ถุงยางอนามัยชายเป็นหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด พวกมันหาซื้อได้ทั่วไป สะดวก และไม่แพง ประมาณ 30 บาทต่อชิ้น และมีขายตามร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยาทั่วไป
บางคลินิคแจกถุงยางฟรี รวมไปถึงบาร์บางที่ด้วย หรือคุณยังสามารถหาได้ตามตู้หยอดเหรียญต่าง ๆ
ทั้งถุงยางผู้ชายและถุงยางผู้หญิงป้องกันการตั้งครรภ์โดยการกักเก็บอสุจิไว้ ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางจะไม่ให้อสุจิเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงได้ ทั้งยังสามารถใช้ได้กับการมีเพศสัมพันธ์ผ่านปากและทวารหนักได้ด้วย เป็นวิธีควบคุมการตั้งครรภ์ที่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น HIV ได้
ชนิดของถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือ ถุงยางอนามัยผู้หญิงและผู้ชาย ถุงยางอนามัยผู้ชายเป็นถุงที่ใช้หุ้มอวัยวะเพศชาย ถุงยางอนามัยผู้หญิงเป็นถุงที่ใส่เข้าไปในอวัยวะเพศหญิง ถุงยางผู้ชายเป็นที่ใช้กันแพร่หลายและได้รับความนิยมมากกว่า ถุงยางอนามัยส่วนมากทำมาจาก:- ยาง
- โพลียูรีเทน
- โพลีไอโซพรีน ที่สังเคราะห์มาจากยาง
- ขนาด
- สไตล์
- ผิวสัมผัส
- สี
- รส
การใส่ถุงยาง
ถุงยางนั้นใช้ง่ายมาก ดังนี้:- รอให้อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่
- แกะซองอย่างระวัง
- คลี่ถุงยางออกประมาณครึ่งนิ้ว
- ใส่ถุงยางที่อวัยวะเพศพร้อมทั้งบีบปลายถุงยางเพื่อให้อากาศออกไปและมีที่ว่างสำหรับอสุจิ เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางแตก
- ใส่ถุงยางลงไปให้สุด
- ค่อย ๆ ไล่อากาศออก
การถอดถุงยาง
ถือฐานของถุงยางในขณะที่คุณนำอวัยวะเพศออกจากอวัยวะเพศหญิง ทวาร หรือปาก ถอดถุงยางออกอย่างระมัดระวังและทิ้งลงถังขยะ โดยที่ไม่ให้อสุจิออกมา อย่าทิ้งถุงยางลงชักโครก นำอวัยวะเพศออกจากอวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก หรือปากในขณะที่ยังแข็งตัว ไม่เช่นนั้นถุงยางจะหลุดในขณะที่เอาออก
ดูวันหมดอายุ
ควรดูวันหมดอายุก่อนที่จะใช้ หลีกเลี่ยงการใช้ถุงยางที่หมดอายุหรือไม่สมบูรณ์ คุณควรเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์อย่างระมัดระวัง การใช้กระเป๋าสตางค์เป็นประจำสามารถทำให้ถุงยางเสื่อมสภาพ แห้ง และแตกได้ ลองเก็บถุงยางในกล่องเล็ก ๆ ที่ทำจากพลาสติกจะดีกว่า หากคุณคิดว่าการเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์เป็นสิ่งที่ดี ควรตรวจสอบว่าถุงยางไม่แห้งก่อนที่จะใช้ ควรเปลี่ยนถุงยางที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์บ่อย ๆ เพราะการใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์นาน ๆ อาจทำให้เกิดรอยรั่วที่ถุงยางที่มองไม่เห็นประสิทธิภาพของถุงยาง
ถุงยางผู้ชายเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพหากใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่ที่ 98% ในความเป็นจริง ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ถุงยางอย่างถูกต้องทุกครั้งไป ผู้หญิง 18 จาก 100 คนตั้งท้องจากการคุมกำเนิดแบบใช้ถุงยางทุกปี ทำตามสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด:- ตรวจสอบว่าฝ่ายชายใส่ถุงยางอย่างถูกต้อง
- หากใส่ถุงยางกลับด้าน ให้ใช้อันใหม่
- อย่านำถุงยางกลับมาใช้ใหม่
- อย่าใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิงและผู้ชายร่วมกัน จะทำให้มีประสิทธิภาพลดลง
- อย่าใช้สารหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันกับถุงยางที่เป็นยาง
- คุณสามารถใช้น้ำมันกับถุงยางที่เป็นถุงยางสังเคราะห์ เช่น ถุงยางที่ทำมาจากพอลียูรีเทน
- คุณสามารถลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้โดยใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด
ประโยชน์ของถุงยาง
- ราคาไม่แพง
- หาซื้อได้ง่าย
- มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์หากใช้อย่างถูกต้อง
- มีประสิทธิภาพป้องกันโรคติดต่อหากใช้อย่างถูกต้อง
- ช่วยป้องกันการหลั่งไวในผู้ชาย
ข้อเสียของถุงยาง
ถุงยางมีข้อเสียและความเสี่ยงเล็กน้อย- ความเสี่ยงของการคุมกำเนิดล้มเหลวหากใช้ไม่ถูกต้องหรือไม่ต่อเนื่อง
- ทำให้ความรู้สึกลดลง
- ระคายเคืองผิว เช่น ผื่นแพ้สัมผัส เนื่องจากไวต่อยางหรือแพ้
- แพ้สารฆ่าอสุจิ สารหล่อลื่น น้ำหอม และสารเคมีอื่น ๆ ในถุงยาง
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น