กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette Syndrome)

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
กลุ่มอาการทูเร็ตต์

Tourette Syndrome คืออะไร

โรคทูเร็ตต์ หรือโรคติกส์ (tics)เป็นโรคทางระบบประสาท ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวทางกายภาพซ้ำ ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ และทำเสียงดังออกมาโดยรู้ตัว ซึ่งยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ กลุ่มอาการทูเร็ตต์มักทำให้เกิดอาการกระตุก อาการกล้ามเนื้อกระตุกจะเกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เป็นการกระตุกของกล้ามเนื้ออย่างกะทันหัน อาการที่พบได้บ่อยที่สุดได้แก่:
  • กระพริบตา
  • คัดจมูก
  • เกิดเสียงคำราม
  • เสียงกระแอม
  • หน้าบึ้งตึง
  • ไหล่กระตุก
  • ศีรษะสั่น
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางคนอาจแสดงอาการของกลุ่มอาการทูเร็ตต์ในระดับที่รุนแรง และโรคนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเกือบ 4 เท่า

อาการของ Tourette Syndrome คือ

อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มักแสดงอาการในช่วงอายุ 3 ถึง 9 ขวบ โดยอาการจะเริ่มจากกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและคอ จากนั้นจะเกิดอาการบริเวณลำตัวและแขนขาได้ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Tourette’s Syndrome มักมีความผิดปกติเกิดขึ้นทั้งกล้ามเนื้อกระตุก และเสียงดังที่ออกมาโดยไม่รู้ตัว อาการมักจะแย่ลง เมื่อเกิดในช่วงเวลาที่: อาการมักรุนแรงที่สุดในช่วงวัยรุ่นตอนต้น อาการเสียงที่ผิดปกติมีลักษณะต่าง ๆ กัน ดังนี้เสียงที่คล้ายเครื่องยนต์ หรือเสียงคำราม อาจจำแนกประเภทเพิ่มเติมจากความเรียบง่ายหรือซับซ้อนของเสียงด้วย เสียงที่เกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ มักเกี่ยวข้องกับกลุ่มกล้ามเนื้อเพียงกลุ่มเดียวและเกิดเพียงช่วงสั้น ๆ ส่วนเสียงที่ซับซ้อนเกิดจากการเคลื่อนไหว หรือการเปล่งเสียงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มกล้ามเนื้อหลายกลุ่ม

สาเหตุของ Tourette Syndrome คือ

Tourettes Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่มีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในส่วนต่าง ๆ ของสมองและสัญญานประสาทที่เชื่อมต่อกัน ความผิดปกติอาจเกิดขึ้นในปมประสาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมอง ซึ่งใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย สารเคมีในสมองจะส่งกระแสประสาท ที่เรียกว่าสารสื่อประสาทก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สารสื่อประสาท ได้แก่:
  • Dopamine
  • Serotonin
  • Norepinephrine
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรค tics และยังไม่มีวิธีป้องกันได้ นักวิจัยเชื่อว่าข้อบกพร่องทางพันธุกรรมก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง โดยมีความพยายามระบุยีนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Tourette Syndrome 

การวินิจฉัยโรคติกส์

แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย การวินิจฉัยจะต้องใช้วิธีการมากกว่า 1 วิธี และจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี เงื่อนไขบางอย่างอาจคล้ายคลึงกับโรคทูเร็ตต์ แพทย์จึงมักนำเทคนิคการฉายภาพมาวินิจฉัยอาการ เช่น MRI, CT scan หรือ EEG ผู้ที่เป็น Tourette Syndrome มักมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น: tourette syndrome

การรักษา Tourette Syndrome

หากอาการของผู้ป่วยไม่รุนแรง ผู้ป่วยอาจไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา แต่หากอาการรุนแรงหรือทำให้เกิดความคิดอยากทำร้ายตนเอง มีวิธีรักษาหลายวิธี แพทย์อาจแนะนำแนวทางการรักษา เมื่ออาการของผู้ป่วยแย่ลงในวัยผู้ใหญ่

การบำบัด

แพทย์อาจแนะนำการบำบัดพฤติกรรมหรือจิตบำบัดในการรักษา เป็นการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่มีใบอนุญาต การบำบัดพฤติกรรม ได้แก่:
  • อบรมให้ความรู้
  • การฝึกอบรมเพื่อตอบสนองต่อการกระทำต่าง ๆ
  • ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของโรค
การบำบัดประเภทนี้สามารถช่วยบรรเทาลักษณะอาการของ:
  • ADHD
  • OCD
  • ความวิตกกังวล
แพทย์อาจใช้วิธีการต่อไปนี้ ในการทำจิตบำบัด:
  • การสะกดจิต
  • เทคนิคการผ่อนคลาย
  • การทำสมาธิ
  • การออกกำลังกายด้วยการหายใจลึก ๆ
การบำบัดแบบกลุ่มมักเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะผู้ป่วยจะได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ป่วยคนอื่น ๆ ในกลุ่มที่อายุใกล้เคียงกัน

ยารักษา

ยังไม่มียารักษาโรค Tourette Syndrome โดยเฉพาะ แต่แพทย์อาจสั่งยา เพื่อช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ดังนี้: ยา Haloperidol (Haldol), aripiprazole (Abilify), risperidone (Risperdal) หรือยารักษาโรคประสาทอื่น ๆ : ยาเหล่านี้จะช่วยหยุดหรือยับยั้งตัวรับโดปามีนในสมอง และช่วยจัดการกับอาการของโรค รวมถึงผลข้างเคียงอย่างการเพิ่มของน้ำหนักตัว และสภาพจิตใจ ยา Onabotulinum toxin A (Botox): การฉีดโบท็อกซ์อาจช่วยจัดการกับอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ และเสียงได้ เป็นการนำ onabotulinum toxin A มาใช้รักษาอาการข้างเคียง ยา Methylphenidate (Ritalin): เป็นยากระตุ้นที่ช่วยลดอาการของโรคสมาธิสั้นได้ โดยไม่เพิ่มอาการอื่น ๆ ของโรค ยา Clonidine: เป็นยาลดความดันโลหิต ที่สามารถช่วยลดอาการกระตุก ยา Topiramate (Topamax): ใช้ลดอาการกระตุก รวมถึงความบกพร่องทางการเรียนรู้ อาการง่วงนอน น้ำหนักลด และนิ่วในไต กัญชา: สารสกัดจากกัญชาอย่าง cannabinoid delta-9-tetrahydrocannabinol (dronabinol) จะช่วยหยุดอาการกระตุกในผู้ใหญ่ แต่ไม่ควรใช้กัญชากับเด็กและวัยรุ่น สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร

การรักษาทางระบบประสาท

การกระตุ้นสมองส่วนลึกเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการรักษา Tourette Syndrome ที่รุนแรง โดยแพทย์อาจฝังอุปกรณ์ที่ส่งสัญญานไปที่สมอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการควบคุมความเคลื่อนไหว หรืออาจฝังสายไฟฟ้าในสมอง เพื่อส่งสิ่งเร้าไฟฟ้าไปยังสมอง

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด