายุรับประทานน้ำมันละหุ่ง ก็จะมีอาการท้องผูกลดลง รวมถึงออกแรงในการขับถ่ายอุจจาระน้อยลง และขับถ่ายได้สะดวกขึ้น
การรับประทานน้ำมันเมล็ดละหุ่งมีความปลอดภัย เมื่อใช้ในปริมาณน้อย ๆ หากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงได้
แม้ว่าจะใช้เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันละหุ่งในระยะยาว
- มอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ
น้ำมันระหุ่งอุดมไปด้วยกรดริซิโนเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
ไขมันประเภทนี้ทำหน้าที่เป็น humectants และสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้
Humectants จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นโดยป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านชั้นนอกของผิวหนัง
น้ำมันระหุ่งมักใช้ในเครื่องสำอางเพื่อส่งเสริมความชุ่มชื้น และเติมลงในผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เช่น โลชั่น เครื่องสำอาง และน้ำยาทำความสะอาด
สามารถใช้น้ำมันเป็นทางเลือกตามธรรมชาติสำหรับมอยส์เจอไรเซอร์ และโลชั่นที่เลือกใช้ แต่ควรพิจารณาว่ามีการใช้ส่วนผสมที่อาจเป็นอันตราย เช่น สารกันบูด น้ำหอม และสี ที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ แต่หากมีน้ำมันละหุ่งจะช่วยลดการใช้สารเติมแต่งเหล่านี้ได้
นอกจากนี้น้ำมันละหุ่งยังมีราคาไม่แพง และสามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย
น้ำมันละหุ่งค่อนข้างเหนะหนะ จึงควรผสมกับน้ำมันที่ดีต่อผิวชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะพร้าว เพื่อเพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นเป็นพิเศษ
น้ำมันหอมระเหยกับสมรรถภาพทางเพศ อ่านต่อที่นี่
แม้ว่าการใช้น้ำมันละหุ่งกับผิวหนังจะสำหรับคนส่วนมาก แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน
- สนับสนุนการรักษาบาดแผล
การใช้น้ำมันระหุ่งกับบาดแผลจะสร้างสภาวะที่ดี เพื่อช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้แผลแห้ง
Venelex เป็นครีมยอดนิยมที่ใช้ในการรักษาบาดแผลในคลินิก มีส่วนผสมของน้ำมันละหุ่งและยาหม่องจากเปรู ยาหม่องที่ได้จากต้น Myroxylon
น้ำมันละหุ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดสิ่งปดปิดบาดแผลกับสิ่งแวดล้อม ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
สามารถลดความแห้งกร้าน และการเกิดสะเก็ดแผล ซึ่งสร้างจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ที่ขัดขวางให้แผลหายช้า
จากการศึกษาพบว่าขี้ผึ้งที่มีน้ำมันละหุ่งอาจมีประโยชน์ในการรักษาแผลกดทับ ซึ่งเป็นแผลที่เกิดจากแรงกดบนผิวหนังเป็นระยะเวลานาน
ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันละหุ่ง
น้ำมันละหุ่งสามารถใช้รักษาอาการต่าง ๆ ด้วยวิธีการกินหรือทาน้ำมันลงบนผิวหนัง
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วน้ำมันละหุ่งจะปลอดภัย แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ และผลข้างเคียงในบางคนได้
การใช้น้ำมันละหุ่งควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
- ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
- การใช้น้ำมันละหุ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ หากรับประทานมากเกินไป อาการท้องร่วงที่รุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์
- ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ผู้ใช้บางคนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางส่วนของร่างกาย กรณีทาลงบนผิวเป็นครั้งแรก แนะนำให้ลองทาในปริมาณน้อย ๆ บนจุดเล็ก ๆ ของผิวหนังก่อน เพื่อดูว่าร่างกายมีปฏิกิริยาอย่างไร