การบล็อกหลังคืออะไร
การบล็อกหลัง เป็นวิธีขั้นตอนหนึ่งของการวางยาสลบ การบล็อกหลังสามารถทำได้ทั้งในการผ่าตัด และไม่ผ่าตัด
การบล็อกหลังแบบไม่ผ่าตัดเป็นการฉีดยาเข้าไปรอบ ๆ เส้นประสาทที่ต้องการ หรือกลุ่มของเส้นประสาท ยานี้จะไปป้องกันไม่ให้เส้นประสาทประตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ส่วนที่ถูกฉีดยาจะชา หรือคุณอาจรู้สึกเหมือนมีเข็มแทง
การบล็อกหลังแบบผ่าตัดเป็นการตัด หรือทำลายเส้นประสาทเพื่อที่จะไม่ให้พวกมันส่งการกระตุ้นไปที่ระบบประสาทส่วนกลางได้
การบล็อกหลังสามารถอยู่ได้ 12-36 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับชนิดที่ใช้ การบล็อกหลังแบบผ่าตัดอาจมีผลอยู่ถาวร
การบล็อกหลังอาจถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเพียงวิธีเดียว หรืออาจใช้ร่วมกับวิธีอื่น
การบล็อกหลังจะถูกใช้เมื่อใด
การบล็อกหลังมักถูกใช้ในการป้องกัน หรือควบคุมความเจ็บปวด การบล็อกหลังมีประสิทธิภาพมากกว่าการให้ยาทางหลอดเลือดดำ แพทย์อาจใช้การบล็อกหลังเพื่อบรรเทาอาการปวดเหล่านี้:- ความเจ็บปวดจากการคลอดลูก
- ความเจ็บปวดก่อน ระหว่าง หรือหลังการผ่าตัด เช่น ข้อต่อ หรือการเปลี่ยนข้อเข่า
- ความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้อกับมะเร็ง
- ความเจ็บปวดจากข้อเข่าเสื่อม
- ปวดหลังล่าง หรือปวดร้าวลงขา
- ไมเกรน
- การเจ็บปวดเรื้อรังต่าง ๆ
- ปวดคอจากหมอนรองกระดูกทับเส้น
- อาการปวดหลอนหลังอวัยวะถูกตัดขาด
- ความเจ็บปวดต่อเนื่องจากโรคงูสวัด
- ความเจ็บปวดจากการกระตุกในหลอดเลือด
- เหงื่อออกมากเกินไป
- โรคเรเนาด์
การใช้บล็อกหลังในกรณีอื่น ๆ
การบล็อกหลังอาจใช้เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยว่าอาการเจ็บปวดของคุณมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน โดยการสังเกตว่าการบล็อกหลังส่งผลต่อความเจ็บปวดของคุณอย่างไร แพทย์อาจสามารถหาสาเหตุของการเจ็บปวดนั้นได้ และรักษาอย่างถูกวิธีชนิดของการบล็อกเส้นประสาท
อาการปวดจากบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายต้องใช้การบล็อกเส้นประสารที่ตjางกัน ตัวอย่างเช่น:การบล็อกเส้นประสาทส่วนปลาย
- การบล็อก interscalene (ไหล่ ไหปลาร้า หรือต้นแขน)
- การบล็อก supraclavicular (ต้นแขน)
- การบล็อก infraclavicular (ข้อศอก หรือต่ำกว่านั้น)
การบล็อกเส้นประสาทใบหน้า
- การบล็อก trigeminal (หน้า)
- การบล็อก ophthalmic (เปลือกตา และหนังศีรษะ)
- การบล็อก supraorbital (หน้าผาก)
- การบล็อก maxillary (ขากรรไกรล่าง)
- การบล็อก sphenopalatine (จมูก และเพดานปาก)
การบล็อกคอ และหลัง
- การบล็อก cervical epidural (คอ)
- การบล็อก thoracic epidural (หลังส่วนบน และสีข้าง)
- การบล็อก lumbar epidural (หลังส่วนล่าง และสะโพก)
การบล็อกหน้าอก และหน้าท้อง
- การบล็อก paravertebral (หน้าอก และหน้าท้อง)
- การบล็อก intercostal (หน้าอก หรือสีข้าง)
- การบล็อก transversus abdominis plane (ท้องน้อย)
การบล็อกปลายประสาทส่วนล่าง
- การบล็อก hypogastric plexus (บริเวณอุ้งเชิงกราน)
- การบล็อก lumbar plexus (หน้าขา ต้นขา หัวเข่า และหลอดเลือดดำซาฟีเนียส)
- การบล็อก femoral (ต้นขาทั้งหมด กระดูกต้นขา ข้อเข่า กระดูกข้อต่อสะโพก แต่ไม่ใช่ข้างหลังของเข่า — ใช้เพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนหัวเข่า)
- การบล็อก sciatic nerve (หลังขา ขาล่าง ข้อเท้า และเท้า) ซึ่งรวมไปถึงการบล็อก popliteal (ใต้หัวเข่า)
การบล็อกเส้นประสาทโดยไม่ผ่าตัด
- Epidural: เป็นการฉีดยาเข้าไขสันหลังเพื่อให้หน้าท้อง และปลายประสาทส่วนล่างชา เป็นการบล็อกเส้นประสาทที่พบได้บ่อยที่สุด และมักถูกใช้ในระหว่างการคลอดลูก
- Spinal anesthesia: เป็นยาชาที่ใช้ฉีดเข้าไปรอบ ๆ ไขสันหลัง
- Peripheral: เป็นยาชาที่ใช้ฉีดไปรอบ ๆ บริเวณที่ทำให้เกิดอาการปวด
การบล็อกเส้นประสาทโดยการผ่าตัด
- Sympathetic blockade: การบล็อกความเจ็บปวดจากระบบประสาทซิมพาเธติกในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง อาจถูกใช้เพื่อรักษาอาการเหงื่อออกมากเกินไปในจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย
- Neurectomy: ระบบประสาทนอกส่วนกลางที่ถูกทำลายต้องถูกผ่าตัดเพื่อทำลาย เป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยในอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ ที่การรักษาต่าง ๆ ไม่เป็นผลสำเร็จ เช่น กลุ่มอาการเจ็บปวดเฉพาะที่แบบซับซ้อน
- Rhizotomy: เป็นรากของเส้นประสาทที่ออกมาจากกระดูกสันหลังซึ่งต้องถูกทำลายโดยการผ่าตัด วิธีนี้ถูกใช้รักษาอาการต่าง ๆ เช่น โรคสมองพิการชนิดหดเกร็ง หรือภาวะสมองพิการ
บล็อกหลังผลข้างเคียง
การบล็อกหลังเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่เช่นเดียวกับหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ การบล็อกหลังก็มีความเสี่ยง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงน้อยกว่การรักษาอาการเจ็บปวดวิธีอื่น ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากการบล็อกหลัง:- การติดเชื้อ
- ช้ำ
- เลือดออก
- บริเวณที่ฉีดยากดเจ็บ
- บล็อกเส้นประสาทผิดเส้น
- กลุ่มอาการฮอร์เนอร์ ซึ่งทำให้หนังตาตก และทำให้รูม่านตาเล็กลงเมื่อระบบประสาทบริเวณสมอง และตาได้รับผลกระทบ (ปกติแล้วจะหายไปเอง)
- เส้นประสาทได้รับความเสียหาย (พบน้อย และมักเป็นเพียงชั่วคราว)
- ได้รับยาเกินขนาด (พบน้อย)
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น