การจูบปากสามารถติดโรคได้ (Can You Get an STD from Kissing?)

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
การจูบปากสามารถติดโรคได้

จูบปากเสี่ยงต่อโรคได้

มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดเท่านั้นที่สามารถแพร่กระจายผ่านการจูบกัน คือ เชื้อไวรัสเริม (HSV) และโรคติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (CMV)   การจูบปากเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความตื่นเต้นต่อความสัมพันธ์ แต่ก็ควรรู้สึกถึงการระแวดระวังการจูบด้วยหากเป็นการจูบกับบางคนเป็นครั้งแรก  วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการได้รับเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการจูบคือการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิ่งนี้ร่วมกับคู่ของคุณ สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องน่ากลัวแต่การตั้งขอบเขตไว้ตั้งแต่แรกก็จะสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้ ต่อไปนี้เราจะมาดูกันว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใดบ้างที่สามารถแพร่เชื้อโรคได้ด้วยการจูบ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ:โรคเริมที่ปากอ่านต่อได้ที่นี่

โรคเริม

เชื้อไวรัสเริมแบ่งออกเป็นสองรูปแบบที่แตกต่างกันดังนี้

เชื้อ HSV-1

เชื้อ HSV-1 หรือที่เรียกว่า โรคเริมที่ปาก สามารถแพร่กระจายได้ง่ายมากผ่านการจูบ พบว่าคนราว 67 เปอร์เซ็นต์ที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีจะมีไวรัสนี้อยู่ในร่างกาย  อาการส่วนใหญ่ที่เห็นได้บ่อยๆคือมีตุ่มแดงหรือขาวขนาดเล็กๆขึ้นที่บริเวณปากหรืออวัยวะเพศ  อาจมีของเหลวไหลซึมหรือมีเลือดออกในระหว่างเกิดอาการ การจับสัมผัสหรือจูบบริเวณแผลสามารถส่งต่อเชื้อไวรัสได้ ซึ่งเชื้อไวรัสนี้จะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการปรากฏให้เห็น HSV-1 อาจถูกแพร่กระจายด้วยการแลกน้ำลายกันหรือใช้สิ่งของเช่นเครื่องใช้ในครัวด้วยกัน เชื้อ HSV-1สามารถส่งผลต่ออวัยวะเพศและแพร่กระจายผ่านทางช่องปาก อวัยวะเพศและการร่วมเพศทางทวารหนัก

เชื้อ HSV-2

เชื้อ HSV-2 เรียกว่า โรคเริมที่อวัยวะเพศ เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายส่วนใหญ่ผ่านการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์-ทางปาก ทางอวัยวะเพศหรือทางทวารหนัก-มากกว่าการจูบ แต่การแพร่เชื้อผ่านการจูบก็ยังคงสามารถอาจเกิดขึ้นได้ เชื้อ  อาการ HSV-2 เหมือนกันกับเชื้อ HSV-1      เชื้อเริมทั้งแบบ HSV-1 หรือ HSV-2 สามารถรักษาหายขาดได้ อาการอาจไม่ปรากฎให้เห็นหรือมีภาวะแทรกซ้อนเลยจนกว่าระบบภูมิคุ้มกันมีการบกพร่อง จากการติดเชื้อแพทย์จะสั่งจ่ายยาต้านไวรัสเช่น ยาอะไซโคลเวียร์ (Zovirax)  หรือ ยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valtrex)    

เชื้อไซโตเมกาโลไวรัส

เชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (CMV) คือเชื้อไวรัสที่สามารถส่งผ่านการสัมผัสกับน้ำลายที่มีเชื้อไวรัส สามารถแพร่กระจายผ่านของเหลวที่มีเชื้อ CMV   :
  • ปัสสาวะ
  • เลือด
  • น้ำอสุจิ
  • นมแม่
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือโรคที่เกิดขึ้นจากการแพร่กระจายผ่านทางปาก ทวารหนักและการสัมผัสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะ อาการของของการติดเชื้อ CMV คือ: เชื้อ CMV ไม่สามารถรักษาหายได้แต่บางคนอาจมีเชื้อ CMV อยู่โดยไม่เคยแสดงอาการใดๆได้ เช่นเดียวกับโรคเริม เชื้อ CMV อาจมีอาการหากระบบภูมิต้านทานอ่อนแอลง แพทย์อาจแนะนำให้รักษาคล้ายกับโรค HSV      Can You Get an STD from Kissing?

ซิฟิลิส

ซิฟิลิสเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ไม่ได้ติดต่อผ่านการจูบ มักแพร่เชื้อผ่านออรัล ทวารหนักหรือมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะเพศ แต่ซิฟิลิสเป็นสาเหตุของบาดแผลในปากที่สามารถแพร่เชื้อแบคทีเรียไปสู่ผู้อื่น การจูบแบบลึกซึ้ง ที่รวมไปถึงการจูบแบบแลกลิ้นสัมผัสกันและกัน สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพราะมีโอกาสในการสัมผ้สกับเชื้อไวรัสได้ ซิฟิลิสอาจมีความรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษา อาการรุนแรงซึ่งอาจเกิดขึ้นได้คือ:
  • มีไข้
  • ปวดศีรษะ
  • เจ็บคอ
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม
  • ผมร่วง
  • ปวดตัว
  • รู้สึกเหนื่อยล้า
  • มีหูด สิว เม็ดขึ้นผิดปกติ
  • สูญเสียการมองเห็น
  • ภาวะโรคหัวใจ
  • ภาวะทางด้านจิตใจเช่น ซิฟิลิสระบบประสาท
  • สมองเสียหาย
  • เสียความจำ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการจูบได้ที่นี่ การรักษาซิฟิลิสตั้งแต่ระยะเริ่มแรกด้วยยาปฏิชีวนะเช่น เพนนิซิลิน คือยาที่สามารถต่อสู้เชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคิดว่าติดเชื้อซิฟิลิสให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

โรคอะไรบ้างที่ไม่ติดต่อผ่านการจูบ 

ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำสำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ส่งผ่านการจูบg:
  • โรคหนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากแบคทีเรียที่มีการแพร่กระจายผ่านทางออรัล ทวารหนักหรือทางอวัยวะเพศโดยปราศจากการป้องกันเท่านั้น เชื้อแบคทีเรียนี้ไม่สามารถแพร่เชื้อผ่านทางน้ำลายได้
  • โรคหนองใน เป็นโณคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากแบคทีเรียอีกชนิดหนึ่งที่สามารถแพร่เชื้อผ่านการทำกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น ไม่ติดต่อผ่านน้ำลายจากการจูบ
  • ไวรัสตับอักเสบ เป็นภาวะโรคตับที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่เชื้อผ่าานการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์หรือผาสนการสัมผัสเลือดที่มีเชื้อไวรัส แต่ไม่ติดต่อผ่านการจูบ
  • ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่แพร่เชื้อผ่านการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่องคลอดแต่ไม่ใช่ทางปาก 
  • โรคพยาธิในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อแบคทีเรียที่สามารถติดต่อผ่านการทำกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์ผ่านอวัยวะเพศโดยปราศจากการป้องกันเท่านั้น ไม่ติดต่อผ่านการจูบหรือแม้แต่ออรัลหรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  • เอชไอวี เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ไม่สามารถติดต่อผ่านการจูบ น้ำลายไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัสนี้ได้ การสัมผัสกับของเหลวที่จะแพร่เชื้อเอชไอวีได้เมื่อมีเชื้อไวรัสอยู่ในสิ่งต่อไปนี้:
    • น้ำอสุจิ
    • เลือด
    • ของเหลวจากช่องคลอด
    • ของเหลวจากทวารหนัก
    • นมแม่

บทสรุป

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถติดต่อผ่านการจูบได้ แต่บางชนิดก็สามารถติดต่อได้ ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญว่าต้องมีการรับทรายก่อนจะจูบกับใครสักคน ดังนั้นการระวังตัวไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องสมควรทำ กุญแจของการสื่อสาร พูดคุยกับคู่ของคุณก่อนการมีทุกๆกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์ อย่ากลัวที่จะตรวจหรือสอบถามคู่ของคุณ การเปิดใจดังกล่างจะสามารถช่วยกำจัดความวิตกกังวลและความไม่แน่ใจบางอย่างออกไปได้ หากเป็นกังวลว่าคู่ของเราอาจมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ไปพบแพทย์ทันทีก่อนมีเพศสัมพันธ์หรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ

วิธีการป้องกันตัวเอง

  1. ระวังอาการ
    • หลีกเลี่ยงการจูบคนที่มีแผลหรือตุ่มพองบริเวณปากอย่างเห็นได้ชัด หากคุณมีอาการของการติดเชื้อในช่องปาก ทางที่ดีควรงดการจูบจนกว่าอาการจะหายดี
  2. ฝึกสุขอนามัยช่องปากที่ดี
    • การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน และการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในช่องปากและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสผ่านการจูบ
  3. หลีกเลี่ยงการจูบเมื่อป่วย
    • หากคุณหรือคนรักมีอาการป่วย เช่น เจ็บคอหรือมีไข้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการจูบจนกว่าคุณทั้งคู่จะมีสุขภาพดี
  4. รู้สถานะสุขภาพของคู่ของคุณ
    • การสื่อสารอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับสุขภาพและการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้ หากคุณหรือคู่ของคุณมีประวัติเป็นโรคเริมในช่องปากหรืออวัยวะเพศ สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยเรื่องนี้อย่างเปิดเผย
  5. การฉีดวัคซีน
    • มีวัคซีนสำหรับการติดเชื้อบางชนิดที่สามารถแพร่เชื้อผ่านการจูบได้ ตัวอย่างเช่น วัคซีน HPV สามารถป้องกันไวรัสบางสายพันธุ์ได้
  6. การตรวจสุขภาพเป็นประจำ
    • การตรวจสุขภาพและทันตกรรมเป็นประจำสามารถช่วยตรวจพบและจัดการการติดเชื้อได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด