กามโรค (Sexually Transmitted Diseases) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ภาพรวม

กามโรค โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ Sexually transmitted diseases (STDs) —หรือการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ Sexually transmitted infections (STIs) — คือ โดยปกติแล้วเป็นโรคที่ได้มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยได้รับเชื้อโรค (แบคทีเรียไวรัสหรือปรสิต) ที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยสามารถได้รับผ่านทางเลือด น้ำเหลือง อสุจิ และสารคัดหลั่งอื่นๆ จากร่างกาย บางครั้งการติดเชื้อเหล่านี้สามารถติดต่อได้โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ เช่น จากแม่สู่ทารกในระหว่างตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอด หรือการใช้เข็มร่วมกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ก่อให้เกิดอาการเสมอไป ในผู้ที่ร่างกายแข็งแรงอาจจะไม่แสดงอาการหรือผู้ป่วยแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ Sexually transmitted diseases (STDs) —หรือการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ Sexually transmitted infections (STIs) มีสัญญาณ และอาการหลายอย่างและอาจจะไม่มีอาการ ทำให้โรคพวกนี้สังเกตได้ยาก จนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือได้รับการวินิจฉัย โดยอาการ STI ได้แก่ 
  • แผลหรือตุ่มที่อวัยวะเพศ หรือในช่องปากหรือทวารหนัก
  • แสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • ของเหลวไหลออกอวัยวะเพศชาย
  • ตกขาวผิดปกติหรือมีกลิ่นเหม็น
  • เลือดออกทางช่องคลอด
  • มีความเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • ต่อมน้ำเหลืองที่เจ็บและบวมโดยเฉพาะที่ขาหนีบ แต่สามารถแพร่กระจายได้
  • ปวดท้องน้อย
  • มีไข้
  • ผื่นตามลำตัวมือหรือเท้า
อาการจะแสดงขึ้นภายใน 2-3 วันหลังจากสัมผัสหรืออาจใช้เวลานานหลายปีก่อนที่อาการจะปรากฏขึ้น โดยแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

เมื่อไรที่ควรไปคลินิกกามโรค

ควรพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้
  • มีกิจกรรมบนเตียงร่วมกับผู้ที่มี STI
  • มีอาการของ STI
ควรเข้ารับการตรวจเมื่อมีปัจจัยดัง่อไปนี้
  • เมื่อจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์
  • ก่อนที่คุณจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนคนใหม่
Sexually Transmitted Diseases

สาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีสาเหตุมาจาก
  • แบคทีเรีย (Gonorrhea, syphilis, chlamydia)
  • ปรสิต (Trichomoniasis)
  • ไวรัส (Human papillomavirus, Genital herpes, HIV)
เพศสัมพันธ์นั้นสามารถแพร่กระจายการติดเชื้อชนิดอื่น ๆ  แต่บางเชื้อก็สามารถติดได้โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ บี และซี เป็นต้น

ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยในการสัมผัสกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) หรือการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ 
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักกับคู่นอนที่ติดเชื้อซึ่งไม่ได้สวมถุงยางอนามัย จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ STI การใช้ถุงยางอนามัยอย่างไม่เหมาะสมเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน การมีเพศสัมพันธ์ทางปากอาจมีความเสี่ยงน้อยกว่าทางช่องคลอดหรือทวารหนัก แต่การติดเชื้อยังสามารถแพร่เชื้อได้
  • มีคู่นอนมากกว่า 1 คน ยิ่งมีคู่นอนจำนวนมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมาก และอาจนำความเสี่ยงมาสู่คู่สมรสได้
  • เคยมีประวัติ STIs. การมี STI ชนิดหนึ่งอยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการติด STI ชนิดอื่นๆ
  • ผู้ที่ถูกบังคับให้มีกิจกรรมทางเพศ การถูกข่มขืนหรือการทำร้ายร่างกายให้มีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อที่คุณจะได้รับวินิจฉัยและรักษา
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการใช้ยาเสพติด การใช้แอลกอฮอล์และสารเสพติดทำให้ความยับยั้งชั่งใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลง ทำให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
  • การฉีดยา การใช้เข็มร่วมกัน สามารถแพร่เชื้อเหล่านี้ได้ เช่น HIV ไวรัสตับอักเสบ B และ C.
  • อายุน้อย STI พบส่วนมากในช่วงอายุ 15 – 24 ปี
  • ผู้ชายที่ใช้ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ ผู้ชายที่ใช้ยาเสริมสมรรถภาพ เช่น Sildenafil (Viagra, Revatio), Tadalafil (Cialis, Adcirca) และ Vardenafil (Levitra) จะมีอัตราติดเชื้อ STI สูงกว่าคนทั่วไป โปรดมั่นใจว่าคุณมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยทุกครั้ง

การแพร่เชื้อจากแม่สู่ทารก

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น หนองในหนองในเทียม HIV และซิฟิลิสสามารถแพร่เชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อไปยังลูกระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอดได้ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่งผลต่อทารกโดยอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง หรือเสียชีวิตได้ สตรีมีครรภ์ทุกคนควรได้รับการตรวจคัดกรอง STI เพื่อที่จะสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้อง 

ภาวะแทรกซ้อนของกามโรค

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) หรือที่เรียกว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาหรือจัดการไม่ดี ภาวะแทรกซ้อนทั่วไปบางประการที่เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ :
  • โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ (PID): นี่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงซึ่งอาจเป็นผลมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ดี เช่น หนองในเทียมหรือหนองในเทียม PID เกิดขึ้นเมื่อการติดเชื้อแพร่กระจายจากอวัยวะสืบพันธุ์ไปยังระบบสืบพันธุ์ส่วนบน ซึ่งนำไปสู่การอักเสบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ PID อาจทำให้เกิดอาการปวดเชิงกรานเรื้อรังและอาจส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะมีบุตรยากและการตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • ภาวะมีบุตรยาก: โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น หนองในเทียมและหนองในเทียมสามารถทำให้เกิดแผลเป็นและการอุดตันในอวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากทั้งในผู้ชายและผู้หญิง การติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ตั้งครรภ์ได้ยาก
  • การตั้งครรภ์นอกมดลูก: การตั้งครรภ์นอกมดลูกเกิดขึ้นเมื่อไข่ที่ปฏิสนธิฝังตัวนอกมดลูก โดยปกติจะอยู่ในท่อนำไข่ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในเทียมและหนองในเทียมสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอวัยวะสืบพันธุ์
  • ความเจ็บปวดและความไม่สบายเรื้อรัง: โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศหรือไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา (HPV) อาจทำให้เกิดอาการปวดที่อวัยวะเพศ ความรู้สึกไม่สบาย และอาการคันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีการติดเชื้ออยู่ก็ตาม
  • ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแพร่เชื้อเอชไอวี: การมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับหรือแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
  • ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท: ซิฟิลิสหากไม่ได้รับการรักษา สามารถพัฒนาไปสู่ระยะต่อไปได้ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่รุนแรง เช่น โรคซิฟิลิส สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของจิต อัมพาต และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • ภาวะแทรกซ้อนของหัวใจและหลอดเลือด: ซิฟิลิสที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด นำไปสู่หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองหรือปัญหาหัวใจร้ายแรงอื่น ๆ
  • มะเร็ง: เชื้อ HPV บางชนิดสามารถนำไปสู่การพัฒนาของมะเร็งปากมดลูก ทวารหนัก องคชาติ และมะเร็งลำคอ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์
การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เข้ารับการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์ทันทีหากคุณสงสัยว่าอาจเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือหากคุณมีอาการใดๆ เป็นสิ่งสำคัญ การตรวจหาและรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้

นี่คือที่มาของแหล่งบทความของเรา

  • https://www.cdc.gov/std/default.htm
  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sexually-transmitted-diseases-stds/symptoms-causes/syc-20351240
  • https://www.nhs.uk/conditions/sexually-transmitted-infections-stis/
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด