ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ยาไนโตรฟูแรนโทอิน
ยาไนโตรฟูแรนโทอิน (Nitrofurantoin) นี้ใช้รักษา หรือป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบางชนิด ยานี้เป็นยาปฏิชีวนะที่ทำงานโดยหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้ไม่ได้กับการติดเชื้อไวรัส (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่) การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็ นหรือมากเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพการกำจัดเชื้อลดลงได้ ไม่ควรใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอินในเด็กอายุต่ำกว่า 1 เดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อปัญหาโลหิตจางได้

วิธีใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน

รับประทานยายาไนโตรฟูแรนโทอิน พร้อมอาหาร หรือนม ตามที่แพทย์กำหนด ปกติยาไนโตรฟูแรนโทอินจะใช้วันละ 4 ครั้ง เพื่อรักษาการติดเชื้อ หรือวันละ 1 ครั้งก่อนนอน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมไตรซิลิเกตในขณะที่ใช้ยานี้ ยาลดกรดที่ประกอบด้วยแมกนีเซียมไตรซิลิเกตจับกับ Nitrofurantoin ป้องกันการดูดซึมอย่างเต็มที่ ปริมาณ และระยะเวลาการใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอินขึ้นอยู่กับสุจภาพ และการตอบสนองต่อการรักษาของคุณ และน้ำหนักตัวในกรณีของเด็ก ควรรับประทานยาปฏิชีวนะอย่างสม่ำเสมอ ในเวลาเดิมซ้ำๆ เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา เมื่อใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน ให้รับประทานจนครบปริมาณตามที่แพทย์กำหนด เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ หากรับประทานยาไนโตรฟูแรนโทอินแล้วสัญญาณของการติดเชื้อไม่ดีขึ้นโปรดปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร

ผลข้างเคียงยาไนโตรฟูแรนโทอิน

ยาไนโตรฟูแรนโทอินอาจจะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือปวดศีรษะ สามารถรับประทานยาพร้อมกับมื้ออาหารเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ได้ ยาไนโตรฟูแรนโทอินอาจทำให้ปัสสาวะของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล ผลกระทบนี้ไม่เป็นอันตราย และจะหายไปเมื่อหยุดยา ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย แต่รุนแรงของยานี้คือ ยาไนโตรฟูแรนโทอินอาจทำให้เกิดปัญหาปอดที่ร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิต โปรดพบแพทย์โดยด่วนหากมีปัญหาเกี่ยวกับปอดดังนี้
  • ไอเรื้อรัง
  • เจ็บหน้าอก
  • หายใจลำบาก
  • ปวดข้อ และกล้ามเนื้อ
  • ผิวสีฟ้า หรือสีม่วง
  • สัญญาณใหม่ของการติดเชื้อ (เช่น มีไข้ เจ็บคอเรื้อรัง)
  • ช้ำ หรือเลือดออกง่าย
  • การเปลี่ยนแปลงอารมณ์
  • ปวดศีรษะรุนแรง หรือเรื้อรัง
  • ปัญหาการมองเห็น
nitrofurantoin รวมทั้งสัญญาของความผิดปกติชองโรคตับ เลือด หรือเส้นประสาทที่ร้ายแรงที่พบได้น้อยในการใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน ได้แก่ นี่เป็นเพียงผลข้างเคียงบางประการของยาไนโตรฟูแรนโทอิน อาจจะไม่ครอบคลุม ดังนั้นหากพบความผิดปกติอื่นๆ จากการใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอินควรไปพบแพทย์เช่นกัน

ข้อควรระวังยาไนโตรฟูแรนโทอิน

ก่อนใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณallergy-0094/”>แพ้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน หรือยาอื่นๆ และประวัติทางสุขภาพ โดยเฉพาะปัญหาดังต่อไปนี้
  • ปัสสาวะออกน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลย
  • โรคไตอย่างรุนแรง
  • ภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง  (การขาด G-6-PD)
  • ประวัติปัญหาตับจากการใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอินในอดีต
  • ความผิดปกติของเลือด (เช่น โรคโลหิตจาง)
  • ปัญหาเกี่ยวกับไต หรือตับ
  • โรคปอด
  • ปัญหาเส้นประสาทบางอย่าง (เช่น เส้นประสาทส่วนปลาย)
  • โรคตาบางชนิด (เช่น โรคประสาทอักเสบตา)
  • โรคเบาหวาน
  • ความไม่สมดุลของแร่ธาตุ
  • ขาดวิตามินบี
ยาไนโตรฟูแรนโทอินอาจทำให้วัคซีนแบคทีเรียที่มีชีวิต (เช่น วัคซีนไทฟอยด์) ไม่ทำงานเช่นกัน ห้ามฉีดวัคซีนใดๆ ขณะใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์จะเป็นผู้พิจารณา สำหรับสตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรยาไนโตรฟูแรนโทอิน สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และอาจส่งผลที่ไม่พึงประสงค์ต่อทารกที่อายุไม่ถึง 1 ดือน และในทารกที่มีภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง (การขาด G-6-PD) ดังนั้นควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเสมอเมื่อต้องใช้ยาไนโตรฟูแรนโทอิน

ทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนยาไนโตรฟูแรนโทอิน

สามารถใช้ยาปฏิชีวนะทางเลือกหลายชนิดแทนไนโตรฟูรันโทอินในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของการติดเชื้อ ความไวต่อแบคทีเรีย และลักษณะเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละราย ต่อไปนี้เป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกบางชนิดที่มักใช้สำหรับโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ:
  • Trimethoprim/Sulfamethoxazole (TMP/SMX) : หรือ co-trimoxazole หรือ Bactrim, trimethoprim/sulfamethoxazole เป็นยาปฏิชีวนะแบบผสมผสานที่มักใช้เป็นแนวทางแรกสำหรับการรักษา UTI ที่ไม่ซับซ้อนที่เกิดจากแบคทีเรียที่อ่อนแอ
  • ซิโปรฟลอกซาซิน : ซิโปรฟลอกซาซินเป็นยาปฏิชีวนะฟลูออโรควิโนโลนที่มีประสิทธิผลในการต่อต้านแบคทีเรียหลายชนิดที่มักเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ มักกำหนดไว้สำหรับโรคอุจจาระร่วงที่ไม่ซับซ้อนและซับซ้อน แม้ว่าการใช้จะถูกจำกัดมากขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการดื้อยาปฏิชีวนะและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • Levofloxacin : Levofloxacin เป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ fluoroquinolone ที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกิดจากแบคทีเรียแกรมลบ เช่น Escherichia coli เช่นเดียวกับ ciprofloxacin การใช้อาจถูกจำกัดเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการดื้อยาและผลข้างเคียง
  • Ceftriaxone : Ceftriaxone เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเซฟาโลสปอรินรุ่นที่สามซึ่งมักใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือทางเดินปัสสาวะที่ซับซ้อนที่เกิดจากแบคทีเรียที่ดื้อยาหลายชนิด โดยปกติจะให้ยาทางหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อในโรงพยาบาล
  • Amoxicillin/Clavulanate : Amoxicillin/clavulanate หรือที่เรียกว่า Augmentin เป็นยาปฏิชีวนะแบบผสมผสานที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านแบคทีเรียในวงกว้าง รวมถึงแบคทีเรียหลายชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มักใช้สำหรับการติดเชื้อซ้ำหรือซับซ้อน
  • ฟอสโฟมัยซิน : ฟอสโฟมัยซินเป็นยาปฏิชีวนะในวงกว้างซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เป็นยารักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างที่ไม่ซับซ้อนซึ่งเกิดจากแบคทีเรียที่ไวต่อยาในขนาดเดียว ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย
  • Nitrofurantoin Macrocrystal : แม้ว่า nitrofurantoin มักใช้ในการรักษาโรคอุจจาระร่วง แต่สูตรทางเลือกที่เรียกว่า nitrofurantoin macrocrystals (Macrodantin) อาจเหมาะสำหรับบุคคลที่ไม่สามารถทนต่อสูตรมาตรฐานได้เนื่องจากผลข้างเคียงในทางเดินอาหาร
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการเลือกยาปฏิชีวนะควรขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ชนิดและความรุนแรงของการติดเชื้อ รูปแบบการดื้อยาต้านจุลชีพในท้องถิ่น ประวัติการรักษาพยาบาลและปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วย ผู้ให้บริการด้านการแพทย์จะพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เมื่อเลือกยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะให้ครบตามที่กำหนด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นก่อนที่ยาจะเสร็จสิ้นก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อจะหายไปอย่างสมบูรณ์และช่วยป้องกันการดื้อยาปฏิชีวนะ และควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนรับประทานยาหรือเปลี่ยนยาใด ๆ 
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด