หากมีการกระแทกที่หน้าผากของคุณ แม้ว่าจะเล็กน้อยและไม่เจ็บปวดก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้มีปัญหาตามมาได้
อาการบวมใต้ผิวหนัง (ที่เรียกกันว่า หัวปูด หัวโน) มักเป็นอาการชั่วคราวของการบาดเจ็บที่ศีรษะ
หัวโนสามารถก่อตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยที่หน้าผากจะบวมขึ้นเพราะมีเส้นเลือดจำนวนมากอยู่ใต้ผิวหนัง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลามีบาดแผลที่ศีรษะมักจะมีเลือดออกมาก แม้ว่าแผลจะไม่ลึกมากก็ตาม
บางรอยปูดนั่นอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ในส่วนนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเติบโตของกระดูกหรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ สิ่งเหล่านี้มักจะไม่เป็นอันตราย แม้ว่าบางทีคุณอาจต้องการรับการรักษาด้วยเหตุผลด้านความสวยความงาม
เมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าฉุกเฉิน
แน่นอนว่าการถูกกระแทกศีรษะอย่างรุนแรงชนิดที่ทำให้คุณหมดสติ นั้นควรถือเป็นกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ แม้ว่าการหมดสติจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที แต่คุณก็ควรไปพบแพทย์ทันที หากคุณกำลังดูแลเด็กๆที่เพิ่งล้มหัวฟาด หัวโขก หัวกระแทก หรือเกิดอุบัติเหตุมา ที่มีรอยปูดหรือ เลือดคั่งที่ศรีษระ คุณควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด:- การง่วงกะทันหันหรือมีอารมณ์และบุคลิกภาพที่แปรปรวนขึ้นอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บที่รุนแรงมากขึ้น
- หากดูเหมือนลูกของคุณไม่ตื่นตัวตามปกติ ไม่ตอบสนอง ไม่ตอบคำถามของคุณ สัญญาณเหล่านี้อาจหมายถึงว่าคุณต้องพาลูกไปห้องฉุกเฉินแล้ว
- ในทำนองเดียวกัน หากลูกของคุณเริ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ และเหมือนจะมีปัญหาในการทรงตัวและการประสานงาน ให้ไปพบแพทย์ทันที
- อาการปวดหัวและคลื่นไส้ ไม่ว่าจะมีอาการอาเจียนหรือไม่ก็ตาม เป็นสัญญาณบ่งชี้อีกข้อที่บ่งบอกว่าต้องได้รับการดูแลฉุกเฉิน
- สังเกตุดวงตาลูกของคุณหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หากรูม่านตามีขนาดแตกต่างกันหรือรูม่านตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน จะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ทันที
สาเหตุที่เกิดจากอะไร?
รอยปูดส่วนใหญ่ที่ปรากฏบนหน้าผากนั้นไม่เป็นถือว่าอันตรายต่อชีวิตแต่อย่างใด หากไม่มีอาการร้ายแรงอื่น ๆ รอยปูดเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่การทราบสาเหตุและรู้ถึงอาการที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาหรือไม่ จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการของคุณได้ดีกว่า สาเหตุทั่วไปของการกระแทกที่หน้าผากการบาดเจ็บ
ไม่ว่าจะเป็นจากการหกล้ม การวิ่งชนกันในสนามฟุตบอล อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือการสัมผัสกับของแข็งที่มีแรงกระแทกสูงๆ การบาดเจ็บเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดเลือดคั่งและรอยปูด รอยปูดนั้นเป็นเพียงรอยฟกช้ำที่หน้าผาก ส่วนใหญ่แล้วรอยปูดเหล่านี้มักจะเปลี่ยนเป็นสีดำและสีน้ำเงินหลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองวัน เมื่อเส้นเลือดเล็กๆ ใต้ผิวหนังแตก เลือดจะไหลออกไปยังเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้เกิดอาการบวมที่มีลักษณะเป็นตุ่มหรือปุ่มที่ศีรษะ ควรเฝ้าดูรอยปูดเหล่านั้นถึงแม้จะไม่มีอาการ เป็นเวลาสองสามวัน แพทย์ควรตรวจรอยปูดที่ไม่เล็กลงภายในสองสามวัน โดยปกติ hematomas จะหายไปเองและไม่ต้องการการรักษา การประคบน้ำแข็งทันทีหลังจากได้รับบาดเจ็บอาจช่วยลดอาการบวมได้ ซีสต์ ซีสต์เป็นถุงที่เต็มไปด้วยของเหลวซึ่งก่อตัวอยู่ใต้ผิวหนัง ปกติแล้วมันจะนุ่มและมีสีขาวหรือเหลือง ซีสต์มีหลายประเภทที่สามารถขึ้นบนหน้าผากได้ ซีสต์ที่พบบ่อยที่สุดชนิดหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เคราตินเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในผิวหนังของคุณและก่อตัวเป็นถุง เคราตินเป็นโปรตีนในผิวหนัง โดยปกติเซลล์เคราตินจะเคลื่อนขึ้นสู่ผิวและตาย เมื่อพวกมันเคลื่อนไปในทิศทางอื่น พวกมันจะจับกลุ่มเป็นซีสต์ที่โตและบวมขึ้น คุณไม่ควรพยายามเปิดซีสต์ เพราะมันเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ให้กดด้วยผ้าขนหนูเปียกอุ่นๆ ที่หน้าผากแทน หรือไปพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับครีมเฉพาะที่อาจช่วยรักษาซีสต์ได้หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น