เสียงแหบ (Hoarseness) คือการที่เสียงเปลี่ยนไป มักเกิดพร้อมอาการคอแห้งหรือคันคอ อาการ คือ เสียงแหบ เสียงค่อยลง ทำให้เสียงเปลี่ยน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติที่สายเสียง และอาจมีกล่องเสียงอักเสบด้วย
ถ้ามีอาการเสียงแหบติดต่อกันนานกว่าสิบวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เพราอาจมีโรคร้ายแรง
สาเหตุของการเกิดเสียงแหบ
เสียงแหบโดยทั่วไปมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในจมูก หลังคอ และจากอื่นๆอีกเช่น- กรดไหลย้อน
- สูบบุหรี่
- การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การกรีดร้อง ร้องเพลงหรือใช้เสียงนานๆ
- ภูมิแพ้
- สูดดมสารพิษ
- ไอมากๆ
- เนื้องอกที่สายเสียง
- มะเร็งที่คอ ไทรอยด์หรือปอด
- มีบาดแผลที่ในคอเช่น จากการใส่ท่อช่วยหายใจ
- เด็กชายที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่ม
- ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่เป็นปกติ
- ปัญหาจากเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อของกล่องเสียง
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์
เสียงเปลี่ยนไปไม่ใช่ภาวะฉุกเฉิน แต่บางครั้งอาจมีสาเหตุที่เกิดจากโรคร้ายแรง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หาก :- เสียงเปลี่ยนนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ในเด็ก หรือ สิบวันในผู้ใหญ่
- ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีอาการน้ำลายไหล(ในเด็ก) กลืนลำบาก หรือหายใจลำบากร่วมด้วย
- พูดไม่ได้ หรือไม่เป็นประโยค แสดงว่าอาจมีโรคร้ายแรง
การวินิจฉัย
หากท่านไปพบแพทย์ หรือไปห้องฉุกเฉินและมีอาการหายใจลำบาก การรักษาแรกสุดคือ ทำให้ท่านหายใจได้ โดยการให้ใส่หน้ากากออกซิเจนหรือใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นแพทย์ จะซักประวัติเพื่อหาสาเหตุ เช่น มีการตะโกนหรือพูดมากๆ มีไข้ หรือมีอาการอ่อนเพลียหรือไม่ ตรวจในลำคอเพื่อดูว่ามีอาการอักเสบหรือความผิดปกติอื่นหรือไม่ แพทย์อาจนำเชื้อในคอไปตรวจ เอกซเรย์ หรือ ตรวจคอมพิวเตอร์สแกน เจาะเลือดไปตรวจดูความเข้มข้นของเลือดการรักษาตัวเองเมื่อเสียงแหบ
- งดการใช้เสียง(พูด ตะโกน) และห้ามกระซิบ
- ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มให้มาก เพื่อช่วยให้คอชุ่มชื่น
- งดดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ เพราจะทำให้คอแห้ง
- ใช้เครื่องพ่นไอน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น
- อาบน้ำอุ่นจัด ควันจากน้ำช่วยให้ความชุ่มชื้น
- ลด/เลิกสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้คอแห้ง ระคายคอ
- อมยาอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง จะทำให้มีน้ำลายหลั่ง ช่วยให้ชุ่มคอ
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะจะทำให้เสียงแหบมากขึ้น
- อย่าใช้ยาแก้คัดจมูก เพราะจะทำให้คอแห้งและคันคอ
- ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุจากโรคร้ายแรง
การป้องกันเสียงแหบ
- งดสูบบุหรี่ และอยู่ให้ไกลจากผู้สูบ
- ล้างมือบ่อยๆ เสียงแหบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส การล้างมือช่วยลดโอกาสติดเชื้อได้
- ดื่มน้ำ(ของเหลว)ให้พอเพียง เพื่อให้ลำคอชุ่มชื้น
- งดเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เช่นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
- ไม่ควรกระแอมบ่อยๆ เพราะจะทำให้ระคายคอ
- ระยะเวลานานเกินไป :ถ้าเสียงแหบกินเวลานานกว่าสองสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดหรือสาเหตุอื่นๆ ที่ชัดเจน คุณควรพิจารณาไปพบแพทย์
- ปวดหรือกลืนลำบาก :หากคุณรู้สึกเจ็บปวดขณะพูดหรือกลืนลำบากพร้อมกับเสียงแหบ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ซ่อนอยู่ เช่น การติดเชื้อ
- น้ำหนักลด เบื่ออาหาร : น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุและเบื่ออาหารพร้อมกับเสียงแหบอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น และควรได้รับการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
- ปัญหาการหายใจ : หากเสียงแหบมาพร้อมกับการหายใจลำบากหรือรู้สึกหายใจไม่ออก อาจเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
- อาการไอเรื้อรัง: หากเสียงแหบมาพร้อมกับอาการไอเรื้อรังต่อเนื่องซึ่งไม่หายไปหลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางเดินหายใจหรือสายเสียง
- ประวัติการสูบบุหรี่หรือการใช้แอลกอฮอล์ :หากคุณมีประวัติการสูบบุหรี่หรือการใช้แอลกอฮอล์มากเกินไป เสียงแหบอาจเป็นอาการของอาการต่างๆ เช่น ก้อนเนื้อที่เส้นเสียง มะเร็งกล่องเสียง หรือปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- อาการทางระบบประสาท :หากคุณมีอาการเสียงแหบร่วมกับอาการทางระบบประสาทอื่นๆ เช่น ควบคุมเสียงได้ยากหรือใบหน้าอ่อนแอ อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางระบบประสาทที่ซ่อนอยู่
- ประวัติทางการแพทย์ก่อนหน้า: หากคุณมีประวัติเกี่ยวกับปัญหาต่อมไทรอยด์ โรคกรดไหลย้อน หรืออาการอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อสายเสียง อาการเสียงแหบอาจต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17105-hoarseness-frequently-asked-questions
- https://www.nidcd.nih.gov/health/hoarseness
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/laryngitis/symptoms-causes/syc-20374262
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น