เอ็มอาร์ไอ สแกน (MRI Scan) คืออะไร  

แมนเนติกเรโซแนนซ์ แอมเมจิ้ง หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) คือ เครื่องตรวจร่างกาย เป็นการสแกนด้วยเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นวิทยุ และคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างภาพโครงสร้างของร่างกาย
  • การสแกนเอ็มอาร์ไอจะไม่สร้างความเจ็บปวดและไม่มีรังสีเอกซเรย์
  • คนไข้ที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รากเทียมโลหะหรือหคลิปในหรือรอบดวงตา จะไม่สามารถเข้าเครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอได้เพราะมีผลต่อระบบแม่เหล็ก
  • อาจเกิดอาการกลัวที่แคบขึ้นในระหว่างการสแกนเอ็มอาร์ไอได้

MRI คืออะไร 

MRI หรือแมนเนติกเรโซแนนซ์ อิมเมจิ้ง คือเทคนิคการสแกนรังสีวิทยาโดยใช้แม่เหล็ก คลื่นวิทยุและคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างภาพโครงสร้างร่างกาย เครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอคืออุโมงค์ที่ห่อหุ้มไปด้วยแม่เหล็กวงกลมขนาดใหญ่ คนไข้จะนอนลงบนเตียงที่สามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อเลื่อนเข้าอุโมงค์ตรวจร่างกายที่เป็นแม่เหล็ก ซึ่งแม่เหล็กนี้จะสร้างสนามแม่เหล็กกำลังสูงที่จะทำการจัดแนวโปรตรอนของอะตอมไฮโดรเจน ซึ่งจากนั้นก็จะสัมผัสกับคลื่นวิทยุที่แผ่ออกมา เป็นการปั่นโปรตรอนต่างๆของร่างกาย และพวกมันก็จะสร้างสัญญานอ่อนๆซึ่งสามารถตรวจจับได้ด้วยเครื่องรับของเครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอ คอมพิวเตอร์ก็จะได้รับข้อมูลดังกล่าวซึ่งจะนำไปสร้างเป็นภาพได้ ภาพที่ได้จากเอ็มอาร์ไอจะมีความละเอียดสูง สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเล็กๆภายในร่างกายได้ เพื่อการผ่าตัด ยาที่ใช้ฉีดร่วมกับการตรวจเอ็มอาร์ไอ เช่นแกโดลิเนียม ที่ใช้เพื่อเพิ่มถูกต้องให้ภาพเพิ่มมากขึ้น

การทำ MRI เพื่อประโยชน์อะไร 

การทำ MRI Scan มีประโยชน์มากเพราะเป็นวิธีที่สามารถค้นหาโรคได้ตลอดทั่วร่างกายเจอได้มีความถูกต้องที่สุดและมักถูกนำมาใช้หลังจากการตรวจสอบอื่นๆให้ข้อมูลได้ไม่เพียงพอในการวินิจฉัยโรคคนไข้ที่แน่นอนได้ ตรงบริเวณศีรษะเมื่อเกิดการบาดเจ็บที่สมองเราจะสามารถเห็นเลือดที่ออกมาหรือการบวมได้ รวมถึงความผิดปกติอื่นๆที่พบเช่นโรคหลอดเลือดสมองโป่ง โรคหลอดเลือดสมอง เนื้องอกในสมอง ได้ดีเช่นเดียวกันกับเนื้องอกหรือการอักเสบของไขสันหลัง ศัลยแพทย์ทางระบบประสาทจะใช้เครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอไม่เพียงแค่เพื่ออธิบายกายวิภาคสมองเท่านั้น การทำ MRI ยังใช้ในการประเมินความสมบูรณ์ของไขสันหลังหลังการได้รับบาดเจ็บมา อีกทั้งยังมีประโยขน์เมื่อต้องพิจารณาปัญหาร่วมกันกับกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกสันหลัง การสแกนเอ็มอาร์ไอสามารถประเมินโครงสร้างของหัวใจและหลอดเลือดแดงใหญ่เออร์ตา โดยสามารถตรวจหาหลอดเลือดที่โป่งพองหรือฉีกขาดได้ การสแกนเอ็มอาร์ไอไม่ใช่การทดสอบด้วยภาพที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจเนื้อเยื่อหรือในรายที่มีการบาดเจ็บ เอ็มอาร์ไอสามารถให้รายเอียดเกี่ยวกับต่อมและอวัยวะภายในช่องท้องได้เป็นอย่างดี และให้ข้อมูลที่แม่นยำถูกต้องเกี่ยวกับโครงสร้างของข้อต่อ เนื่อเยื่ออ่อน และกระดูกของร่างกาย การผ่าตัดอาจถูกเลื่อนออกไปได้หรืออาจได้ความถูกต้องมากขึ้นหลังรู้ผลจากการสแกนเอ็มอาร์ไอMRI Scan

MRI Scan และ CT Scan -ความแตกต่างและความคล้ายคลึง 

แมนเนติดเรโซแนนซ์ อิมเมจิ้งคือการสแกนที่ให้ภาพอวัยวะและโครงสร้างร่างกายภายในอื่นๆที่มีรายละเอียด ในขณะที่ซีทีสแกนจะให้ภาพภายในร่างกาย ซีทีสแกนจะใช้รัวสีที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ในขณะที่เอ็มอาร์ไอจะไม่ทำอันตราย และเอ็มอาร์ไอมีราคาแพงมากกว่าการทำซีทีสแกนด้วย 

ความเสี่ยงและผลข้างเคียง MRI  คืออะไร 

เครื่อง MRI คือการใช้รังสีเทคนิคที่ไม่มีความเจ็บปวด ซึ่งข้อดีคือสามารถหลบเลี่ยงการสัมผัสโดนรังสีเอกซเรย์ ยังไม่เห็นผลข้างเคียงจากการตรวจ MRI คนไข้ที่มีวัสดุที่เป็นโลหะอยู่ภายในร่างกายจะต้องแจ้งแพทย์ก่อนการตรวจหรือต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำเอ็มอาร์ไอทราบ รากเทียมโลหะ วัสดุ คลิปผ่าตัดหรือวัสดุแปลกปลอม (ข้อต่อเทียม แผ่นกระดูกโลหะหรืออุปกรณ์เทียม และอื่นๆ) อาจทำให้ภาพที่ได้จากการสแกนเอ็มอาร์ไอบิดเบือนไปอย่างมีนัยสำคัญ คนไข้ที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ รากเทียมโลหะหรือคลิปในหรือรอบดวงตา จะไม่สามารถเข้าเครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอได้เพราะมีความเสี่ยงที่แม่เหล็กอาจทำการเคลื่อนย้ายโลหะในบริเวณนั้นๆได้ เช่นเดียวกับคนไข้ที่มีวาว์ลลิ้นหัวใจเทียม หูโลหะเทียม เศษกระสุน และคนที่ทำเคมีบำบัดหรืออินซูลินปั้มไม่ควรสแกนเอ็มอาร์ไอ ในระหว่างการสแกนเอ็มอาร์ไอ คนไข้จะต้องนอนลงในพื้นที่ปิดภายในอุโมงค์แม่เหล็ก คนไข้บางรายอาจเกิดอาการกลัวที่แคบขึ้นในระหว่างการสแกน คนไข้ที่เคบมีประวัติกลัวที่แคบมาก่อนควรแจ้งให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ถ่ายรังสีทราบ การให้ยานอนหลับแบบอ่อนๆก่อนเข้าเครื่องสแกนเอ็มอาร์ไอจะช่วยให้รู้สึกบรรเทาลงได้ ตามปกติแล้วเจ้าหน้าที่เอ็มอาร์ไอมักจะอยู่ใกล้ๆในระหว่างสแกนเอ็มอาร์ไอเสมอ นอกจากนี้ตามปกติแล้วจะมีเครื่องมือเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ (เช่นออดกริ่งที่วางไว้ที่คนไข้) ซึ่งเป็นประโยชน์เพื่อการติดต่อหากคนไข้ไม่อาจทนในการสแกนต่อไปได้

การเตรียมตัวก่อนทำ MRI อย่างไรและมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง 

วัสดุที่เป็นโลหะทุกชนิดบนร่างกายจะต้องถูกนำออกไปก่อนการสแกนเอ็มอาร์ไอ ในบางครั้งคนไข้อาจได้รับยานอนหลับเพื่อลดอาการวิตกกังวลและผ่อนคลายมนระหว่างสแกนเอ็มอาร์ไอ การสแกนเอ็มอาร์ไอต้องขอให้คนไข้นอนนิ่งๆเพื่อความถูกต้องแม่นยำ คนไข้จะต้องนอนอยู่ภายในสิ่งแวดล้อมปิดภายในเครื่องแม่เหล็ก การรู้สึกผ่อนคลายนับเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในการตรวจ คนไข้อาจถูกขอให้หายใจตามปกติ เครื่องสแกนจะมีเสียงที่ดัง จะมีเสียงคลิ๊กดังซ้ำๆเกิดขึ้นในระหว่างการสแกนซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งของการสแกน ในบางครั้งอาจถูกฉีดของเหลวเข้าสู่เส้นเลือดเพื่อทำให้เห็นภาพดีขึ้น ระยะเวลาในการสแกนจะขึ้นอยู่กับกำลังสแกนที่บริเวณใดของร่างกาย แต่โดยประมาณมักอยู่ที่ครึ่งชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง การเตรียมตัวสำหรับการสแกนด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนจะประสบผลสำเร็จและแม่นยำ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการเตรียมตัวสำหรับการสแกน MRI:
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำ:ประการแรกและสำคัญที่สุด ปฏิบัติตามคำแนะนำใด ๆ ที่ได้รับจากผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณหรือศูนย์ถ่ายภาพอย่างระมัดระวัง พวกเขาอาจมีแนวทางเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณ
  • แจ้งผู้ให้บริการด้านสุขภาพ:อย่าลืมแจ้งผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณและนักเทคโนโลยี MRI เกี่ยวกับสภาวะทางการแพทย์ อาการแพ้ หรือการผ่าตัดครั้งก่อนๆ ที่คุณเคยมี ข้อมูลนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของคุณในระหว่างขั้นตอน
  • การแต่งกายอย่างเหมาะสม:สวมเสื้อผ้าที่สบายโดยไม่ใช้สายรัดหรือซิปโลหะ เนื่องจากอาจรบกวนสนามแม่เหล็กของ MRI ได้ คุณอาจได้รับชุดคลุมให้สวมใส่ระหว่างการสแกนหากเสื้อผ้าของคุณไม่เหมาะสม
  • นำวัตถุที่เป็นโลหะออก:ก่อนการสแกน ให้นำวัตถุที่เป็นโลหะทั้งหมดออกจากร่างกายของคุณ เช่น เครื่องประดับ การเจาะหู และกิ๊บติดผม แจ้งนักเทคโนโลยีหากคุณมีการปลูกถ่ายโลหะหรืออุปกรณ์ใดๆ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจหรือขาเทียมที่เป็นโลหะ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อความสามารถในการตรวจ MRI
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่ม:ในกรณีส่วนใหญ่ คุณไม่จำเป็นต้องอดอาหารก่อนการตรวจ MRI อย่างไรก็ตาม หากผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณแนะนำให้อดอาหาร อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของพวกเขา
  • ยา:รับประทานยาตามที่กำหนดต่อไป เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำเป็นอย่างอื่นจากผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ แจ้งนักเทคโนโลยี MRI ทราบเกี่ยวกับยาที่คุณกำลังรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยานั้นอยู่ในรูปของแผ่นแปะหรือฉีดเข้าเส้นเลือดดำ
  • การผ่อนคลาย:การสแกน MRI อาจมีเสียงดังและอาจใช้เวลานาน ดังนั้นจึงควรฝึกเทคนิคการผ่อนคลายเพื่อให้สงบสติอารมณ์ระหว่างทำหัตถการ คุณสามารถนำเพลงมาเองหรือสอบถามว่าศูนย์ภาพมีหูฟังหรือเพลงเพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายหรือไม่
  • จำกัดคาเฟอีน:หลีกเลี่ยงปริมาณคาเฟอีนที่มากเกินไปก่อนการสแกน หากคุณมีแนวโน้มที่จะวิตกกังวล  คาเฟอีนทำให้คุณรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น
  • ใช้ห้องน้ำ:ไปที่ห้องน้ำก่อนการสแกนเพื่อลดความจำเป็นในการพักระหว่างขั้นตอน
  • จัดเตรียมการเดินทาง:หากคุณกำลังใช้ยาระงับประสาทสำหรับ MRI ให้จัดเตรียมคนมาขับคุณกลับบ้าน เนื่องจากยาระงับประสาทอาจส่งผลต่อความสามารถในการขับรถของคุณได้อย่างปลอดภัย
  • มาถึงก่อนเวลา:มาถึงศูนย์ถ่ายภาพก่อนเวลานัดหมายเพื่อกรอกเอกสารและการลงทะเบียนที่จำเป็น
โปรดจำไว้ว่าคำแนะนำและการเตรียมตัวสำหรับการสแกน MRI อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของการสแกนและสถานการณ์ทางการแพทย์เฉพาะของคุณ การสื่อสารอย่างเปิดเผยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและนักเทคโนโลยี MRI อย่างเปิดเผยถือเป็นสิ่งสำคัญ ปฏิบัติตามคำแนะนำของพวกเขา และถามคำถามใดๆ ที่คุณอาจต้องใช้เพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนการถ่ายภาพจะราบรื่นและปลอดภัย

ผลการตรวจเอ็มอาร์ไอจะได้รับเมื่อไร 

หลังการสแกนเอ็มอาร์ไอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์จะสร้างภาพบริเวณของร่างกายที่ถูกสแกน ภาพเหล่นนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นฟิลม์ นักรังสีวิทยาคือแพทย์ที่ได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะในการแปลงผลภาพของร่างกาย การตีความและแปลความหมายจะถูกส่งไปยังแพทย์ที่สั่งทำเอ็มอาร์ไอ แพทย์จะสามารถนำผลที่ได้มาพูดคุยกับคนไข้และหรือกับคนในครอบครัว 

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://medlineplus.gov/mriscans.html
  • https://www.nhs.uk/conditions/mri-scan/
  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/146309
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด