ผิวมันเกิดจากอะไร
ผิวมันเกิดจากการที่ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ต่อมเหล่านี้อยู่ใต้ผิวหนัง ต่อมไขมันมีไขมันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเสียทีเดียว เพราะน้ำมันช่วยปกป้องผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น ทำให้ผมเงางาม และสุขภาพดี การมีน้ำมันมากไป อาจทำให้ผิวมัน ซึ่งทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิว พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือแม้แต่ความเครียดทำให้น้ำมันถูกสร้างมากขึ้น ผิวมัน และสิวเป็นสิ่งที่ยากต่อการจัดการ การดูแลตัวเองที่บ้านอาจช่วยลดอาการโดยไม่ต้องรับประทานยา หรือใช้ครีมราคาแพง ๆ นี่คือ 10 วิธีที่เราสามารถดูแลผิวได้ที่บ้าน เป็นสิวต้องกดออกไหมและกดอย่างไร อ่านต่อที่นี่1. ล้างหน้า
ผู้ที่มีผิวหน้ามันหลายคนไม่ล้างหน้าทุกวัน หากผิวหน้าของคุณมัน คุณควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง แต่อย่าล้างมากเกินไป หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยสบู่ หรือสิ่งที่ระคายเคืองล้างหน้า ใช้สบู่ที่อ่อนโยน เช่น สบู่ที่มีกลีเซอรีน2. กระดาษซับมัน
กระดาษซับมันจะไม่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยลง แต่จะช่วยให้คุณซับไขมันส่วนเกินออกจากใบหน้าได้ กระดาษซับมันมีราคาไม่แพง และมีขายทั่วไป สามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการระหว่างวัน3. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นการดูแลผิวที่เป็นธรรมชาติที่สุด มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และต้านเชื้อโรค ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อผิวมันที่มีแนวโน้มจะเกิดสิว น้ำผึ้งยังเป็นสารที่ช่วยดูดซับน้ำ ซึ่งทำให้ผิวชุ่มชื้นแต่ไม่มัน การใช้น้ำผึ้งเพื่อรักษาสิว และผิวมัน ให้ทาน้ำผึ้งบาง ๆ ลงบนผิวหน้า ปล่อยให้แห้งประมาณ 10 นาที แล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ประโยชน์ของน้ำผึ้งสดที่น่ารู้ อ่านเลย4. ผงพอกหน้า
ผงพอกหน้าสามารถช่วยดูดซับความมันจากผิวได้ และช่วยรักษาอาการทางผิวหนังได้หลายอย่าง โคลนเขียวฝรั่งเศส หรือ French green clay เป็นผงพอกหน้าที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน และสิวเพราะดูดซับได้มาก เราสามารถทำ French green clay ได้ดังนี้:- เติมน้ำกรอง หรือน้ำดอกกุหลาบประมาณ 1 ช้อนชาลงไปผสมกับผงจนข้น
- ทาลงทั่วหน้า แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้ง
5. ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตช่วยปลอบปะโลมผิวที่อักเสบ และช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เมื่อใช้เป็นมาส์กหน้า ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดสามารถเอาไปรวมกับโยเกิร์ต น้ำผึ้ง หรือผลไม้บด เช่น กล้วย แอปเปิ้ล หรือมะละกอได้ การใช้ข้าวโอ๊ตสามารถทำได้ดังนี้:- ใช้ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดครึ่งถ้วยผสมกับน้ำอุ่น
- ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ทาลงบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 3 นาที ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง
- นอกจากนี้ สามารถเลือกที่จะทาทิ้งไว้ 10-15 นาทีได้ ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดให้แห้ง
6. ไข่ขาว และมะนาว
ไข่ขาว และน้ำมะนาวเป็นส่วนผสมที่ช่วยรักษาผิวมันได้ ส่วนผสมทั้ง 2 ชนิดช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น กรดในมะนาว และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอื่น ๆ อาจช่วยดูดวับน้ำมัน และมะนาวยังช่วยต้านแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม การรักษานี้ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ไข่ การทำมาส์กไข่ และมะนาว:- ผสมไข่ขาว 1 ฟอง และน้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- ทาให้ทั่วหน้า แล้วปล่อยให้แห้ง
- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดให้แห้ง
7. อัลมอนด์
อัลมอนด์เต็มเมล็ดไม่เพียงแต่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินได้ สามารถใช้ได้ดังนี้:- อัลมอนด์บด 3 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- ทาลงบนหน้า โดยวนเป็นวงกลม
- ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้ง
8. ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ช่วยรักษาผิวไหม้ และปัญหาผิวอื่น ๆ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าว่านหางจระเข้สามารถรักษาผิวแตกได้ หลายคนใช้ว่านหางจระเข้เพื่อรักษาเรื่องความมัน คุณสามารถทาว่านหางจระเข้บาง ๆ บนผิวหน้าก่อนเข้านอน แล้วปล่อยไว้ทั้งคืนได้ ว่านหางจระเข้อาจทำให้เกิดการแพ้สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย หากคุณไม่เคยใช้ว่านหางจระเข้มาก่อน ให้ลองทาที่หน้าแขนก่อน หากไม่มีอาการแพ้ใน 24-48 ชั่วโมง แปลว่าปลอดภัยต่อการใช้9. มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีกรดซาลิซิลิก กรดนี้ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินได้ และไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน โดยสามารถทำได้ดังนี้:- ใช้น้ำตาล 1 ช้อนชา และมะเขือเทศ 1 ซีก
- ทาเป็นวงกลม
- ปล่อยทิ้งไว้ 5 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง
10. โจโจ้บาออยล์
โจโจ้บาออยล์สามารถใช้รักษาผิวมัน สิว และปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ โจโจบาออยจะไปทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยลง และช่วยให้ความมันสมดุล แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนทฤษฎีนี้ การใช้โจโจ้บาออยเพียงเล็กน้อยอาจช่วยเรื่องผิวมันได้ แต่การใช้มากไปอาจทำให้ผิวมันมากขึ้นกว่าเดิม ควรเริ่มจากการใช้น้อย ๆ เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน หากคุณพอใจกับผลลัพท์ ก็สามารถใช้เป็นประจำได้สิ่งที่คนผิวมันควรหลีกเลี่ยง
บุคคลที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการปฏิบัติบางอย่างที่อาจทำให้ความมันรุนแรงขึ้นหรือนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ ต่อไปนี้คือบางสิ่งที่คนผิวมันโดยทั่วไปควรหลีกเลี่ยง:- มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรน้ำมันเข้มข้น: มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรน้ำมันเข้มข้นสามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้ผิวมันรู้สึกมันยิ่งขึ้น ให้เลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิวซึ่งเป็นสูตรเฉพาะสำหรับผิวมันหรือเป็นสิวง่าย
- การล้างหน้ามากเกินไป:แม้ว่าการล้างผิวมันให้สะอาดเป็นสิ่งสำคัญ แต่การล้างมากเกินไปสามารถดึงน้ำมันส่วนเกินออกไปได้ ส่งผลให้การผลิตน้ำมันฟื้นตัวและอาจทำให้ปัญหาแย่ลงได้ หมั่นล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้ง
- สารขัดผิวที่มีฤทธิ์รุนแรงหรือมีฤทธิ์กัดกร่อน:สครับขัดผิวหยาบหรือสารขัดผิวที่มีสารเคมีรุนแรงอาจทำให้ผิวมันระคายเคืองและอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ เลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวสูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสม เช่น กรดซาลิไซลิกหรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) เพื่อช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนและควบคุมการผลิตน้ำมันโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- การไม่ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์:บุคคลที่มีผิวมันบางคนเข้าใจผิดคิดว่าตนไม่ต้องการมอยเจอร์ไรเซอร์ แต่การไม่ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อาจทำให้ความมันแย่ลงได้ มองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาและปราศจากน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ต้องเติมน้ำมันส่วนเกินให้กับผิว
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์:ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อาจทำให้ผิวแห้งเกินไปและระคายเคืองสำหรับผิวมัน ทำให้เกิดการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นและอาจเกิดความเสียหายต่อผิวหนังได้ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง เช่น โทนเนอร์หรือยาสมานแผล
- การไม่ใช้ครีมกันแดด:แม้แต่ผิวมันก็ต้องได้รับการปกป้องจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายจากแสงแดด เลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิวซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผิวหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันรูขุมขน
- การใช้เครื่องสำอางที่หนาและอุดตันรูขุมขน:การแต่งหน้าที่หนาและหนักอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและทำให้ผิวมันดูมันยิ่งขึ้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่ปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดสิวซึ่งมีป้ายกำกับว่า “เนื้อแมตต์” หรือ “ปราศจากน้ำมัน” เพื่อช่วยควบคุมความมันเงาและลดการเกิดสิว
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น