การนวดคืออะไร
ปัจจุบันมีการนวดหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการนวดเน้นส่วนต่างๆของร่างกาย นวดผ่อนคลาย หรือนวดเพื่อการรักษา การนวดคือการถูและรีดตามตัวโดยใช้มือ ระหว่างการนวด ผู้นวดจะกดเบาหรือแรงที่กล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆเพื่อลดความตึงและปวด ผู้นวดคือผู้ที่ฝึกมาเพื่อนวดโดยเฉพาะนี่คือการนวดชนิดต่างๆ และชนิดใดที่เหมาะสมกับคุณ
การนวดแบบสวีดิช
เป็นการนวดทั้งร่างกายอย่างนุ่มนวล- เป็นการนวดผ่อนคลายไม่หนักจนเกินไป
- ผอนคลายความเครียด
ผู้นวดจะใช้วิธีการนวดหลายแบบผสมกันคือ
- รีดกล้ามเนื้อ
- นวดยาวและต่อเนื่อง ทิศทางไปสู่หัวใจ
- นวดกดลึกและวน
- สั่นและตบเบาๆ
- หมุนข้อ
การนวดตัวด้วยหินร้อน
การนวดด้วยหินร้อนเหมาะกับผู้ที่ปวดและตึงกล้ามเนื้อ หรือเพียงอยากจะผ่อนคลาย การนวดคล้ายกับแบบสวีดิช แต่ผู้นวดจะใช้หินร้อนแทนหรือเพิ่มเติมจากการใช้มือ มันช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อ,เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดความเจ็บปวดโดยการใช้หินร้อน การนวดด้วยหินร้อนอาจช่วย- ลดความตึงของกล้ามเนื้อ
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด
- ลดความเจ็บปวด
- ช่วยให้ผ่อนคลาย
- ลดความเครียด
การนวดแก้ปวดหัวด้วยน้ำมันหอมระเหย
การนวดชนิดนี้ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการการปลอบประโลมทางอารมณ์ ซึ่งได้จากกลิ่นของน้ำมัน การนวดชนิดนี้จะช่วย การนวดน้ำมันหอมระเหย รวมการนวดที่เบาและนุ่มนวลเข้ากับการใช้น้ำมันหอมระเหย คุณสามารถเลือกน้ำมันหอมระเหยที่คุณชื่นชอบได้ ระหว่างการนวด ผู้นวดจะนวดคุณทั้งตัวและคุณจะได้หายใจเอากลิ่นนำ้มันหอมจากเครื่องกระจายกลิ่นและจากที่ดูดซึมผ่านผิวหนัง บางครั้งการนวดชนิดนี้อาจนวดเฉพาะแผ่นหลัง ไหล่และศีรษะก็ได้ คุณต้องถอดเสื้อผ้า อาจใส่ชุดชั้นในไว้ได้ การนวดด้วยน้ำมันหอมระเหย ใช้เวลา 60- 90 นาทีการนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก
การนวดนี้ใช้แรงกดมากกว่าแบบสวีดิช เหมาะกับผู้ที่มี่ปัญหาของกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ปวด,บาดเจ็บหรือการใช้กล้ามเนื้ออย่างไม่สมดุลย์ มันจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึง ช่วยลดการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังและลดความกังวล ระหว่างการนวด ผู้นวดจะนวดช้าๆและใช้ปลายนิ้วกดลึกๆ เพื่อลดความตึงของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชั้นลึกๆ คุณอาจเปลือยหรือใส่ชุดชั้นในก็ได้ การนวดใช้เวลา 60–90 นาที การนวดแบบนี้จะเข้มข้นกว่า แต่คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดการนวดแบบสปอร์ต
เป็นทางเลือกที่ดีหากคุณใช้กล้ามเนื้อซำ้ ๆ หรือมีการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ดังเช่นที่เกิดเมื่อเล่นกีฬา และยังเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณมีแนวโน้มจะบาดเจ็บ เพราะการนวดนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการกีฬา คุณอาจใช้การนวดแบบนี้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการกีฬา และยังใช้เพื่อลดความเจ็บปวด คลายความกังวลและความตึงของกล้ามเนื้อด้วย การนวดแบบสปอร์ต จะนวดทั้งตัวก็ได้ หรือจะนวดเฉพาะส่วนที่ต้องการเป็นพิเศษก็ได้ การนวดกดลึกอาจเปลี่ยนเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายก็ได้ตามความต้องการ การนวดจะใส่หรือถอดเสื้อผ้าก็ได้ หากจะใส่เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่บาง หลวมและผู้นวดสามารถเข้าถึงกล้ามเนื้อของคุณได้ เช่นเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นหลวมๆ การนวดนี้ใช้เวลา 60–90 นาทีการนวดคลายเส้น
เหมาะที่สุดกับผู้ที่บาดเจ็บ ปวดเรื้อรัง หรือมีภาวะพิเศษ บางครั้งบริเวณที่ตึงในกล้ามเนื้อที่เรียกว่าจุดกดเจ็บ ทำให้เกิดความเจ็บปวดในส่วนอื่นของร่างกายได้ การนวดชนิดนี้ลดความเจ็บปวดได้โดยเน้นนวดที่จุดกดเจ็บ การนวดชนิดนี้ใช้การนวดแบบแผ่กระจายและลื่นไหล ซึ่งนุ่มนวลและผ่อนคลาย ร่วมกับการนวดที่แรงขึ้นและกดลึก การนวดนี้นวดทั้งตัว แม้ว่าผู้นวดจะเน้นที่บริเวณของร่างกายที่ต้องการผ่อนคลาย คุณอาจใส่เสื้อผ้าที่บางเบาเพื่อสะดวกในการนวด การนวดนี้ใช้เวลา 60-90 นาทีการนวดเพื่อสุขภาพจุดสะท้อนฝ่าเท้า เป็นแบบไหน
การนวดชนิดนี้ดีต่อผู้ที่ต้องการผ่อนคลายหรือต้องการฟื้นฟูพลังของร่างกาย และคุณไม่ต้องการนวดทั้งตัวหรือไม่สุขสบายจากการที่ถูกสัมผัสมากๆ การนวดใช้การกดเบาถึงหนักลงบนจุดกดที่เท้า มือและหู คุณควรสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสวมสบายที่สามารถเข้าถึงขาของคุณได้ การนวดนี้ใช้เวลา30–60 นาที การนวดนี้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายและลดความเครียด,ความเจ็บปวดและความตึงของกล้ามเนื้อ เป็นการนวดแบบญี่ปุ่นซึ่ง :- ช่วยให้ผ่อนคลายและสงบ ทั้งร่างกายและจิตใจ
- ลดความเครียด ความกังวลและซึมเศร้า
- อาจช่วยลดการปวดศีรษะ
- ลดความตึงของกล้ามเนื้อ
การนวดแผนไทย
เหมาะกับผู้ที่ต้องการการนวดที่กระฉับกระเฉงขึ้น และต้องการลดและผ่อนคลายจากความเจ็บปวดและความเครียด และยังช่วยให้- เพิ่มความยืดหยุ่น
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด
- เพิ่มพลังงาน
ประวัติการนวดแผนไทย คืออะไร
การนวดแผนไทย คือการนวดศาสตร์บำบัดอย่างหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย และได้นำมาประยุกต์ใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ การนวดแผนไทยมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคบางอย่างได้ โดยการนวดแผนไทยนั้นจะเน้นที่การบีบ การดัดตัว การประคบ และการดึง รวมไปถึงการคลึง การนวดแผนไทยนั้นเป็นที่นิยมไปทั่วโลกเลยทีเดียวการนวดในขณะตั้งครรภ์
เป็นการนวดที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ช่วยลดความปวดเมื่อยของร่างกายจากการตั้งครรภ์ ลดความเครียดและคลายกล้ามเนื้อ คุณนวดได้ทุกช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ แต่บางที่หรือบางประเทศจะไม่นิยมให้นวดให้หากตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การนวดนี้ ใช้แรงกดน้อย คล้ายกับแบบสวีดิช ผู้นวดจะเน้นที่จุดเช่นหลังส่วนล่าง,สะโพกและขา คุณใส่เสื้อผ้าได้บางส่วนหรือเต็มที่ แล้วแต่สะดวก คุณจะนอนตะแคงบนโต๊ะที่ออกแบบพิเศษที่มีที่สำหรับวางท้อง หากคุณปวดน่องหรือส่วนใดของขา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนคนท้องนวดเท้าได้ไหม
เท้าจุดศูนย์รวมเส้นประสาทต่าง ๆ หากคนท้องนวดเท้าอาจส่งผลให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแท้งบุตร จึงไม่แนะนำให้คนท้องนวดเท้า หรืออาจจะนวดได้หากผู้นวดมีประสบการณ์สูงพอการนวดบนเก้าอี้
เหมาะกับผู้ที่ต้องการนวดอย่างเร็ว และเน้นที่คอ ไหล่และหลัง ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มนวดด้วย ช่วยลดความเครียดและทำให้ผ่อนคลาย การนวดใช้ความแรงน้อยถึงปานกลาง ระหว่างการนวดคุณไม่ต้องถอดเสื้อผ้า และนั่งบนเก้าอี้พิเศษ คุณจะนอนคว่ำและหน้าอกของคุณจะแนบกับเก้าอี้ ทำให้ผู้นวดนวดหลังของคุณได้ การนวดใช้เวลา 10–30 นาทีข้อห้ามในการนวดมีอะไรบ้าง
ในการนวดนั้นมีข้อห้ามอยู่บางประการที่ผู้นวดควรระมัดระวังโดยข้อห้ามในการนวดมีดังนี้- เป็นโรคผิวหนัง
- มีโรคประจำตัวกำเริบ
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- เบาหวาน
- มีไข้สูง
- มีอาการบาดเจ็บ กระดูกหักหรือเคลื่อนและร้าว
- เป็นโรคติดต่อ
- ผิวหนังมีบาดแผล
ค่าใช้จ่ายในการนวด
การนวดในไทย- หากเป็นการนวดไทย ราคาจะอยู่ราวๆ300 บาทต่อชั่วโมง
- การนวดแบบสวีดิช,สปอร์ต,นวดกล้ามเนื้อส่วนลึก,นวดด้วยหินร้อนและนวดน้ำมันหอมระเหยจัดเป็นการนวดที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ราว 1,000 บาทขึ้นไปต่อชั่วโมง
- การนวดจุดกดเจ็บ ส่วนใหญ่ทำโดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือนักกายภาพบำบัดในทีมกีฬาหรือสถานพยาบาล
- การนวด shiatsu และนวดบนเก้าอี้ หายากในไทย
- การนวดจุดสะท้อนฝ่าเท้า ค่าใช้จ่ายราว 200บาทต่อชั่วโมง
ใครที่ควรหลักเลี่ยงการนวด
แม้ว่าการนวดบำบัดโดยทั่วไปจะให้ประโยชน์ด้านการผ่อนคลายและสุขภาพ แต่ก็มีสถานการณ์หรือเงื่อนไขบางประการที่บุคคลควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการนวด ซึ่งรวมถึง:- การบาดเจ็บล่าสุด:ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ กระดูกหัก เคล็ด หรือกล้ามเนื้อฉีกขาด ควรหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณหรือใกล้กับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือรับคำแนะนำจากนักนวดบำบัดที่มีคุณสมบัติ
- แผลไหม้ บาดแผล หรือสภาพผิวหนัง:บุคคลที่มีแผลไหม้ บาดแผล รอยช้ำอย่างรุนแรง หรือมีสภาพผิวบางอย่าง เช่น ผิวหนังอักเสบ กลาก หรือโรคสะเก็ดเงิน ควรหลีกเลี่ยงการนวดบนหรือรอบๆ บริเวณที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแรงกดในการนวดอาจทำให้อาการเหล่านี้แย่ลงหรือทำให้รู้สึกไม่สบาย
- โรคติดต่อ:หากคุณเป็นโรคติดต่อ ติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือมีสภาพผิวหนังที่ติดต่อได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น หรือทำให้อาการของคุณเองแย่ลง
- ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด:ผู้ที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) หรือการใช้ยาลดความอ้วนควรหลีกเลี่ยงการใช้เนื้อเยื่อส่วนลึกหรือการนวดแรงๆ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการทำให้ลิ่มเลือดหลุดหรือทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ
- โรคติดเชื้อ:บุคคลที่เป็นโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดหรืออาการใดๆ ที่อาจติดต่อผ่านการสัมผัสทางกาย ควรหลีกเลี่ยงการนวดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
- ภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง:ภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงบางอย่าง เช่น ปัญหาหัวใจและหลอดเลือดที่รุนแรง ความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้ มะเร็ง หรือภาวะสุขภาพเรื้อรังอื่นๆ อาจต้องมีความระมัดระวังหรือคำปรึกษาจากผู้ให้บริการด้านการแพทย์ก่อนรับการนวด
- การตั้งครรภ์และภาวะที่มีความเสี่ยงสูง:บุคคลที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะผู้ที่มีการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีภาวะเฉพาะเจาะจง ควรหานักนวดบำบัดที่มีประสบการณ์ในการนวดก่อนคลอด จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงจุดกดทับและเทคนิคบางอย่างในระหว่างตั้งครรภ์
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/massage/art-20045743
- https://www.medicinenet.com/massage/definition.htm
- https://www.webmd.com/balance/guide/massage-therapy-styles-and-health-benefits
- https://www.nccih.nih.gov/health/massage-therapy-what-you-need-to-know
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น