ถลอก (Skin Abrasions) คือแผลเปิดชนิดหนึ่งที่เกิดจากการที่ผิวหนังถูกับพื้นผิวที่หยาบและขรุขระหรือเรียกว่ารอยถลอกหรือรอยขวด เมื่อแผลถลอกเกิดจากการที่ผิวหนังลื่นไถลบนพื้นผิวหยาบบนถนนซึ่งเรามักเรียกว่าแผลรถล้ม
ผิวหนังถลอกเป็นการบาดเจ็บทั่วไปที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงรุนเเรง โดยส่วนใหญ่แผลถลอกมักเกิดขึ้นที่บริเวณดังต่อไปนี้
โดยส่วนใหญ่แผลถลอกแบบไม่รุนเเรงสามารถหายเองได้อย่างรวดเร็วแต่แผลถลอกที่ลึกเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่ออาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือแผลเป็นได้
วัตถุประสงค์สำคัญในการรักษาคือการรักษาแผลเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นและมั่นใจว่าแผลสะอาดและหลีกเลี่ยงโอกาสติดเชื้อต่างๆขณะที่ทำการรักษาบาดแผล
ผลข้างเคียงที่อันตรายที่สุดที่เกิดขึ้นจากแผลถลอกคือแผลเปิดที่เกิดการติดเชื้อ คุณควรไปพบแพทย์เมื่อมีสังเกตุเห็นอาการติดเชื้อเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะอาการดังต่อไปนี้
- ข้อศอก
- หัวเข่า
- คาง
- ข้อเท้า
- แขนและขา
ระดับความแตกต่างและลักษณะอาการของแผลถลอก
ผิวหนังถลอกทำห้เกิดอาการเจ็บป่วยตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงรุนเเรง โดยส่วนใหญ่แผลถลอกปานกลางสามารถรักษาเองได้ที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตามแผลถลอกบางชนิดจำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผลถลอกขั้นตัน
แผลถลอกขั้นต้นหมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผิวหนังชั้นบนสุดซึ่งเป็นผิวหนังชั้นนอกสุดหรือเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นบน โดยทั่วไปแผลถลอกขั้นต้นมีอาการไม่รุนแรงและไม่มีเลือดออก บางครั้งแผลถลอกขั้นต้นเรียกว่ารอยขีดขวนแผลถลอกขั้นที่สอง
แผลถลอกขั้นที่สองเป็นผลมาจากแผลที่เกิดขึ้นกับผิวหนังชั้นนอกและผิวหนังชั้นกำพร้า โดยผิวหนังชั้นกำพร้าเป็นเนื้อเยื่อของผิวหนังชั้นที่สองที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอกสุดซึ่งแผลถลอกที่เกิดขึ้นอาจมีเลือดซึมออกเล็กน้อยแผลถลอกขั้นที่สาม
แผลถลอกขั้นที่สามเป็นแผลถลอกชนิดที่รุนเเรงซึ่งเรียกว่าแผลหลุดหายเป็นแผลที่เกิดจากแรงเสียดทานและการฉีกขาดของเนื้อเยื่อชั้นที่ลึกลงไปกว่าชั้นผิวหนังกำพร้า โดยแผลหลุดหายเป็นแผลที่มีเนื้อเยื่อบางส่วนหลุดหายไปจึงทำให้มีเลือดไหลออกเยอะมากดังนั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างระมัดระวังการรักษาแผลถลอกที่บ้าน
โดยปกติแผลถลอกขั้นต้นและขั้นที่สองสามารถรักษาได้เองที่บ้าน วิธีรักษาแผลถลอกมีดังต่อไปนี้- เริ่มต้นด้วยการล้างมือให้สะอาดก่อน
- ค่อยล้างแผลที่ถลอกด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นและใช้สบู่อ่อนๆถู กำจัดสิ่งสกปรกออกจากแผลด้วยคีมหนีบฆ่าเชื้อ
- สำหรับรอยขวดที่ไม่มีเลือดออกสามารถปล่อยให้แผลหายเองได้
- ถ้าแผลมีเลือดออกควรใช้ผ้าพันแผลที่สะอาดและค่อยกดแผลเพื่อหยุดเลือด การยกอวัยวะที่เกิดเลือดออกให้สูงขึ้นสามารถช่วยหยุดไม่ให้เลือดไหลออกได้
- การรักษาแผลถลอกที่มีเลือดออกมักใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทาภายนอกทาที่แผลก่อนเช่นยาต้านแบคทีเรียบาซิทราซินหรือบำรุงผิวแห้งและถลอกเช่นยา Aquaphor เมื่อทายาเหล่านี้เเล้วควรปิดแผลถลอกด้วยผ้าพันแผลที่สะอาด ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลและทำความสะอาดแผลเป็นประจำทุกวัน
- มั่นตรวจสอบสัญญาณของการติดเชื้อเช่นเกิดอาการเจ็บปวดที่แผลหรือมีอาการบวมแดงเกิดขึ้น ควรรีบไปพบเเพทย์เมื่อสังเกตุพบอาการติดเชื้อ
ผิวถลอกมีภาวะเเทรกซ้อนหรือไม่ ?
โดยส่วนใหญ่แผลถลอกแบบไม่รุนเเรงสามารถหายเองได้อย่างรวดเร็วแต่แผลถลอกที่ลึกเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่ออาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือแผลเป็นได้
วัตถุประสงค์สำคัญในการรักษาคือการรักษาแผลเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นและมั่นใจว่าแผลสะอาดและหลีกเลี่ยงโอกาสติดเชื้อต่างๆขณะที่ทำการรักษาบาดแผล
ผลข้างเคียงที่อันตรายที่สุดที่เกิดขึ้นจากแผลถลอกคือแผลเปิดที่เกิดการติดเชื้อ คุณควรไปพบแพทย์เมื่อมีสังเกตุเห็นอาการติดเชื้อเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะอาการดังต่อไปนี้
- เป็นบาดแผลที่รักษาไม่หาย
- เกิดอาการเจ็บปวดเเละระคายเคืองที่ผิวหนัง
- แผลมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
- มีน้ำหนองสีเหลืองหรือเขียว
- มีไข้มากกว่าสีชั่วโมง
- มีอาการเจ็บปวดที่ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณรักแร้เเละขาหนีบ
คุณควรไปพบเเพทย์เมื่อไหร่ ?
โดยปกติแผลถลอกขั้นต้นและขั้นที่สองไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ มีเพียงแค่แผลถลอกขั้นที่สามเท่านั้นที่ควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ อย่างไรก็ตามคุณควรไปพบแพทย์ทันทีเมื่อสังเกตพบอาการดังต่อไปนี้- เลือดไหลออกจากแผลไม่หยุดอย่างน้อย 5 นาที
- เลือดไหลออกจาแผลอย่างรุนเเรงหรือมีเลือดไหลออกมาเกินไป
- บาดแผลเกิดจากอุบัติเหตุที่รุนเเรง
แผลถลอกที่หายดีเเล้วเป็นอย่างไร ?
โดยทั่วไปแผลถลอกสามารถหายเองได้โดยปราศจากการติดเชื้อและแผลเป็นเกิดขึ้น การรักษาที่เหมาะสมและเร็วที่สุดสามารถช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อ ในระหว่างที่กำลังรักษาบาดแผลอาจมีสะเก็ดผิวหนังเกิดขึ้นบนแผล สะเก็ดเหล่านี้เป็นกระบวนการรักษาบาดแผลตามธรรมชาติ ไม่ควรแกะหรือเกาเพื่อนำเอาสะเก็ดแผลออกเนื่องจากสะเก็ดแผลเหล่านี้สามารถหลุดหายไปได้เองทำอย่างไรให้แผลหายไว
1. บริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี
วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการผลิต การเจริญเติบโต และการหลั่งคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิว หากไม่มีสารอาหารนี้ ร่างกายของคุณก็ไม่สามารถผลิตคอลลาเจนได้เพียงพอเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่และเนื้อเยื่อแผลเป็นที่จำเป็นสำหรับการรักษาบาดแผล อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณควรรับประทานวิตามินซีเพิ่มขึ้นก็คือคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งของวิตามินนี้สามารถช่วยลดการอักเสบ ความเจ็บปวด และรอยแดงที่เกี่ยวข้องกับการถลอกของผิวหนังได้ ส้ม มะเขือเทศ สตรอว์เบอร์รี บร็อคโคลี และพริกแดงล้วนมีวิตามินซีสูง หากคุณไม่สามารถรับประทานอาหารตามปริมาณที่แนะนำได้จากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเริ่มรับประทานวิตามินซีเสริม2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำอย่างน้อย 7-8 แก้วต่อวันเพื่อหล่อลื่นผิวจากภายใน ผิวแห้งมีแนวโน้มที่จะฉีกขาดและใช้เวลาในการรักษานานกว่า3. หลีกเลี่ยงน้ำตาล ธัญพืชขัดสี และอาหารแปรรูป
อาหารเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการอักเสบและทำให้แผลหายช้าลง4. ประคบเย็นที่แผล
หากมีรอยช้ำหรือบวมบริเวณแผล ให้ห่อน้ำแข็งด้วยผ้านุ่มสะอาดก่อนประคบ การประคบน้ำแข็งโดยตรงบนผิวหนังอาจทำให้ถูกน้ำแข็งกัดได้5.ปกป้องผิวที่บอบช้ำจากแสงแดด
หลีกเลี่ยงการให้แผลสัมผัสกับรังสียูวีจากแสงแดดเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยดำ6. พยายามอย่าออกแรง
แรงกดมากเกินไปที่บริเวณแผลอาจทำให้เลือดออกได้7. สวมอุปกรณ์ป้องกันผิวหนังขณะเล่นกีฬา
สวมอุปกรณ์ป้องกันกีฬาที่เหมาะสมเสมอ เช่น สนับเข่า สนับเข่า ถุงมือ และสนับศอก เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่เกินควร8. อย่าแคะหรือเกาบริเวณที่เป็นสะเก็ด
การเกิดสะเก็ดเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาผิวหนังตามธรรมชาติ โดยพื้นฐานแล้วมันคือเนื้อเยื่อแผลเป็นที่ก่อตัวขึ้นเหนือบาดแผลเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรค นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผิวใหม่กำลังก่อตัวขึ้นใต้ชั้นผิว การแกะหรือเกาสะเก็ดจะยิ่งสร้างความเสียหายและทำให้ผิวหนังที่บาดเจ็บของคุณปนเปื้อน เพิ่มความเสี่ยงของแผลเป็นหรือการติดเชื้อ9. เลิกสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ทำให้กระบวนการรักษาช้าลงและทำให้ร่างกายไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้สรุปเกี่ยวกับแผลถลอก?
แผลถลอกเป็นแผลปกติทั่วไปที่ผู้คนสามารถเป็นแผลนี้ได้หลายครั้งในช่วงชีวิต โดยส่วนใหญ่แล้วแผลถลอกที่ไม่รุนแรงสามารถรักษาได้เองที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังและดูเเลแผลถลอกที่รุนเเรงด้วยการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยป้องกันการเกิดแผลติดเชื้อและแผลเป็นในอนาคตนี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://newsnetwork.mayoclinic.org/discussion/treating-skin-abrasions-known-as-raspberries/
- https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/conditionsandtreatments/skin-cuts-and-abrasions
- http://www.urgomedical.com/wounds/skin-abrasions/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ก้อนเนื้อที่เต้านม (Breast Lump)
ทำไมกลิ่นตัวแรง หรือกลิ่นตัวเปลี่ยนไป (Body Odor)
การบริหารร่างกายสำหรับกระดูกทับเส้น (Exercises for Herniated Disc-Related)
กระดูกงอก (Osteophytes)
ประโยชน์ของกระดาษซับมัน (Benefits of Blot Paper)
ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำอุดตัน (Venous Thromboembolism)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น