วิธีรักษาสมรรถภาพทางเพศให้เป็นปกติ
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นอาการที่อวัยวะเพศหรือความต้องการของการไม่มีความตื่นตัวที่เพียงพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ มักจะเกิดจากปัญหาสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง มูลนิธิดูแลระบบทางเดินปัสสาวะประเมินว่าอาการนี้มีผลต่อผู้ชาย 30 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ชายบางคนการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันได้ หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคุณลองดูรายการด้านล่าง ว่าวิธีการใช้ยาเหล่านี้เป็นอย่างไร และผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง รวมถึงปรึกษาแพทย์ของคุณในการใช้ตัวยาอย่างปลอดภัยพื้นฐานของยารักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
มียาหลายชนิดที่ใช้รักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ยาแต่ละตัวทำงานแตกต่างกัน แต่ตัวยาทั้งหมดสามารถกระตุ้นกิจกรรมทางเพศโดยการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ยาที่รักษาสภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่พบมากที่สุด อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าสารยับยั้ง phosphodiesterase type 5 (PDE5) ทำงานโดยการปิดกั้นเอนไซม์บางอย่างที่ทำให้มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หากคุณมีปัญหาสุขภาพ บางครั้งอาจไม่ปลอดภัยที่คุณจะทานยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ตัวอย่างเช่นหากคุณมีโรคหัวใจหัวใจ มันอาจจะส่งปัญหาทางสุขภาพได้ บอกแพทย์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพทั้งหมดที่คุณมี และยาทั้งหมดที่คุณรับประทาน ข้อมูลนี้สามารถช่วยแพทย์ในการตัดสินใจเลือกยาที่ดีที่สุดสำหรับคุณAlprostadil
Alprostadil (Caverject, Edex, MUSE) เป็นรูปแบบของการฉีดยาเพื่อช่วยให้อวัยวะเพศชายทำงานแข็งตัวตามปกติ คุณจะฉีดยาลงบนอวัยวะเพศชายโดยตรง โดยฉีด 5 ถึง 20 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ คุณสามารถใช้งานได้ตามต้องการสูงถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ คุณทิ้งระยะห่างอย่างน้อย 24 ชั่วโมงในการใช้ตัวยาอีกครั้ง ด้วย MUSE ควรใช้ยายา 5 ถึง 10 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรใช้เกินสองครั้งในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้ อาจจะทำให้มีอาการเจ็บปวดในอวัยวะเพศชายและลูกอัณฑะ บางงครั้งอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนในท่อปัสสาวะAvanafil
Avanafil (Stendra) เป็นยาชนิดรับประทาน ควรทานก่อนการมีเพศสัมพันธ์ 15 นาที และไม่ควรทานเกินวันละหนึ่งครั้ง คุณไม่ควรทานตัวยับยั้ง PDE5 หากคุณใช้ไนเตรตเพื่อรักษาโรคหัวใจ ตัวอย่างของไนเตรต ได้แก่ isosorbide mononitrate (Monoket) และ nitroglycerin (Nitrostat) การใช้ไนเตรทกับ avanafil อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้ ได้แก่:Sildenafil
Sildenafil (Viagra) คือ ตัวยับยั้ง PDE5 เช่นกันหรือที่เรียกอีก อย่างว่าไวอากร้า เป็นยาชนิดรับประทานควรใช้แค่วันละ 1 ครั้งเท่านั้นและสามารถใช้ 30 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้ ได้แก่ :- อาการปวดหัว
- หน้าแดง
- คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล
- ปวดหลัง
- ท้องเสีย
- อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- สายตาพร่ามัวและบางครั้งอาจจะไม่สามารถระบุสีที่เห็นได้ชัดเจน
Tadalafil
Tadalafil (Cialis) เป็นยาชนิดรับประทานที่เพิ่มการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายของคุณ ตัวยับยั่ง PDE5 นี้ใช้ประมาณ 30 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ไม่เกินวันละครั้ง ยาอาจจะอยู่ในระบบหรือออกฤทธิ์ได้นานถึง 36 ชั่วโมง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้ ได้แก่ :- อาการปวดหัว
- หน้าแดง
- คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล
- ปวดหลัง
- ท้องเสีย
- ปวดในแขนขา
Testosterone
Testosterone เป็นฮอร์โมนเพศชายในร่างกาย มีบทบาทที่สำคัญมากมายในสุขภาพโดยรวม ระดับเทสโทสเตอโรนจะลดลงตามอายุ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจนำไปสู่ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและปัญหาอื่น ๆ เช่น:- ความรู้สึกอ่อนล้า
- ความต้องการทางเพศลดลง
- จำนวนอสุจิลดลง
- น้ำหนักมากขึ้น
- สิว
- มีหน้าอก
- การเจริญเติบโตของต่อมลูกหมากผิดปกติ
- อาการบวม
- ความหงุดหงิด
- อาจจะมีการหยุดหายใจขณะหลับหรือหายใจขัดจังหวะระหว่างการนอนหลับของคุณ
Vardenafil
Vardenafil (Levitra, Staxyn) เป็นยาชนิดรับประทานและเป็นสารยับยั้ง PDE5 ควรใช้ 60 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ คุณสามารถทานยานี้ได้วันละหนึ่งครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้ ได้แก่ :- อาการปวดหัว
- หน้าแดง
- คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล
- ปวดหลัง
- ท้องเสีย
- วิงเวียนศรีษะ
วิตามินและอาหารเสริมสำหรับภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
มีวิตามินและอาหารเสริมมากมายในท้องตลาดที่อ้างว่าสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ บางครั้งอาจจะมีการโฆษณาว่าสามารถช่วยชูกำลังทางเพศ อย่างไรก็ตามอาหารเสริมเหล่านี้มักจะไม่ได้ผล และอาจจะไม่ปลอดภัย อาหารเสริมบางอย่างในตลาด ที่ผลิตมาจากสารสกัดจาก “ ธรรมชาติ” อาจมียาบางตัวผสมอยู่ อาหารเสริม จำพวกชูกำลังนี้ยังสามารถทำปฎิกริยาโต้ตอบกับยาอื่น ที่คุณทานได้ และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนที่จะใช้วิตามินหรืออาหารเสริมสำหรับเพิ่มสมรรถภาพทางเพศก่อนที่คุณจะทานยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ
ไม่ใช่ทุกคนที่มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จำเป็นต้องใช้ยาช่วย หากคุณคิดว่าคุณมีอาการ อย่างแรกควรไปพบแพทย์ แพทย์จะตรวจร่างกายรวมถึงซักถามประวัติทางการแพทย์รวมไปถึงสภาวะทางจิตใจ บางครั้งสภาวะทางจิตใจก็อาจจะเป็นปัญหา คุณควรพบจิตแพทย์ที่จะช่วยให้คุณลดความกังวลหรือปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลไปถึงสภาพวะทางเพศของคุณภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอาจจะเกิดจาก :
บางครั้งภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคุณอาจเกิดจากโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา หรือความดันโลหิตสูงหรือปัญหาอื่น การรักษาโรคเหล่านั้นก่อนอาจจะช่วยปรับปรุงอาการเสื่อมสมรรถภาพของคุณได้เช่นกันภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอาจจะมีสาเหตุจากยา
ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอาจจะมีสาเหตุจากยาอื่น ๆ ที่คุณรับประทานเพื่อรักษาอาการป่วย เช่น:- ยาความดัน
- ยาโรคหัวใจ
- ยาแก้เครียด
- ยากันชัก
- ยารักษามะเร็ง
อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอาจจะเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน
บางครั้งการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตประจำวันอาจะทำให้อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคุณดีขึ้นได้ เช่นการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
หากคุณมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ข้อควรทราบคืออาการมักจะเกิดจากปัญหาสุขภาพหรือยาที่คุณทาน การรับการรักษาปัญหาสุขภาพหรือให้แพทย์ของคุณปรับยาที่คุณรับประทาน อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับบรรเทาอาการของคุณ หากคุณต้องการใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มักมีหลายทางเลือก ตัวยาหลากหลายในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทำงานในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน แต่อาจะทำให้เกิดผลข้างเคียง คุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหายาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ [ABTM id=1106]หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น