สรรพคุณที่น่าประทับใจของยูคาลิปตัส  (Benefits of Eucalyptus Leaves) 

ยูคาลิปตัส (Eucalyptus) คือ ต้นไม้ที่มีใบเขียวตลอดทั้งปีที่ถูกนำใาใช้เพื่อคุณสมบัติทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง มีคนนำต้นไม้ชนิดนี้มาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นน้ำมันยูคาลิปตัสที่ทำมาใช้ในครัวเรือน ต้นยูคาลิปตัสเป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปออกเตรเลีย ในปัจจุบันเป็นต้นไม้ที่เป็นที่นิยมเติบโตแพร่หลายไปทั่วโลก ต้นยูคาลิปตัสมีเปลือกไม้ที่มีกลิ่นหอม ลำต้นตรง และใบกลมที่ยากต่อการย่อยหากรับประทานเข้าไป แต่อย่างไรก็ตามใบยูคาลิปตัสสามารถนำมาทำเป็นน้ำชาที่มีความปลอดภัยในการบริโภค ยิ่งกว่านั้น ใบของมันยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันหอมสำหรับใช้ทาหรือดม ต่อจากนี้ไปคือ 7 ประโยชน์ที่น่าประทับใจของใบยูคาลิปตัส

1. ใบยูคาลิปตัสมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ถึงแม้จะไม่สามารถรับประทานแบบสดได้ แต่ใบทั้งหมดของยูคาลิปตัสเมื่อนำไปตากแห้งสามารถนำมาทำชงเป็นน้ำชาได้ แต่ข้อควรระวังคือความเข้าใจผิดในการชงชาด้วยน้ำมันยูคาลิปตัส ซึ่งจะเป็นสารพิษหากบริโภคเข้าไป ควรเลือกนำมาชงชาจากฉลากที่เขียนไว้ว่า “ใบชายูคาลิปตัส” และห้ามเติมน้ำมันหอมยูคาลิปตัสลงในชาของคุณ ใบยูคาลิปตัสเป็นแหล่งของอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายเราจากภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระและอนุมูลอิสระเสียหาย ฟลาโวนอยด์หลักในยูคาลิปตัสนั้นรวมถึง แคทีชิน ไอโซแรมเนติน ลูทอีโอลิน แคมพ์เฟอรอล โฟลเรตตินและเควอซิทิน อาหารที่อุดมไปด้วยสารประกอบเหล่านี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจและภาวะสมองเสื่อม ยกตัวอย่างจากการศึกษาผู้หญิงจำนวน 38,180 คนและผู้ชาย 60,289 คนพบว่าการรับประทานอาหารที่มีฟลาโวนอยด์สูงสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ถึง 18%    ชายูคาลิปตัสคือแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมและมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามเราพบว่าในเด็กนั้นมีความเสี่ยงในในการได้รับสารพิษจากยูคาลิปตัสได้สูง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการดื่มชายูคาลิปตัสในเด็ก บทสรุป ชายูคาลิปตัสมีสารฟลาโวนอยด์สูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจและภาวะสมองเสื่อม

2. น้ำมันยูคาลิปตัสช่วยลดอาการหวัด

ยูคาลิปตัสถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการเยียวยาโรคหวัดตามธรรมชาติและนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์แก้หวัดและแก้ไอ นักวิจัยแสดงให้เห็นว่ายูคาลิปตัสสามารถลดน้ำมูกและช่วยขยายหลอดลมและหลอดลมฝอยในปอด ดังนั้นจึงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบจากธรรมชาติ ส่วนประกอบหลักที่มีคุณสมบัติในการช่วยเยียวยานี้คือ ยูคาลิปทอล หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ซิเนออล ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบในน้ำมันยูคาลิปตัส นักวิจัยบางท่านแสดงให้เห็นว่ายูคาลิปตัสช่วยบรรเทาอาการหวัดเช่น การไอถี่ๆ คัดจมูก และอาการปวดหัวได้ด้วยการลดการอักเสบและลดการเกิดน้ำมูก ต่อไปข้างหน้า ยูคาลิปตัสอาจจะช่วยทำให้อาการโรคหอบหืดดีขึ้น จากการศึกษาคนจำนวน 32 คนที่มีภาวะโรคหอบหืด ด้วยการได้รับยูคาลิปตัส 600 มก.หรือยาหลอกทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ กลุ่มที่ได้รับยูคาลิปตัสมีความต้องการยาโรคหอบหืดน้อยลงถุง 36% เมื่อเทียบกับอีกกลุ่มพบว่ามีความต้องการยาลดลงเพียง 7 % เท่านั้น  น้ำมันยูคาลิปตัสสามารถสูดดมผ่านจมูกและช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ พบได้ในยาหดหลอดเลือดชนิดพ่น แต่อย่างไรก็ตามเพราะน้ำมันเพียงจำนวนน้อยนิดก็อาจเป็นพิษได้ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำมันยูคาลิปตัส สเปรย์ยูคาลิปตัสเป็นที่นิยมมากสำหรับฉีดพ่นเพื่อบรรเทาอาการหวัดหรืออาการปวดเมื่อย เพื่อความแน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยูคาลิปทอลหรือการเปลี่ยนยารักษา  บทสรุป ยูคาลิปตัสมีสาวรประกอบที่เรียกว่ายูคาลิปทอล ซึ่งพบว่าช่วยลดอาการคัดจมูก การไอถี่ๆและอาการปวดหัวที่มาจากโรคหวัด และยังอาจช่วยทำให้อาการหอบหืดดีขึ้นได้

3. ยูคาลิปตัสรักษาผิวหนังแห้ง

การใช้ยูคาลิปตัสอาจช่วนทำให้ผิวหนังที่แห้งดีขึ้นได้ด่วยการเพิ่มเซราไมด์ เซราไมด์คือกรดไขมันชนิดหนึ่งที่อยู่ในผิวหนังของเรามีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาป้องกันและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ คนที่มีภาวะผผิวหนังแห้ง เป็นรังแค หรือเป็นโรคผิวหนังเช่นโรคผิวหนังอักเสบและโรคสะเก็ดเงินมักมีระดับเซราไมด์ต่ำกว่าปกติ ยูคาลิปตัสสกัดแบบใช้ภายนอกพบว่าสามารถช่วยเสริมสร้างเซราไมด์ในผิวหนัง ความสามารถในการกักเก็บน้ำ และปกป้องผิวหนัง เพราะมีส่วนประกอบที่เรียกว่า Macrocarpal A ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ จากการศึกษาในคน 34 คนที่ใช้โลชั่นหนังศีรษะที่มีสารสกัดจากใบยูคาลิปตัสเป็นส่วนประกอบและไซราไมด์สังเคราะห์จะช่วยลดอาการหนังศีรษะแดง คัน แห้งและผิวหนังหลุดลอก ดังนั้นพวกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมและผิวหนังจึงมักมีใบยูคาลิปตัสสกัดเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเสมอ  บทสรุป  สารสกัดจากใบยูคาลิปตัสแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยทำให้ผิวสามารถผลิตเซราไมด์ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้อาการผิวหนังแห้งและรังแคดีขึ้นได้ และยังคงต้องการกว่าศึกษาเพิ่มเติม Benefits of Eucalyptus Leaves

4. อาจช่วยลดอาการเจ็บปวด

การสูดดมน้ำมันหอมยูคาลิปตัสอาจช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ ยูคาลิปตัสมีสารต้านการอักเสบเป็นส่วนประกอบ เช่น ซิเนออลและลิโมนีน ซึ่งมีบทบาทในการช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด จากการศึกษาคนจำนวน 52 คนใน 3 วันที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมพบว่าการสูดดมน้ำมันยูคาลิปตัสที่ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์เป็นเวลานาน 30 นาทีทุกวันสามารถช่วยลดอาการปวดและลดระดับความดันเลือดลงได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับคนที่สูดดมน้ำมันอัลมอนด์เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตามจากการศึกษาคนจำนวนอีก 123 คนที่เป็นโรคมะเร็งกลับพบว่าไม่สามารถช่วยลดอาการปวดลงได้หลังจากสูดดม 3 นาทีก่อนการผ่าตัด จึงเป็นเรื่องที่ต้องมีการศึกษาต่อไป บทสรุป การสูดดมน้ำมันยูคาลิปตัสอาจช่วยลดระดับความเจ็บปวดลงได้ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

5. อาจช่วยในการผ่อนคลาย

ยูคาลิปตัสมีความเชื่อกันอย่างกว้างขวาางว่าสามารถช่วยลดอาการเครียดลงได้ จากการศึกษาคนที่มีสุขภาพดีจำนวน 62 คน สามารถลดอาการวิตกกังวลหลังสูดดมน้ำมันยูคาลิปตัสก่อนการผ่าตัดได้อย่างมีนัยสำคัญ ยูคาลิปตัสมีสารประกอบยูคาลิปทอลที่พบว่ามีคุณสมบัติต้านอาการวิตกกังวลได้ดี อีกทั้งการสูดดมน้ำมันยูคาลิปตัสเป็นเวลา 30 นาทีพบว่ามีส่วนทำให้ระดับความดันเลือดต่ำลงได้ในคนไข้หลังได้รับการผ่าตัดหัวเข่า ซึ่งส่งผลให้เกิดการผ่อนคลายมากขึ้น นักวิจัยมีความเชื่อว่ายูคาลิปตัสสามารถลดระดับการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกลงได้ ซึ่งเป็นการช่วยในเรื่องการผ่อนคลาย บทสรุป น้ำมันยูคาลิปตัสมีส่วนช่วยทำให้ระดับความดันเลือดและความวิตกกังวลลดลงได้ มีความเชื่อว่ายูคาลิปตัสสามารถลดระดับการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติกลงได้ ซึ่งเป็นการช่วยในเรื่องการผ่อนคลาย

6. ช่วยทำให้สุขภาพฟันแข็งแรง

ใบยูคาลิปตัสสกัดที่รู้จักกันว่ายูคาลิปทอล อาจช่วยทำให้สุขภาพฟันดีขึ้นได้ ใบยูคาลิปตัสมีสารเอทานอลและมาร์โครคาร์พาว ซี เป็นส่วนประกอบ -เป็นสารโพลิฟีนอลชนิดหนึ่ง ซึ่งสารประกอบนี้มีส่วนทำให้ระดับแบคทีเรียลดลงซึ่งเป็นสาเหตุของโรคฟันผุและโรคเหงือก จากการศึกษาคนจำนวน 97 คนที่เคี้ยวหมากฝรั่งที่มีสารสกัดจากใบยูคาลิปตัสวันละ 5 ครั้งต่อวันเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาทีสามารถช่วยลดการเกิดคราบหินปูน เหงือกเลือดออกและเหงือกอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่อีกกลุ่มอาการไม่ดีขึ้น เพราะเหตุนี้เอง ยูคาลิปตัสจึงมักถูกเติมเพิ่มเข้าไปในน้ำยาบ้วนปาก บทสรุป การเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีสารสกัดจากใบยูคาลิปตัสพบว่าช่วยลดการสะสมคราบหินปูนที่ฟันและโรคเหงือกอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงถูกเพิ่มเติมเข้าไปในน้ำยาบ้วนปากหรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางช่องปากอื่นๆ

7. สามารถทำหน้าที่ไล่แมลงตามธรรมชาติ

น้ำมันยูคาลิปตัสคือยาไล่แมลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมีสารยูคาลิปทอลเป็นส่วนประกอบ จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่ายูคาลิปตัสสามารถไล่ยุงและแมลงกัดเจ็บอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพได้นานถึง 8 ชั่วโมงหลังการใช้ ในน้ำมันยูคาลิปตัสมีสารยูคาลิปทอลสูง ยิ่งส่งผลให้การไล่แมลงมีประสิทธิภาพและยาวนานมากขึ้น ในความเป็นจริงศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคได้แสดงว่าน้ำมันยูคาลิปตัสมะนาว- ที่ได้มาจากต้นเลมอนยูคาลิปตัส-นั้นไล่แมลงได้เป็นอย่างดีและได้รับการพิสูจน์แล้ว เพิ่มเติมคือพบว่าน้ำมันยูคาลิปตัสอาจยังช่วยรักษาโรคเหาได้ จากการศึกษาแบบสุ่มพบว่าการใช่น้ำมันยูคาลิปตัสสองเท่าช่วยรักษาโรคเหาได้ แต่จำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติม บทสรุป น้ำมันยูคาลิปตัสมีส่วนประกอบที่เรียกว่ายูคาลิปทอล ซึ่งพบว่าสามารถไล่ยุงและแมลกัดเจ็บอื่นๆ ซึ่งอาจช่วยรักษาโรคเหาได้ด้วยแต่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

วิธีใช้ยูคาลิปตัส

ใบยูคาลิปตัสสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์และนำมาใช้ได้หลายรูปแบบรวมไปถึง:
  • ชา โดยการนำถุงชาที่ทำมาจากใบยูคาลิปตัสบด
  • น้ำมันหอมระเหย ด้วยการเติมน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสสองสามหยดลงในเครื่องกระจายกลิ่นหรือถ้วยไอน้ำ
  • ใบยูคาลิปตัสทั้งหมด โดยการแขวนไว้ในห้องอาบน้ำหรือใส่ลงในน้ำอาบเพื่อการผ่อนคลายคล้ายการทำสปา 
  • ไล่แมลง ซื้อหรือทำกลิ่นไล่แมลงจากน้ำมันหอมระเหยเลมอนยูคาลิปตัส
  • ใช้เฉพาะที่ เติมน้ำมันยูคาลิปตัสสองสามหยดลงในน้ำมันธรรมชาติเช่น น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการแยกส่วนและนำไปใช้ทาที่หน้าอกเพื่อบรรเทาอาการอึดอัด 
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปที่มียูคาลิปตันเป็นส่วนประกอบเช่น น้ำยาบ้วนปาก ผลิตภัณฑ์ทาเพื่อสูดดมไอระเหยและหมากฝรั่ง บทสรุป ใบยูคาลิปตัสสามารถนำมาใช้ได้ทั้งใบ ทั้งแบบบดหรือเป็นน้ำมัน คุณสามารถดื่มใบชายูคาลิปตัสและใช้น้ำมันเป็นน้ำมันหอมระเหยหรือในรูปแบบครีมหรือสเปรย์ไล่แมลงตามธรรมชาติ ขอเพียงแค่มั่นใจว่าไ่มีการบริโภคน้ำมันเท่านั้นพอ

ข้อควรระวังในการใช้ยูคาลิปตัส

ในขณะที่ใบยูคาลิปตัสพบว่ามีความปลอดภัยแต่ก็อาจเสี่ยงต่อสุขภาพหากมีการบริโภคน้ำมันยูคาลิปตัสเข้าไป อาจก่อให้เกิดสารพิษได้ สิ่งที่สำคัญยิ่งคือต้องจำให้ขึ้นใจว่าเด็กจะมีความเสี่ยงในการรับสารพิษได้สูงกว่าคนอื่นๆ อาจเกิดอาการชัก หายใจลำบาก ระดับความรู้สึกตัวลดต่ำลง และเคยมีรายงานการเสียชีวิตด้วย และเพิ่มเติมกว่านั้นคือตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบอกได้แน่ชัดว่าน้ำมันยูคาลิปตัสมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือแม่ที่กำลังให้นมบุตร ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน ในบางรายที่เคยมีประสบการณ์การเกิดโรคผิวหนังอักเสบหลังจากใช้น้ำมันยูคาลิปตัสบนผิวหนัง ควรใช้น้ำมันธรรมชาติเช่น น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการแยกส่วนหรือโจโจ้บาร์ออยล์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ก่อนใช้น้ำมันควรแปะทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการแพ้ใดๆเกิดขึ้น ในท้ายที่สุดนี้ น้ำมันยูคาลิปตัสอาจมีผลกระทบกับยารักษาโรคบางตัว เช่นยาโรคเบาหวาน คอเรสเตอรอลสูง โรคกรดไหลย้อนและโรคจิตเวช เพื่อความแน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ทุกครั้ง ใครที่ไม่เหมาะกับการใช้ยูคาลิปตัส ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัส เช่น น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส โดยทั่วไปจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อใช้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มบุคคลที่ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัส:
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี:น้ำมันยูคาลิปตัสอาจเป็นอันตรายได้ และไม่ควรใช้เฉพาะที่หรือรับประทานในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี อาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบากหรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ เมื่อเด็กเล็กใช้หรือสูดดม
  • ผู้ที่มีโรคหอบหืดหรือระบบทางเดินหายใจ:ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือสภาวะทางเดินหายใจอื่นๆ อาจไวต่อน้ำมันยูคาลิปตัส การสูดดมไอยูคาลิปตัสหรือการสัมผัสผิวหนังโดยตรงอาจทำให้เกิดอาการหอบหืดหรือทำให้ปัญหาระบบทางเดินหายใจแย่ลง
  • อาการแพ้:บางคนอาจแพ้น้ำมันยูคาลิปตัสหรือส่วนประกอบอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัส ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นที่ผิวหนังและมีอาการคันไปจนถึงปฏิกิริยาที่รุนแรงยิ่งขึ้น หากคุณสงสัยว่ามีอาการแพ้ ให้หยุดใช้และไปพบแพทย์
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร:แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วน้ำมันยูคาลิปตัสจะถือว่าปลอดภัยในปริมาณเล็กน้อย แต่ก็มีงานวิจัยที่จำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร แนะนำให้ปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัสในช่วงเวลาดังกล่าว
  • ผู้สูงอายุ:ผู้สูงอายุบางคนอาจมีผิวหนังและระบบทางเดินหายใจที่บอบบางกว่า ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัสด้วยความระมัดระวัง และพิจารณาการทดสอบแพทช์หากใช้เฉพาะที่
  • ปฏิกิริยาระหว่างยา:น้ำมันยูคาลิปตัสอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ตัวอย่างเช่น สามารถยับยั้งการทำงานของไซโตโครม P450 3A4 (CYP3A4) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญยา หากคุณกำลังใช้ยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่ได้รับการเผาผลาญโดย CYP3A4 โปรดปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัส
  • สัตว์เลี้ยง:น้ำมันยูคาลิปตัสและผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัสอื่นๆ อาจเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมวและสุนัข หากกินหรือทาบนผิวหนัง เก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้พ้นมือ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัสตามคำแนะนำและในปริมาณที่พอเหมาะ หากคุณมีข้อกังวลเฉพาะใดๆ สภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่เดิม หรือกำลังใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ยูคาลิปตัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย บทสรุป การบริโภคน้ำมันยูคาลิปตัสอาจก่อให้เกิดสารพิษได้จึงควรหลีกเลี่ยง เด็กจะมีความเสี่ยงสูงในการได้รับสารพิษ ในบางรายอาจเกิดอาการของโรคผิวหนังอักเสบจากการใช้น้ำมัน ดังนั้นควรแปะทดสอบก่อนการใช้

ประเด็นสำคัญ

ใบยูคาลิปตัสมีประโยชน์ที่น่าประทับใจมากมาย สามารถช่วยลดอาการปวด ช่วยให้ผ่อนคลายและบรรเทาอาการหวัด สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ต่างเช่นยูคาลิปตัสสกัดเพื่อความสดชื่น เพื่อลดอาการระคายเคืองบนผิวหนังและไล่แมลงได้ตามร้านขายยาทั่วไป ชายูคาลิปตัสมีความปลอดภัยพอในการดื่ม แต่การบริโภคน้ำมันยูคาลิปตัสอาจก่อให้เกิดสารพิษได้แม้จะบริโภคในปริมาณที่ต่ำก็ตาม ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้น้ำมันยูคาลิปตัสทุกครั้งโดยเฉพาะในรายที่มีการรับประทานยาทุกชนิด

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/266580
  • https://www.medicinenet.com/what_are_the_benefits_of_eucalyptus_8_benefits/article.htm
  • https://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/ss/slideshow-eucalyptus-oil-benefits-and-uses
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด