ลูกพืชคืออะไร
ลูกพีชหรือ Prunus persica เป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก มีเปลือกเป็นปุย มีเนื้อสีขาวหรือสีเหลือง รสหวาน ลูกพีชเป็นพืชตระกูลเดียวกับพลัม แอปริคอต เชอร์รี่ และอัลมอนด์ เป็นผลไม้ชนิดผลเดี่ยว หรือผลไม้ที่มีเมล็ดเดี่ยวที่มีเนื้อล้อมรอบเมล็ดเนื้อแข็ง เป็นเมล็ดที่กินได้ สามารถรับประทานได้ทั้งผล หรือเพิ่มเป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลายประเภท นอกจากนี้ลูกพีชยังมีคุณค่าทางโภชนาการ และอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารดี ผิวพรรณเรียบเนียนขึ้น และบรรเทาอาการภูมิแพ้คุณประโยชน์ของลูกพืช
1. พีชอุดมด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ
ลูกพีชอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุ และสารประกอบที่มีคุณประโยชน์มากมาย ลูกพีชขนาดกลาง 1 ลูก (5.4 ออนซ์หรือ 150 กรัม) มีสารประกอบ ดังนี้- แคลอรี่: 58
- โปรตีน: 1 กรัม
- ไขมัน: น้อยกว่า 1 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต: 14 กรัม
- ไฟเบอร์: 2 กรัม
- วิตามินซี: 17% ของปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน (DV)
- วิตามินเอ: 10% ของ DV
- โพแทสเซียม: 8% ของ DV
- ไนอาซิน: 6% ของ DV
- วิตามินอี: 5% ของ DV
- วิตามินเค: 5% ของ DV
- ทองแดง: 5% ของ DV
- แมงกานีส: 5% ของ DV
2.ประโยชน์ของ ลูกพีชช่วยย่อยอาหาร
ลูกพีชอาจมีส่วนช่วยในให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี พีชผลไม้ขนาดกลาง 1 ผลมีไฟเบอร์ประมาณ 2 กรัม เป็นเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้และแบบไม่ละลายน้ำอย่างละครึ่ง เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำจำนวนมากเมื่อรวมเข้ากับอุจจาระ ก็จะช่วยเคลื่อนย้ายอาหารผ่านลำไส้ ลดโอกาสที่จะเกิดอาการท้องผูก ส่วนเส้นใยที่ละลายน้ำได้ จะกลายเป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ แบคทีเรียเหล่านี้จะผลิตกรดไขมันสายสั้น เช่น อะซิเตต โพรพิโอเนต และบิวทิเรตซึ่งใช้หล่อเลี้ยงเซลล์ในลำไส้ กรดไขมันสายสั้นในลำไส้จะช่วยลดการอักเสบ และแก้ไขอาการผิดปกติของระบบย่อยอาหาร เช่น โรคโครห์น โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล ดอกพีชเป็นอีกส่วนหนึ่งของต้นพีชที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร มักใช้ในการแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาอาการผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ผลงานวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่า สารประกอบในดอกไม้ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความถี่ในการหดตัวของลำไส้ให้มีประสิทธิภาพ การรักษาจังหวะที่เหมาะสมจะช่วยผลักดันอาหารได้สะดวก3. ประโยชน์ของลูกพีชช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น
การรับประทานลูกพีชผลไม้ทุก ๆ ชนิดเป็นประจำจะช่วยปรับปรุงสุขภาพของหัวใจ ลูกพีชสามารถลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง และระดับคอเลสเตอรอล จากผลการศึกษาในหลอดทดลองพบว่าลูกพีชสามารถจับตัวกับกรดน้ำดี ซึ่งเป็นสารประกอบจากตับที่ใช้ผลิตจากคอเลสเตอรอล กรดน้ำดีที่มีพันธะร่วมกับคอเลสเตอรอลที่มีอยู่จะถูกขับออกทางอุจจาระ จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ผลการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองพบว่าผลไม้ลูกท้อสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลทั้งหมด และ LDL ที่ไม่ดี ได้ รวมทั้งระดับความดันโลหิต และไตรกลีเซอไรด์
4. ลูกพืชคุณประโยชน์ช่วยปกป้องผิวพรรณ
ลูกท้อจีนหรือลูกพืชสามารถป้องกันและบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง ผลการศึกษาในหลอดทดลองพบว่าสารประกอบในลูกพีชจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้ จึงช่วยบำรุงผิวพรรณ และผลการศึกษาในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดที่ทำจากดอกพีช หรือเนื้อพีชสามารถป้องกันความเสียหายจากรังสียูวีที่ผิวหนังได้โดยตรง5. สามารถป้องกันมะเร็งบางชนิดได้
เช่นเดียวกับผลไม้ส่วนมาก ลูกท้อสดมีสารประกอบที่มีประโยชน์สามารถป้องกันมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ ผิวและเนื้อพีชอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ และกรดคาเฟอิกซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติในการต้านทานมะเร็ง ลูกพีชยังอุดมด้วยโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเจริญเติบโต และควบคุมการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เป็นผลการศึกษาในหลอดทดลอง โพลีฟีนอลของลูกพีชยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์อื่น ๆ ของร่างกาย ผลการศึกษาในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่บริโภคลูกพีชหรือเนคทารีนอย่างน้อยวันละ 2 ลูก จะลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมได้6. สามารถลดอาการภูมิแพ้ได้
เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ร่างกายจะปล่อยฮิสตามีนหรือสารเคมีที่ระบบภูมิคุ้มกันสร้างขึ้น เพื่อช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในร่างกายออกไป ฮิสตามีนเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันของร่างกาย และทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น จาม คัน หรือไอ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าลูกพีชสามารถลดอาการภูมิแพ้ด้วยการป้องกันการปล่อยฮิสตามีนในเลือดประโยชน์ด้านอื่น ๆ
ลูกพีชอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ อีกมาก งานวิจัยพบว่า :- เพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน: ลูกพีชอุดมไปด้วยสารอาหารที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระ ผลการศึกษาในหลอดทดลองพบว่าพีชสามารถต่อสู้กับแบคทีเรียบางชนิดได้
- ป้องกันสารพิษบางชนิด: ผลการศึกษาสารสกัดจากลูกพีชกับผู้สูบบุหรี่ พบว่าสามารถกำจัดนิโคตินเพิ่มทางปัสสาวะได้
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด: ผลการศึกษาพบว่าสารประกอบที่พบในลูกพีชสามารถป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดได้ และความต้านทานอินซูลินในหนูที่เป็นโรคอ้วน
ปรุงเป็นอาหารได้มากมาย และง่ายต่อประกอบอาหาร
ลูกพีชเป็นอาหารที่หาได้ง่าย และสามารถเพิ่มในมื้ออาหารได้หลายวิธี สามารถรับประทานได้ทั้งผลสด นำไปอบ ย่าง ต้ม หรือผัด และประกอบเป็นอาหารจานร้อนหรือเย็นได้ง่าย ๆ การรับประทานลูกพีชสดจะทำให้ได้รับสารอาหารเป็นจำนวนมาก และสามารถรับประทานผลพีชอย่างเดียว หรือราดด้วยโยเกิร์ต และถั่วสัก 1 กำมือก็ได้ การเพิ่มลูกพีชลงในสลัด หรือผัดลงในแกงถั่วชิกพี ผสมกับซัลซ่า หรือใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานได้หลายชนิด สามารถปั่นลูกพีชเป็นสมูทตี้ หรือบดเบา ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเครื่องดื่มได้วิธีเลือกและเก็บพีช
ลูกพีชมีหลายสายพันธุ์ – บางชนิดมีสีขาว หรือสีเหลือง ลูกพีชสีขาวมีรสหวานกว่า ส่วนสีเหลืองจะมีรสเปรี้ยวมากกว่า การเลือกลูกพีชให้พิจารณาจากผลที่มีกลิ่นจะมีรสหวาน พยายามหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีสีน้ำตาล มีรอยช้ำ หรือเหี่ยวย่นซึ่งอาจเสียหายหรือสุกเกินไป เลือกลูกพีชที่มีเนื้อแข็งหรือนิ่มเพียงเล็กน้อย การพิจารณาลูกพีชสุกและพร้อมรับประทาน ด้วยการกดลงบนเนื้อและรู้สึกว่านิ่มเล็กน้อย ลูกพีชยังคงสุกต่อไปเมื่อเลือกซื้อมา ดังนั้นหากลูกพีชยังแข็งเกินไปให้ลองวางทิ้งไว้สัก 1-3 วัน ลูกพีชสุกจะเก็บได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ที่อุณหภูมิห้อง หากยังไม่รับประทาน ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผลสุกเกินไป ผลสุกสามารถแช่แข็งได้ เมื่อฝานผลแล้วให้เคลือบเนื้อผลด้วยน้ำมะนาวเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสีน้ำตาล ลูกพีชสามารถซื้อแบบกระป๋องหรือแช่แข็งได้ แต่ลูกพีชกระป๋องจะมีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าลูกพีชสด หรือลูกพีชแช่แข็งหากต้องการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพลองใช้แบบบรรจุในน้ำแทนน้ำเชื่อมใจความสำคัญ
ลูกพีชอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารประกอบที่มีประโยชน์มากมาย สามารถนำไปรวมกับอาหารได้หลากหลายประเภท และอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งผิวพรรณที่ดีขึ้น อาการภูมิแพ้ลดน้อยลง และระบบย่อยอาหารที่ดีขึ้น รวมทั้งสุขภาพของหัวใจที่ดี ลูกพีชยังช่วยลดลงความเสี่ยงในมะเร็งบางชนิด และสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันสารพิษและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ จึงเป็นผลไม้ที่ควรนำไปเพิ่มในมื้ออาหารใครที่ไม่สามารถรับประทานพีช
แม้ว่าลูกพีชจะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่หลายๆ คนชื่นชอบ แต่บางคนอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการบริโภคเนื่องจากสภาวะสุขภาพหรืออาการแพ้บางอย่าง ต่อไปนี้เป็นบางสถานการณ์ที่บุคคลอาจต้องระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกพีช:- โรคภูมิแพ้:คนที่มีอาการแพ้ลูกพีชหรือภาวะที่เรียกว่ากลุ่มอาการภูมิแพ้ในช่องปาก (OAS) ซึ่งโปรตีนบางชนิดในลูกพีชกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการคันหรือบวมในปากหรือลำคอ ในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะภูมิแพ้ได้
- ความไวต่อ FODMAP:ลูกพีชมี FODMAPs (โอลิโกแซ็กคาไรด์ที่หมักได้ ไดแซ็กคาไรด์ โมโนแซ็กคาไรด์ และโพลีออล) ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารในบางคนที่มีอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือมีความไวต่อทางเดินอาหารอื่น ๆ
- กรดไหลย้อน:ธรรมชาติที่เป็นกรดของลูกพีชอาจทำให้เกิดหรือทำให้อาการรุนแรงขึ้นในผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนหรือโรคกรดไหลย้อน บางคนพบว่าผลไม้ที่เป็นกรดอาจทำให้หลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารระคายเคือง และทำให้รู้สึกไม่สบาย
- ยาบางชนิด:สำหรับบุคคลที่ใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน ปริมาณวิตามินเคในลูกพีชอาจรบกวนประสิทธิภาพของยา พวกเขาอาจจำเป็นต้องรักษาระดับการบริโภควิตามินเคให้สม่ำเสมอและควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของตน
- ความกังวลเรื่องโรคเบาหวานและน้ำตาลในเลือด:แม้ว่าลูกพีชเป็นผลไม้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างต่ำ แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลตามธรรมชาติ
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/diet/ss/slideshow-peaches-health-benefits
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/274620
- https://www.verywellfit.com/peaches-carb-counts-and-benefits-1087566
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น