วิธีรักษาส้นเท้าแตกที่บ้าน (How to Fix Cracked Heels at Home)

ส้นเท้าแตกเป็นปัญหาบริเวณเท้าที่พบบ่อย การสำรวจหนึ่งพบว่าร้อยละ 20 ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกามีประสบการณ์ผิวแตกที่เท้า ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ใหญ่ และเด็ก แต่ดูเหมือนว่าผลกระทบจะเกิดกับผู้หญิงได้บ่อยกว่าผู้ชาย สำหรับคนส่วนมากปัญหาส้นเท้าแตกไม่ใช่เรื่องร้ายแรง อาจทำให้รู้สึกไม่สบายเมื่อเดินเท้าเปล่า แต่บางกรณีรอยแตกที่ส้นเท้าอาจลึกมาก และทำให้เกิดความเจ็บปวดได้

วิธีรักษาส้นเท้าแตกที่บ้าน

1.ใช้ครีมทาส้นเท้าแตกหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดเข้มข้น แนวทางแรกของการรักษาส้นเท้าแตกคือการใช้บาล์มส้นเท้า บาล์มเหล่านี้มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ระวังส่วนผสมต่อไปนี้:
  • ยูเรีย (Flexitol Heel Balm)
  • กรดซาลิไซลิก (Kerasal)
  • กรดอัลฟา – ไฮดรอกซี (Amlactin)
  • แซคคาไรด์ไอโซเมต
เคล็ดลับวิธีแก้เท้าแตก
  • ทาบาล์มบำรุงส้นเท้าในตอนเช้าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวก่อนเริ่มวันใหม่
  • เพิ่มความชุ่มชื้นส้นเท้า 2 ถึง 3 ครั้งต่อวัน
  • สวมรองเท้าที่ป้องกันส้นเท้าของคุณ
บาล์มส้นเท้าบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการแสบคัน หรือระคายเคืองเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องปกติ ปรึกษาแพทย์หากบาล์มทำให้รู้สึกไม่สบาย หรือทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรง ส้นเท้าแตกในกรณีรุนแรงอาจต้องใช้ยาเนื้อครีมที่แพทย์สั่งจ่าย หรือครีมสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ และบรรเทาอาการคัน
  1. แช่เท้าและขัดผิว
ผิวหนังบริเวณส้นเท้าที่แตกมักหนาและแห้งกว่าผิวส่วนอื่น ๆ ผิวหนังลักษณะนี้มีแนวโน้มแตกออกเมื่อถูกแรงกด การแช่เท้าให้ชุ่มชื้นสามารถช่วยได้ นี่เป็นเพียงเคล็ดลับบางประการ วิธีการแช่เท้า:
  1. แช่เท้าในน้ำสบู่อุ่น ๆ นาน 20 นาที
  2. ใช้ใยบวบขัดเท้า หรือหินภูเขาไฟเพื่อขจัดผิวหนังที่แข็งและหนาออก
  3. ค่อย ๆ ซับเท้าให้แห้ง
  4. ทาบาล์มส้นเท้า หรือมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อข้น ๆ บริเวณที่มีปัญหา
  5. ทาปิโตรเลียมเจลลี่ให้ทั่วเท้าเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ใส่ถุงเท้าเพื่อไม่ให้เนื้อครีมกระจายไปรอบ ๆ
หลีกเลี่ยงการขัดเท้าขณะที่เท้าแห้ง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้ผิวเสีย สามารถลองใช้ปลอกหุ้มส้นเท้าเพื่อรักษาความชุ่มชื้น สิ่งนี้ให้ผลคล้ายกับการแช่เท้า ปลอกหุ้มส้นเท้าเป็นเหมือนถุงเท้าที่มีน้ำมันและวิตามินที่ช่วยในการบำบัดอาการผิวแห้งแตกได้How to Fix Cracked Heels at Home
  1. พลาสเตอร์เจล แบบเหลว
สามารถใช้พลาสเตอร์เจล แบบเหลวกับรอยแตกเพื่อประสานรอยแผล และป้องกันการติดเชื้อ หรือลดการแตกของแผลเพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์นี้จะอยู่ในรูปแบบสเปรย์ แสดงว่าผู้ที่ส้นเท้าแตกสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าพลาสเจอร์ยาจะหลุดออก พลาสเตอร์เจล แบบเหลวคือตัวเลือกที่ดีในการรักษาส้นเท้าที่รอยแตกค่อนข้างลึก หรือมีเลือดออก ใช้พลาสเตอร์เจล แบบเหลวกับผิวที่สะอาดและแห้ง ในขณะที่รอยแตกหายดี การเคลือบจะอยู่เฉพาะที่ผิวหนังเท่านั้น มีรายงานผลสำเร็จของการรักษาด้วยกาวพิเศษที่ใช้ปิดรอยแตกของผิวหนัง มีกรณีศึกษาในปี 1999 สังเกตเห็นคน 10 คนที่ใช้ซูเปอร์กาว 2 ถึง 3 หยดบนรอยแตกแต่ละครั้ง จะสามารถประสานรอยแตกเข้าด้วยกันเป็นเวลา 60 วินาที จนแผลประสานกันได้ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมาพบว่ารอยแตกถูกปิดสนิท และปราศจากความเจ็บปวด แต่ซูเปอร์กาวในเชิงพาณิชย์อาจยังต้องทำการทดสอบต่อไป
  1. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นสารตามธรรมชาติที่สามารถช่วยรักษาส้นเท้าแตกได้ จากผลการทดสอบในปี 2012 พบว่าน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพ และต้านเชื้อแบคทีเรีย การวิจัยแสดงให้เห็นว่าน้ำผึ้งสามารถรักษา ทำความสะอาดบาดแผล และทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น สามารถใช้น้ำผึ้งเป็นตัวขัดเท้าหลังจากแช่เท้ามาแล้ว หรือใช้เป็นมาส์กเท้าข้ามคืนได้
  1. น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวแห้ง โรคกลาก และโรคสะเก็ดเงิน สามารถช่วยให้ผิวของคงความชุ่มชื้น  การใช้น้ำมันมะพร้าวหลังแช่เท้าถือเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน คุณสมบัติต้านการอักเสบ และต้านจุลชีพของน้ำมันมะพร้าวอาจทำให้ส้นเท้าแตกลดโอกาสที่จะมีเลือดออก หรือติดเชื้อได้
  1. การเยียวยาด้วยวิธีทางธรรมชาติอื่น ๆ
วิธีรักษาที่บ้านยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับส้นเท้าแตก แม้จะยังไม่มีผลการพิสูจน์ว่าสามารถรักษารอยแตกได้ แต่ส่วนมากคือการรักษาที่เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้น และทำให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น สิ่งเหล่านี้ ได้แก่ :
  • น้ำส้มสายชูสำหรับแช่เท้า
  • น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันพืชอื่น ๆ ที่ให้ความชุ่มชื้น
  • เชียร์บัตเตอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  • กล้วยบดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  • ขี้ผึ้งพาราฟินเพื่อกักเก็บความชื้นเอาไว้
  • ข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำมันสำหรับขัดผิว
  1. ใช้ที่ขูดส้นเท้าแตก
เป็นอุปกรณ์ทั่วไปสำหรับการดูแลสุขภาพ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าความงาม หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป

ข้อควรระวัง

อย่ารักษาส้นเท้าแตกด้วยตัวเองหากเกิดจากปัญหาเกิดจากปัญหาด้านสุขภาพ อาจต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเท้า นอกจากนี้ควรทำการประเมินอาการกรณีที่ส้นเท้าแตกอย่างรุนแรงโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเท้า และต้องพิจารณาประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถแนะนำวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด