เคล็ดลับหลีกเลี่ยงร้อนในที่ปาก (Tips to Avoid Mouth Ulcers)

แผลในปากนั้นเจ็บปวด โดยทั่วไปแล้วจะมีลักษณะกลมหรือรูปไข่ซึ่งปรากฏอยู่ในปาก ส่วนใหญ่อยู่ที่แก้มและริมฝีปาก มีสีขาว เหลือง หรือเทา ขอบแดงอักเสบ เพราะแผลที่เป็นจุดหรือตุ่มแดง ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นแผลเปิด รูปร่างกลมหรือรี มีสีขาวเหลือง ขอบเป็นสีแดงนูนออกมา ที่มักจะเกิดขึ้นบริเวณริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก และเพดานปาก โดยลักษณะแผลร้อนในสามารถแบ่งได้ 3 ชนิด ตามระดับความรุนแรง ดังนี้ แม้ว่าแผลในปากจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกบ่อยๆ และอาจทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัวขณะรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่ม หากใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสมก็สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงการเกิดแผลในปาก:
  1. รวมนิสัยสุขอนามัยช่องปากที่ดี การผสมผสานเทคนิคการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณรักษาปากของคุณให้สะอาดและปราศจากเศษอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บ ทันตแพทย์มักแนะนำให้ใช้แปรงขนอ่อนและยาสีฟันที่ปราศจากโซเดียมลอริลซัลเฟตและน้ำยาบ้วนปาก เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลในปากได้
  2. ระวังสิ่งที่คุณกิน อาหารบางชนิด เช่น มันฝรั่งทอด ถั่ว เครื่องเทศ และผลไม้ที่เป็นกรด (เกรปฟรุต ส้ม สับปะรด ฯลฯ) อาจทำให้เกิดแผลในปาก ดังนั้นการหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าวในบุคคลที่มีความอ่อนไหวจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดแผลในปาก
  3. กินอาหารเพื่อสุขภาพ ในบางกรณี การขาดวิตามิน ธาตุเหล็ก ฯลฯ อาจทำให้เกิดแผลในปากได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินและธาตุเหล็กจะช่วยป้องกันการก่อตัวของแผลในบุคคลดังกล่าว
  4. ปกป้องปากของคุณ อุปกรณ์จัดฟันบางชนิด เช่น เครื่องมือจัดฟันมีขอบแหลมคมซึ่งอาจทำให้ส่วนต่างๆ ของปากระคายเคือง ทำให้เกิดแผลในปาก ไปพบทันตแพทย์เพื่อปิดหรือตะไบขอบที่แหลมคมออก
  5. ลดความเครียดในชีวิต  เนื่องจากบางครั้งแผลในปากอาจเกี่ยวข้องกับความเครียด การทำกิจกรรมลดความเครียด เช่น โยคะหรือการทำสมาธิสามารถลดการเกิดแผลที่เกี่ยวกับความเครียดได้

สิ่งที่อาจทำให้เกิดร้อนใน

  • สาเหตุของร้อนใน มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ที่พบมากคือ
  • กรรมพันธุ์
  • ความเครียด
  • เผลอกัดโดนเนื้อเยื่อข้างกระพุ้งแก้ม
  • แพ้สารเคมีต่างๆ เช่น สารเคมีจากยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก
  • แพ้อาหารบางชนิด
  • ขาดวิตามิน และเกลือแร่บางชนิด เช่น วิตามินบี ธาตุเหล็ก และสังกะสี
  • ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
  • ติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น โรคเริม
  • แปรงฟันแรงเกินไป จนเกิดบาดแผล
  • ดื่มน้ำน้อย
  • ร่างกายขาดสารอาหาร
  • ทานอาหารรสจัดมากเกินไป
  • ทานอาหารทอดมากเกินไป
  • สูบบุหรี่
  • ท้องผูก
  • ร่างกายเกิดความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน อาจพักผ่อนไม่เพียงพอจนเสียสมดุล
  • ช่วงที่ผู้หญิงกำลังมีประจำเดือน อาจส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง และอาจเกิดร้อนในได้
Tips to Avoid Mouth Ulcers

ร้อนใน อันตรายไหม?

การเป็นร้อนใน นอกจากจะเกิดอาการเจ็บแสบมาก ทำให้การขยับริมฝีปาก หรือทานอาหารเป็นไปได้อย่างยากลำบากแล้ว ก็ไม่มีพบอันตรายใดๆ มากไปกว่านี้ เพราะโดยส่วนใหญ่แผลร้อนในอาจหายได้เอง หรือหากไม่อยากทรมานนานก็สามารถใช้ยาช่วยให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้นได้ แต่ที่สำคัญคืออย่าให้แผลติดเชื้อ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบ และใช้เวลารักษานานขึ้น ยากขึ้น

วิธีรักษาแผลร้อนในให้หายเร็วๆ

  1. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังอาหารทุกมื้อ
  2. หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้แผลร้อนในระคายเคือง และแห้งตึงจนเกินไป
  3. เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มวันละ 2 ครั้ง หรือหลังรับประทานอาหาร
  4. หากมีแผลร้อนในที่ค่อนข้างใหญ่ และลึก จนมีอาการเจ็บปวดมาก สามารถใช้ผ้าสะอาดพันปลายนิ้ว เช็ดทำความสะอาดฟัน เหงือก และซอกฟันแทนการใช้แปรงสีฟันชั่วคราวได้
  5. เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ
  6. เลือกรับประทานอาหารที่มีลักษณะอ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย
  7. หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด (เปรี้ยวจัด เค็มจัด เผ็ดจัด)
  8. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีอุณหภูมิเย็นจัด และร้อนจัด
  9. งดอาหาร และสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปาก เช่น เหล้า บุหรี่ หมากพลู เป็นต้น
  10. ดื่มน้ำผลไม้ไม่แยกกาก เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่รับประทานอาหารได้ไม่หลากหลาย หรือรับประทานผักผลไม้ได้ไม่มาก จากอาการเจ็บแผลร้อนใน
  11. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อคืน
  12. ออกกำลังกายเป็นประจำ วันละ 30 นาที-1 ชั่วโมง สัปดาห์ละอย่างน้อย 3-4 ครั้ง
  13. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เช็กได้จากสีปัสสาวะ ดื่มน้ำจนกว่าปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองอ่อน
  14. พยายามลดความเครียด ด้วยการหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่เครียด
  15. หากแผลร้อนในค่อนข้างใหญ่ และไม่ดีขึ้นหลังจากทำทุกวิธีแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณายาทาแผลให้หายไวยิ่งขึ้น

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการรักษาแผลร้อนใน หรือแผลในปาก

ยังไม่มีรายงานการแพทย์ใดๆ ยืนยันได้ว่า การรับประทานยาขม จะช่วยรักษาแผลร้อนในได้ และเมื่อมีแผลร้อนใน หรือแผลที่อักเสบบริเวณริมฝีปาก ไม่ควรใช้เยนเชี่ยน ไวโอเล็ตทา (Gentian Violet หรือยาม่วง) เพราะจะทำให้ริมฝีปากแตกแห้งมากขึ้น และแผลยิ่งแตกมากขึ้นไปด้วย

บทสรุป

การป้องกันแผลในปากต้องอาศัยสุขอนามัยช่องปากที่ดี การปรับเปลี่ยนอาหาร การจัดการความเครียด และความตระหนักรู้ถึงสิ่งกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองและรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี คุณสามารถลดความถี่และความรุนแรงของแผลในปากได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าชีวิตประจำวันจะสะดวกสบายและปราศจากความเจ็บปวดมากขึ้น หากคุณยังคงมีแผลในปากบ่อยครั้งหรือรุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการประเมินและคำแนะนำเพิ่มเติม
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด