ประโยชน์ของลูกเดือย (Health Benefits of Millet)

ลูกเดือย

ลูกเดือย (Millet) เป็นเมล็ดธัญพืชที่อยู่ในตระกูล Poaceae ลูกเดือยนั้นบริโภคกันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบแอฟริกา และเอเชีย ข้อมูลทางโภชนาการของลูกเดือยก็คล้ายกับข้าวฟ่าง และธัญพืชอื่น ๆ ลูกเดือยได้รับความนิยมในตะวันตก เนื่องจากปราศจากกลูเตน และมีโปรตีนเส้นใย รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระสูง บทความนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ต่างๆ ของลูกเดือย

ข้อมูลทางโภชนาการของลูกเดือย

ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่มีแป้งซึ่งหมายความว่า อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แต่ยังมีวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด หากต้มลูกเดือยปรุงสุกหนึ่งถ้วย 174 กรัม จะได้สิ่งเหล่านี้
  • ลูกเดือยแคลอรี่: 207 แคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต: 41 กรัม
  • ไฟเบอร์: 2.2 กรัม
  • โปรตีน: 6 กรัม
  • ไขมัน: 1.7 กรัม
  • ฟอสฟอรัส: 25% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • แมกนีเซียม: 19% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • โฟเลต: 8% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • เหล็ก: 6% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ลูกเดือยให้กรดอะมิโนที่จำเป็นมากกว่าธัญพืชอื่น ๆ สารประกอบเหล่านี้เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ยิ่งไปกว่านั้นลูกเดือยยังมีปริมาณแคลเซียมสูงสุดในธัญพืชทั้งหมดโดยเป็น 13% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน 1 ถ้วยปรุงสุก (100 กรัม) ช่วยในการดูแลสุขภาพของกระดูก ลอดเลือด และกล้ามเนื้อ และการทำงานของระบบประสาทHealth Benefits of Millet

ประโยชน์ของลูกเดือย

ลูกเดือยประโยชน์หลักๆ คือ เต็มไปด้วยสารอาหาร และสารประกอบจากพืชที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งสามารถส่งเสริมสุขภาพได้ในหลายๆ ด้าน

ลูกเดือยอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ลูกเดือยอุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอลิก โดยเฉพาะกรดเฟอรูลิก และคาเทชิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะปกป้องร่างกายของคุณจากความเครียดจากกระบวนการออกซิเดชั่นของร่างกาย

ลูกเดือยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ลูกเดือยอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และโพลีแซ็กคาไรด์ที่ไม่ใช่แป้ง แต่เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ไม่สามารถย่อยได้ 2 ชนิดที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยลูกเดือยทำให้น้ำตาลในเลือด (GI) ต่ำ ซึ่งคอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูง ดังนั้นลูกเดือยจึงเป็นธัญพืชที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ลูกเดือยลดความอ้วน และทำให้คอเลสเตอรอลต่ำลง

ลูกเดือยมีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ทำให้เกิดการหนืดในลำไส้ ช่วยดักจับไขมัน และคลอเลสเตอรอลได้ดี  มีการศึกษาในหนูทดลอง 24 ตัว พบว่า หนูที่บริโภคลูกเดือยสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อีกทั้งโปรตีนจากลูกเดือยอาจจะช่วยลดคลอเลสเตอรอลได้ 

ลูกเดือยไม่มีกลูเตน

ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่ไม่มีกลูเตนทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นโรค Celiac หรือผู้ที่แพ้กลูเตน กลูเตนเป็นโปรตีนตามธรรมชาติในธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์ ผู้ที่เป็นโรค Celiac หรือแพ้กลูเตนต้องหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารที่เป็นอันตราย เช่น ท้องร่วง และการดูดซึมสารอาหารผิดปกติ

เมนูลูกเดือย

ลูกเดือยสามารถปรุงอาหารได้หลากหลาย อาจจะรับประทานแทนข้าวก็ได้ การเตรียมลูกเดือยต้มเพียงเติมน้ำ หรือน้ำซุป 2 ถ้วย (480 มล.) ต่อลูกเดือยดิบ 1 ถ้วย (174 กรัม) นำไปต้มแล้วเคี่ยวประมาณ 20 นาที จากนั้นแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนก่อนปรุงอาหาร เพื่อป้องกันการสูญเสียสารอาหาร การทำน้ำลูกเดือย ทำโดยใช้ลูกเดือย และน้ำ 3 ถ้วย เทลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนเข้ากันดี แล้วกรองเอาแต่น้ำไว้ จากนั้นนำน้ำลูกเดือยที่ได้ไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ และปรุงรสด้วยน้ำตาลนิดหน่อย จากนั้นค่อยๆ เพิ่มไฟจนเดือด และวางพักทิ้งไว้จนเย็นก่อนนำไปดื่ม เพื่อช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันต่างๆ ได้

บทสรุปสรรพคุณลูกเดือย

ลูกเดือยนั้นเป็นธัญพืชที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น การช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และการลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังไม่มีกลูเตนทำให้ผู้ที่เป็น โรค Celiac สามารถรับประทานได้ รสชาติ และสรรพคุณลูกเดือยนั้นน่าลองลิ้มรสจริงๆ

บทสรุปสรรพคุณลูกเดือย

ลูกเดือยนั้นเป็นธัญพืชที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น การช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และการลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังไม่มีกลูเตนทำให้ผู้ที่เป็น โรค Celiac สามารถรับประทานได้ รสชาติ และสรรพคุณลูกเดือยนั้นน่าลองลิ้มรสจริงๆ ต่อไปนี้เป็นกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจพิจารณารวมลูกเดือยไว้ในอาหาร:
  • ผู้ที่มีความไวต่อกลูเตนหรือโรค Celiac:
      • ลูกเดือยปราศจากกลูเตนตามธรรมชาติ ทำให้เป็นธัญพืชที่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนหรือโรคเซลิแอก
  • มังสวิรัติและวีแกน:
      • ลูกเดือยเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีและมีกรดอะมิโนที่จำเป็น อาจเป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณค่าสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกน
  • บุคคลที่เป็นโรคเบาหวาน:
      • ลูกเดือยมีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าเมื่อเทียบกับธัญพืชอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าอาจมีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ
  • ผู้ที่มองหาตัวเลือกธัญพืชไม่ขัดสี:
      • ลูกเดือยเป็นธัญพืชไม่ขัดสี และการบริโภคธัญพืชไม่ขัดสีมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้น และการควบคุมน้ำหนักที่ดีขึ้น
  • บุคคลที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก:
      • ลูกเดือยมีธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง อาจเป็นส่วนเสริมที่ดีในการรับประทานอาหารของบุคคลที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กหรือโรคโลหิตจาง
  • ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร:
      • ลูกเดือยย่อยได้ง่ายและอาจทนได้ดีกับผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยซึ่งสามารถส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
  • เด็กและวัยรุ่น:
      • ลูกเดือยเป็นเมล็ดพืชที่มีสารอาหารหนาแน่นและสามารถส่งเสริมโภชนาการโดยรวมของเด็กและวัยรุ่น ซึ่งสนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการ
  • นักกีฬาและบุคคลที่กระตือรือร้น:
      • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและปริมาณโปรตีนในระดับปานกลางในลูกเดือยสามารถให้พลังงานที่ยั่งยืน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่มีไลฟ์สไตล์กระตือรือร้น
  • ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก:
    • ลูกเดือยเป็นธัญพืชที่มีแคลอรี่ต่ำและมีเส้นใยที่ดี การรวมสิ่งนี้ไว้ในอาหารที่สมดุลสามารถช่วยให้รู้สึกอิ่ม ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนัก
เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆ การพิจารณาความต้องการอาหาร ความชอบ และสภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณมีข้อกังวลหรือสภาวะด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจง ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือนักโภชนาการที่ลงทะเบียนเพื่อขอคำแนะนำด้านอาหารเฉพาะบุคคล

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/diet/health-benefits-millet
  • https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24876635/
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด