การฉีดยาคุมกำเนิด (ยี่ห้อ Depo-Provera Sayana Press หรือ Noristerat) จะปล่อยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
ยาฉีดคุมกำเนิดยี่ห้อ Depo-Provera คือ ตัวที่ใช้กันทั่วไปในประเทศอังกฤษและคุมกำเนิดได้นาน 13 สัปดาห์ บางครั้งอาจใช้ยี่ห้อ Noristerat ซึ่งคุมกำเนิดได้นาน 8 สัปดาห์
ยี่ห้อ Sayana Press ใช้คุมกำเนิด 13 สัปดาห์ แต่ยังเป็นการฉีดชนิดใหม่จึงอาจไม่มีทั่วไปตามคลีนิค
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ วิธีคุมกำเนิด
เรื่องจริงน่ารู้ : ยาคุมแบบฉีด
- หากมีการฉีดยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องจะเกิดประสิทธิภาพได้มากกว่า 99%
- สามารถคุมกำเนิดได้นาน 8 หรือ 13 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ฉีด) ดังนั้นจึงไม่ต้องคิดเกี่ยวกับการคุมกำเนิดในทุกๆวันหรือทุกๆครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว
- มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้หญิงที่มักลืมการรับประทานยาคุมกำเนิดในเวลาเดิมทุกๆวัน
- จำเป็นต้องจำการฉีดยาคุมกำเนิดซ้ำก่อนหมดอายุหรือเริ่มหมดประสิทธิภาพ
- มีประโยชน์สำหรับผู้หญิงที่ไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ
- ไม่ส่งผลต่อยาชนิดอื่นๆ
- ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นรวมไปถึงน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวน เจ็บหน้าอกและมีเลือดออกผิดปกติ
- รอบเดือนอาจผิดปกติ มากขึ้น เป็นในระยะสั้นขึ้น มีน้อยหรือหยุดหายไป
- การคุมกำเนิดอาจใช้เวลาราว 1 ปีกว่าจะกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ตามปกติหลังจากการยาที่ฉีดค่อยๆหมดไป ดังนั้นจึงอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะตั้งครรภ์ในอนาคตอันใกล้
- ไม่ใช่การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงอาจจำเป็นต้องใช้ถุงยางร่วมด้วย
ยาฉีดคุมกำเนิดทำงานอย่างไร
ยาฉีดคุมกำเนิดจะปล่อยฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะช่วยป้องกันการตกไข่ในแต่ละเดือน อีกทั้งยังช่วยทำให้เมือกปากมดลูกข้นขึ้น ซึ่งทำให้ยากสำหรับสเปิร์มในการเคลื่อนตัวไปยังปากมดลูก และทำให้เยื่อบุมดลูกบางดังนั้นไข่ที่ถูกปฏิสนธิยากต่อการฝังตัวมากขึ้น ปกติมักฉีดยาคุมกำเนิดยี่ห้อ Depo-Provera และ Noristerat บรืเวณก้นแต่สามารถเลือกฉีดที่ท่อนแขนด้านบนได้เช่นกัน สามารถฉีดยาคุมกำเนิดยี่ห้อ Sayana Press ที่บริเวณหน้าท้องหรือสะโพกได้และสามารถทำได้ด้วยตัวเอง อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การนับรอบตกไข่ยาคุมกำเนิดชนิดฉีดจะเริ่มทำงานเมื่อไร
สามารถฉีดยาได้ทุกเวลาในระหว่างมีรอบเดือน ได้ตลอดตราบเท่าที่ไม่มีการตั้งครรภ์ หากมีการฉีดยาคุมกำเนิดในช่วงระหว่าง 5 วันแรกของรอบเดือน สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในทันที หากมีการฉีดยาคุมกำเนิดในวันอื่นๆของรอบเดือน อาจจำเป็นต้องใช้การคุมกำเนิดอื่นๆเพิ่มเติมเช่นถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันหลังการให้กำเนิดบุตร
สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้ทุกเวลาหลังการคลอดบุตรหากคุณไม่ได้กำลังให้นมบุตร แต่หากคุณกำลังให้นมบุตร ควรฉีดยาหลังจาก 6 สัปดาห์- หากมีการฉีดยาคุมกำเนิดทันทีหรือก่อน 21 วันหลังคลอดบุตร สามารถคุมกำเนิดได้ทันที
- หากเริ่มฉีดยาคุมกำเนิดหลังจากนั้น 21 วัน อาจจำเป็นต้องใช้การคุมกำเนิดอื่นๆเพิ่มเติมเช่นถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
หลังการแท้งบุตรหรือการแท้ง
สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้ทันทีหลังการแท้งบุตร และจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที หากมีการฉีดยาคุมกำเนิดนานเกินกว่า 5 วันหลังการแท้งบุตร อาจจำเป็นต้องใช้การคุมกำเนิดอื่นๆเพิ่มเติมเช่นถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันใครบ้างที่สามารถใช้ยาฉีดคุมกำเนิด
ผู้หญิงส่วนใหญ่สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้ แต่อาจไม่เหมาะสำหรับบางคนหาก- คิดว่าอาจมีการตั้งครรภ์
- ไม่ต้องการให้รอบเดือนมีการเปลี่ยนแปลง
- ต้องการมีบุตรในปีถัดไป
- มีเลือดออกที่ไม่สามารถอธิบายได้ในระหว่างช่วงรอบเดือนหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์
- มีโรคหลอดเลือดแดงหรือมีประวัติเป็นโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง
- มีโรคตับ
- เป็นมะเร็งเต้านมหรือเคยเป็นมาก่อนในอดีต
- มีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน
ข้อดีและข้อเสียในการฉีดยาคุมกำเนิด
ข้อดี- ในการฉีดแต่ละครั้งสามารถคุมกำเนิดได้ 8 หรือ 13 สัปดาห์
- ไม่ขัดจังหวะในการมีเพศสัมพันธ์
- เป็นตัวเลือกหากคุณไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ
- หากเป็นคนที่ชอบลืมในการรับประทานยาทุกๆวัน
- มีความปลอดภัยในการใช้ในขณะให้นมบุตร
- ไม่ส่งผลต่อยาชนิดอื่นๆ
- อาจช่วยลดอาการปวด ปริมาณของรอบเดือนและยังช่วยเรื่องอาการก่อนมีรอบเดือนในผู้หญิงบางคน
- รอบเดือนอาจมีการเปลี่ยนแปลงและเริ่มไม่สม่ำเสมอ มีมากขึ้น สั้นลง น้อยลงหรือหยุด- ซึ่งอาจเกิดขึ้นสองสามเดือนหลังหยุดการฉีดยา
- ไม่สามารถป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- อาจใช้เวลาราว 1 ปีก่อนรอบเดือนจะกลับมาเป็นปกติและเริ่มการตั้งครรภ์ได้
- ในบางคนอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้ยาฉีดคุมกำเนิดยี่ห้อ Depo-Provera หรือ Sayana Press
- อาจเกิดอาการข้างเคียงเช่นปวดศีรษะ เป็นสิว ผมร่วง แรงขับทางเพศลดลงและอารมณ์แปรปรวน
- ผลข้างเคียงทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นต่อเนื่องได้นานตราบเท่าที่ยังคงฉีดยาอยู่ (8 ถึง 13 สัปดาห์)และอาจกินเวลานานหลังต่อจากนั้น
ความเสี่ยง
มีความเสี่ยงในการฉีดเพียงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีดยา พบได้น้อยมากในบางรายอาจเกิดปฏิกิริยาแพ้ในการฉีด การใช้ยายี่ห้อ Depo-Provera อาจส่งผลต่อระดับเอสโตรเจนตามธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้กระดูกบาง แต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงกับภาวะกระดูกแตกหัก แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่เพราะกระดูกสามารถฟื้นตัวได้ด้วยตัวเองหลังหยุดการฉีด และไม่เคยปรากฏว่าส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาว ในบางครั้งแพทย์อาจแนะนำให้หยุดฉีดหลังจาก 2 ปี ดังนั้นจึงไม่มีผลในระยะยาวต่อกระดูกคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดแบบฉีด
การฉีดคุมกำเนิดหรือที่เรียกว่าการฉีดคุมกำเนิดเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการฉีดฮอร์โมนโปรเจสตินเข้าไปในร่างกายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดคุมกำเนิด:
- การฉีดคุมกำเนิดทำงานอย่างไร?
-
-
- การฉีดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินสังเคราะห์ ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันการตกไข่เป็นหลัก (การปล่อยไข่ออกจากรังไข่) นอกจากนี้ยังทำให้มูกปากมดลูกหนาขึ้น ทำให้อสุจิเข้าถึงไข่ได้ยากขึ้น และเปลี่ยนแปลงเยื่อบุมดลูก ส่งผลให้โอกาสการฝังตัวลดลง
-
- ฉีดบ่อยแค่ไหน?
-
-
- รูปแบบการฉีดคุมกำเนิดที่พบมากที่สุดคือให้ทุกๆ 3 เดือน ซึ่งหมายความว่าบุคคลจำเป็นต้องได้รับการฉีดยาทุกๆ 12 สัปดาห์เพื่อรักษาประสิทธิผล
-
- การฉีดยาอยู่ที่ไหน?
-
-
- โดยทั่วไปการฉีดยาคุมกำเนิดจะฉีดเข้ากล้าม โดยทั่วไปจะฉีดที่ต้นแขนหรือก้น
-
- การฉีดยาคุมกำเนิดมีประสิทธิผลแค่ไหน?
-
-
- การฉีดยาคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ประสิทธิผลเทียบได้กับวิธีฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาคุมกำเนิด
-
- การฉีดยาคุมกำเนิดจะมีผลเมื่อใด?
-
-
- การฉีดยาคุมกำเนิดมักจะได้ผลทันทีหากฉีดภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน หากได้รับในเวลาอื่น อาจจำเป็นต้องใช้การคุมกำเนิดสำรองในช่วงเจ็ดวันแรก
-
- ผลข้างเคียงคืออะไร?
-
-
- ผลข้างเคียงที่พบบ่อยอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนที่มีเลือดออก (ประจำเดือนมาน้อย มีเลือดออกผิดปกติ หรือไม่มีประจำเดือน) น้ำหนักเพิ่ม รู้สึกเจ็บเต้านม ปวดศีรษะ และอารมณ์เปลี่ยนแปลง ผู้หญิงบางคนอาจพบว่าความหนาแน่นของกระดูกลดลงเมื่อใช้เป็นเวลานาน
-
- ฉันสามารถตั้งครรภ์ทันทีหลังจากหยุดฉีดยาได้หรือไม่?
-
-
- โดยทั่วไปภาวะเจริญพันธุ์จะกลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดฉีดยาคุมกำเนิด แต่ระยะเวลาในการกลับมาตกไข่อาจแตกต่างกันไป บางคนอาจตั้งครรภ์ได้ไม่นานหลังจากหยุดยา ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลาสองสามเดือน
-
- มีข้อควรพิจารณาด้านสุขภาพหรือข้อห้ามหรือไม่?
-
-
- การฉีดยาคุมกำเนิดอาจไม่เหมาะกับทุกคน บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ประวัติลิ่มเลือด โรคตับ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้
-
- การฉีดป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) หรือไม่?
-
- ไม่ได้ การฉีดยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ มันเป็นวิธีฮอร์โมนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ บุคคลควรใช้วิธีป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัย
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น