ยาฟลูออกซิทิน (Fluoxetine) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

Fluoxetine คือยาอะไร

ยาฟลูออกซิทิน (Fluoxetine) แคปซูลชนิดรับประทานใช้รักษาอาการซึมเศร้าหลายชนิด ย้ำคิดย้ำทำ ความผิดปกติของการรับประทาน และแพนิค Fluoxetine แคปซูลชนิดรับประทาน มีชื่อการค้าว่า Prozac and Prozac Weekly มีขายในชื่อสามัญ และราคาถูกกว่า แต่อาจไม่มีขายในความเข้มข้นหรือรูปแบบที่มากเท่ายาที่ขายในชื่อการค้า Fluoxetine แคปซูลชนิดรับประทานใช้ในการบำบัดแบบรวม คือใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ในการรักษาช่วงซึมเศร้าของโรคอารมณ์สองขั้ว และรักษาซึมเศร้าที่ดื้อต่อยาอื่น อาจใช้ร่วมกับ Olanzapine

ยา Fluoxetine ผลข้างเคียง

ยานี้อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้
  • Serotonin syndrome: ยานี้ทำให้เกิดอาการที่ถึงแก่ชีวิตได้คือ Serotonin syndrome เกิดเมื่อยาทำให้มีการสร้าง Serotonin มากเกินไปในร่างกาย อาการที่เกิดคือ กระสับกระส่าย ประสาทหลอน มีปัญหาการเคลื่อนไหวและใจเต้นเร็ว อาจมีอาการรีเฟลกซ์ไวเกิน มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสีย ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วหากมีอาการเหล่านี้
  • อารมณ์ดีผิดปกติ ยานี้อาจทำให้เกิดภาวะนี้ มีอาการคึกคัก กระสับกระส่ายมาก พูดมากและพูดเร็ว ความคิดแล่นปรูดปราดหรือมีปัญหาการนอนอย่างรุนแรง
  • ระดับเกลือในเลือดต่ำ ยานี้อาจทำให้มีระดับเกลือในเลือดต่ำจนเป็นอันตรายได้ มีอาการเช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย สับสน ไม่มีสมาธิ มีปัญหาความจำและรู้สึกไม่มั่นคง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วหากมีอาการเหล่านี้

Fluoxetineใช้อย่างไร

แคปซูลชนิดกิน Fluoxetine ใช้รักษาอาการต่อไปนี้
  • ซึมเศร้า รวมทั้ง Major depression
  • ย้ำคิดย้ำทำ ที่มีความคิดซ้ำๆ(ย้ำคิด) และการกระทำซ้ำๆ(ย้ำทำ)
  • แพนิค คือมีความกลัวและวิตกกังวลมากเกินปกติ แม้ว่าไม่มีสิ่งคุกคาม
  • Bulimia nervosa  ความผิดปกติของการกินที่กินครั้งละมากๆ แล้วไปอาเจียนออก อดอาหารมื้อต่อไป หรือออกกำลังมากเกิน

ยาปรับอารมณ์นี้ทำงานอย่างไร

Fluoxetine แคปซูลชนิดรับประทาน อยู่ในกลุ่มของยา Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) ที่ใช้รักษาอาการคล้ายกัน Fluoxetine ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มจำนวน Serotonin (สารธรรมชาติในสมอง) Serotonin ช่วยคงสมดุลสุขภาพจิต การเพิ่มของ Serotonin ช่วยรักษาอาการซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทำ โรคบูลิเมีย  และแพนิค

อาการข้างเคียงของ Fluoxetine 

Fluoxetine แคปซูลชนิดรับประทาน ไม่ทำให้ง่วงซึม แต่อาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆ

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย

  • ฝันแปลกๆ
  • ความต้องการทางเพศลดลงและมีปัญหาในการถึงจุดสุดยอด
  • ลดความอยากอาหาร
  • วิตกกังวล
  • อ่อนเพลีย
  • ท้องเสีย
  • ปากแห้ง
  • อาหารไม่ย่อย
  • ไข้หวัดใหญ่
  • อวัยวะเพศชายไม่แข็ง
  • นอนไม่หลับ
  • คลื่นไส้
  • เจ็บคอ
  • มีผื่น
  • มีนำ้มูกไหล
  • ง่วงซึม
  • เหงื่อออก ร้อนวูบวาบ
  • สั่น บังคับไม่ได้
หากอาการเหล่านี้มีไม่มาก อาจหายไปในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ หากอาการแย่ลงหรือไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์

อาการข้างเคียงที่รุนแรง

ปรึกษาแพทย์โดยด่วนหากมีอาการดังนี้ หรือไปโรงพยาบาลทันที
  1. Serotonin syndrome มีอาการ คือ กระสับกระส่าย ประสาทหลอน มีปัญหาการเคลื่อนไหวและใจเต้นเร็ว  มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียนท้องเสีย 
  2. เลือดออกผิดปกติ มีอาการคือ มีรอยช้ำหรือเลือดออกง่ายกว่าปกติ
  3. อารมณ์ดีผิดปกติ  มีอาการพลังงานเหลือเฟือ กระสับกระส่ายมาก พูดมากและพูดเร็ว ความคิดแล่นปรูดปราดหรือมีปัญหาการนอนอย่างรุนแรง มีความคิดทำสิ่งใหญ่โตเกินคนปกติ มีความสุขเกินจริง
  4. ชัก
  5. ระดับเกลือในเลือดต่ำ มีอาการเช่น ปวดหัว อ่อนเพลีย สับสน ไม่มีสมาธิ มีปัญหาความจำและรู้สึกไม่มั่นคง 

Fluoxetine อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่น

Fluoxetine แคปซูลชนิดรับประทานมีปฏิกิริยากับยา วิตามินหรือสมุนไพรอื่นๆ ทำให้การทำงานของยาเปลี่ยนแปลงไป อาจมีอันตรายหรืออาจทำให้ยาออกฤทธิ์น้อยลง  เพื่อป้องกันเรื่องเหล่านี้ คุณต้องบอกแพทย์เกี่ยวกับยา สมุนไพรและอาหารเสริมทุกชนิดที่คุณใช้อยู่

ยาที่ไม่ควรใช้กับ Fluoxetine

ไม่ควรรับประทานยาเหล่านี้กับ Fluoxetineอาจเกิดผลอันตรายต่อร่างกาย เช่น
  • Monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) : เช่น Isocarboxazid, Phenelzine และ Tranylcypromine. คุณไม่ควรกิน Fluoxetine หากรับปรทานยาเหล่านี้อยู่ 
  • หากใช้ MAOI หรือเพิ่งเลิกใช้ไม่เกินสองสัปดาห์ ไม่ควรกิน MAOI ภายในห้าสัปดาห์หลังจากงด Fluoxetine การใช้ยาสองชนิดนี้ด้วยกันอาจเกิดผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ อาการคือ ไข้สูง,กล้ามเนื้อกระตุกต่อเนื่องควบคุมไม่ได้และกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต สับสนและหมดสติ
  • Thioridazine: ไม่ควรรับประทานยานี้กับ  Fluoxetine ไม่ควรกินยานี้ภายในห้าสัปดาห์หลังจากหยุดกิน Fluoxetine การใช้ยาสองอย่างร่วมกันอาจทำให้เกิดความผิดปกติของการเต้นของหัวใจรุนแรง และอาจตายทันที
  • Pimozide: ไม่ควรรับประทานร่วมกับ Fluoxetine เพราะ Fluoxetine อาจทำให้ระดับของยา Pimozideในร่างกายเพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดปกติ
ปฎิกิริยาที่เพิ่มผลข้างเคียงของยา เพิ่มผลข้างเคียง: การรับประทาน Fluoxetine กับยาบางชนิด เพิ่มโอกาสเกิดผลข้างเคียง เพราะ Fluoxetine และยานั้นก่อให้เกิดผลข้างเคียงแบบเดียวกัน เช่นยาพวก Serotonergic เช่น
  • Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) เช่น Fluoxetine และ Sertraline
  • Serotonin-norepinephrine reuptake inhibitors (SSNRIs) เช่น Duloxetine และ Venlafaxine
  • Tricyclic antidepressants (TCAs) เช่น Amitriptyline และ Clomipramine
  • Opioids fentanyl และ Tramadol
  • Anxiolytic buspirone
  • Triptan
  • Lithium
  • Tryptophan
  • St. John’s wort
  • Amphetamines
การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับ fluoxetine อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด serotonin syndrome ซึ่งถึงตายได้ หากคุณกินยาเหล่านี้ แพทย์จะให้fluoxetine ปริมาณน้อยและเฝ้าระวังอาการของ Serotonin syndrome ที่มีอาการคือ กระสับกระส่าย เหงื่อออก กล้ามเนื้อแข็งเกร็งและสับสน ผลข้างเคียงของยาอื่นเพิ่มขึ้น: การกิน Fluoxetine ร่วมกับยาบางตัวเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงของยานั้น เช่น
  • Benzodiazepines: เช่น Triazolam และ Midazolam กินยาเหล่านี้ร่วมกันอาจกดประสาทและง่วงนอน
  • Warfarin NSAIDs(ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์)และ แอสไพริน: การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับ Fluoxetine อาจเพิ่มความเสี่ยงในการตกเลือด แพทย์จะเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
  • ยาที่ถูกย่อยด้วยเอนไซม์ CYPD2D6: เช่น Aripiprazole  Dextromethorphan และ Risperidone. การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับ Fluoxetine อาจเพิ่มโอกาสเกิด Serotonin syndrome ปัญหาการเต้นของหัวใจและกล้ามเนื้อกระตุก
  • Lithium: แพทย์ต้องเฝ้าดูระดับลิเทียมในเลือด หากต้องใช้ยาสองชนิดนี่ร่วมกัน
  • Phenytoin: การใช้ยานี้ร่วมกับ Fluoxetine อาจทำให้สับสน มึนงงและมีไข้ คุณอาจมีพฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนไป เช่น ความโกรธ ความฉุนเฉียวหรือความเศร้า แพทย์จะเฝ้าระวังระดับphenytoin ในร่างกาย
  • Carbamazepine :ใช้ยานี้ร่วมกับ Fluoxetine อาจทำให้มองเห็นไม่ชัด,เวียนหัวหรือสั่น แพทย์จะเฝ้าระวังระดับ Carbamazepineในร่างกายFluoxetine

ข้อควรระวัง 

การแพ้

ยานี้อาจทำให้เกิดการแพ้อย่างรุนแรง มีอาการดังนี้
  • ลมพิษ
  • ผื่นขึ้น มีไข้และปวดข้อ
  • หายใจลำบาก
  • ลิ้นบวม คอบวม
หากมีอาการดังนี้ ให้เลิกกินยาทันทีและรีบไปโรงพยาบาล

ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่มีโรคบางชนิด

ผู้ที่มีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด: ยานี้อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น หากคุณกินยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เลือดออกรุนแรง สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน: ยานี้อาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ หากคุณเลิกกินยานี้อาจทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มได้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคไบโพล่า: ไม่ควรใช้ยานี้เพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาอารมณ์สองขั้ว ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการทั้งสองขั้วหรือขั้วอารมณ์ดี สำหรับผู้ที่เป็นโรคตับ: หากคุณเป็นโรคตับหรือเคยเป็น ร่างกายของคุณอาจจัดการกับยานี้ได้ไม่ดีพอ อารทำให้ระดับยาในเลือดเพิ่มขึ้นและเกิดผลข้างเคียงมากขึ้น แพทย์อาจลดปริมาณยาหรือลดความถี่ของยาลง

ข้อควรระวังอื่นๆ

สำหรับหญิงตั้งครรภ์: ยานี้จัดอยู่ในชั้น C คือ
  1. การวิจัยในสัตว์พบว่ามีผลต่อทารกในครรภ์เมื่อมารดากินยานี้
  2. ยังไม่มีผลการวิจัยมากพอในคน ว่ายามีผลอย่างไรต่อทารกในครรภ์
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ จะใช้ยานี้เมื่อเห็นว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย หากคุณตั้งครรภ์ขณะที่ใช้ยานี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที สำหรับผู้ที่ให้นมบุตร: ยานี้อาจผ่านไปทางน้ำนมได้และมีผลต่อทารก ควรปรึกษาแพทย์หากคุณให้นมบุตรอยู่ อาจต้องตัดสินใจเลิกยาหรือเลิกให้นมบุตร เด็ก และคนชรา: มีความเสี่ยงสูงจากผลข้างเคียงของยา แพทย์อาจปรับปริมาณยา หรือลดความถี่ของยาที่ให้ตามความเหมาะสม

ใช้ยาตามคำสั่งแพทย์

Fluoxetine ขนิดแคปซูลรับประทาน ใช้ในการรักษา Bulimia nervosa, Major depression และย้ำคิดย้ำคิดย้ำทำ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และใช้รักษาแพนิคในระยะสั้นด้วย ยานี้มีความเสี่ยงมากหากไม่กินตามที่แพทย์สั่ง หากหยุดยากระทันหันหรือไม่กินยา อาการจะไม่ดีขึ้น ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ การหยุดยาทันทีอาจทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น
  • กังวล
  • กระสับกระส่าย
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง
  • อยู่ไม่สุข
  • นิสัยการนอนเปลี่ยนไป
  • ปวดหัว
  • เหงื่อออก
  • คลื่นไส้
  • เวียนหัว
หากคุณลืมกินยาหรือไม่ได้กินตามเวลา ยาอาจไม่ออกฤทธิ์เต็มที่ ยาจะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อมียาอยู่ในกระแสเลือดตลอดเวลา หากคุณได้ยามากไป อาจมีระดับยาในเลือดสูง มีอาการคือ
  • อ่อนเพลีย
  • อาเจียน
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • คลื่นไส้
  • เวียนหัว
  • สั่น
หากคุณคิดว่าได้ยามากเกินไป ควรไปโรงพยาบาลทันที หากคุณลืมกินยา: กินทันทีที่นึกได้ หากนึกได้ในเวลาเกือบจะถึงมื้อต่อไป ให้กินเพียงครั้งเดียว  ไม่ควรกินยาสองมื้อติดกัน อาจทำให้เกิดผลที่อันตราย รู้ได้อย่างไรว่ายาออกฤทธิ์ : อาการจะดีขึ้น แต่ใช้เวลา 1-4 สัปดาห์ กว่ายาจะออกฤทธิ์เต็มที่

เรื่องทั่วไป

  • กินยาพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้
  • กินยาตามเวลาอย่างเคร่งครัด
  • อย่าแกะแคปซูลยาออกควรกินทั้งแคปซูล

การเก็บรักษา

  • เก็บในอุณหภูมิห้อง (15-30 องศาเซลเซียส)
  • เก็บให้พ้นแสง
  • ไม่ควรเก็บยาในที่ชื้นเช่นในห้องน้ำ

การเดินทาง

เมื่อเดินทางพร้อมกับยา
  • พกยาไว้กับตัว หากเดินทางทางเครื่องบิน ไม่ควรใส่ยาไว้ในกระเป๋าที่จะใส่ใต้ท้องเครื่องบิน ให้ใส่ไว้ในกระเป๋าที่ติดตัว
  • เครื่องเอกซเรย์ที่สนามบิน ไม่ทำอันตรายต่อยา
  • อาจต้องให้เจ้าหน้าที่ที่สนามบินดูฉลากยา จงพกกล่อง ขวดหรือแผงยาติดไปด้วย
  • ไม่ควรใส่ไว้ในช่องเก็บของหน้ารถ โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนหรือหนาวเกินไป

เฝ้าระวังอาการ

คุณและแพทย์ของคุณต้องเฝ้าระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัย เช่น ปัญหาทางจิตใจและพฤติกรรม สังเกตความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและอารมณ์ ยานี้อาจทำให้เกิดปัญหาด้านจิตใจและอารมณ์ได้ หรืออาจทำให้ปัญหาของคุณแย่ลง

ใครที่ไม่ควรรับประทานยา Fluoxetine

Fluoxetine เป็นยากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitor (SSRI) ที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาภาวะสุขภาพจิตต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า วิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) และโรคตื่นตระหนก แม้ว่าโดยทั่วไปจะใช้ยานี้ได้ดี แต่ก็มีบางคนที่ไม่ควรรับประทานฟลูออกซีทีนหรือควรรับประทานภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:
  • โรคภูมิแพ้:
      • บุคคลที่แพ้ฟลูออกซีทีนหรือส่วนประกอบใดๆ ไม่ควรรับประทานยา
    • สารยับยั้งโมโนเอมีนออกซิเดส (MAOIs):
      • ไม่ควรรับประทาน Fluoxetine ภายในสองสัปดาห์ก่อนหรือหลังการรักษาด้วย MAOIs การรวม fluoxetine เข้ากับ MAOIs อาจทำให้เกิดภาวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตที่เรียกว่า serotonin syndrome
  • พิโมไซด์และไทโอริดาซีน:
      • ไม่ควรใช้ Fluoxetine ร่วมกับยารักษาโรคจิต pimozide และ thioridazine เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการยืดตัวของ QT และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เงื่อนไขทางการแพทย์:
      • บุคคลที่มีประวัติทางการแพทย์บางประการควรใช้ fluoxetine ด้วยความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง เงื่อนไขเหล่านี้รวมถึง:
        • โรคไบโพลาร์:อาจทำให้เกิดอาการแมเนียในผู้ที่เป็นโรคไบโพลาร์ได้
        • โรคตับ:การปรับขนาดยาอาจมีความจำเป็นในบุคคลที่มีความบกพร่องทางตับ
  • ความคิดและพฤติกรรมฆ่าตัวตาย:
      • Fluoxetine เช่นเดียวกับยาแก้ซึมเศร้าอื่นๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความคิดและพฤติกรรมฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว การติดตามอย่างใกล้ชิดถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการรักษา
  • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
      • สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ควรหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของฟลูออกซีทีนกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของตน Fluoxetine สามารถผ่านเข้าสู่เต้านมได้ ดังนั้นมารดาที่ให้นมบุตรควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพด้วย
  • ยาอื่นๆ:
    • ยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับฟลูออกซีทีน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับยาทั้งหมด รวมถึงยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรที่คุณกำลังรับประทาน
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอก่อนเริ่มหรือเลิกใช้ยาใดๆ รวมถึงฟลูออกซีทีน พวกเขาจะพิจารณาประวัติสุขภาพส่วนบุคคลของคุณ ปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้น และสถานการณ์เฉพาะเพื่อพิจารณาว่าฟลูออกซีทีนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณหรือไม่ หากคุณพบผลข้างเคียงใดๆ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยา ควรไปพบแพทย์ทันที

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a689006.html
  • https://www.nhs.uk/medicines/fluoxetine-prozac/
  • https://www.webmd.com/drugs/2/drug-1774-95/fluoxetine-oral/fluoxetine-oral/details
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด