ประโยชน์ของการเดินป่า (Hiking Benefits)

ฉันจะเเชร์เรื่องราวของฉันให้คุณฟังกัน เดิมเเล้วฉันไม่ได้มีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉงเหมือนทุกวันนี้ เพราะปกติหลังเลิกเรียนฉันก็ไม่ได้ดูแลตัวเองดีมาก เเละก็ไม่รู้จะเริ่มออกกำลังกายกลางเเจ้งอย่างไรดี  ด้วยความที่อายุเพิ่มขึ้น ฉันจึงตระหนักได้ว่าฉันต้องเปลี่ยนวีถีชีวิตปกติที่เป็นอยู่เเละฉันก็อยากใช้เวลาอยู่ข้างนอกมากขึ้น ฉันพอรู้อยู่เเล้วว่าการเดินป่ามีประโยชน์หลายอย่าง ฉันจึงเลือกการเดินป่าและแบกเป้เที่ยวกับเพื่อน ๆ เป็นตัวเลือกในการออกกำลังกายเเละทำกิจกรรมกลางเเจ้ง ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เมื่อความมั่นใจของฉันเพิ่มขึ้น ทักษะกลางแจ้งและความสามารถในการเดินทางไกลและการแบกเป้ทางไกลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป ฉันได้คุ้นชินกับกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันไปตลอดกาลเลย 10 ปีต่อมา การเดินป่ากระตุ้นให้ฉันอยากจะเชิญชวนเเละสนับสนุนให้คนอื่นออกไปข้างนอก เเละซึมซับประโยชน์ของการเดินป่าด้วยตัวเอง สำหรับฉันเเล้วการเดินป่านั้นลึกซึ้งและฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้ก็เหมาะและดีสำหรับคุณเช่นกัน แล้วทำไมต้องปีนเขาด้วยหล่ะ เพราะการเดินป่ามีประโยชน์ที่เห็นได้ชัดมากมาย เช่น การออกกำลังกายที่ดีและการออกไปข้างนอกเชยชมธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเหตุผลในการเดินป่ามีมากกว่าประโยชน์ทางสุขภาพอนามัยของคุณ เพราะมันช่วยให้คุณช่วยค้นหาชีวิตที่คุณต้องการจริงๆ มีเวลาคิดอยู่กับธรรมชาติเเลพบริหารร่างกายให้มีสุขภาพดี มีความสุขมากขึ้น ฉันจะเสริมด้วยว่าตอนนี้การมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมีความสำคัญมากซึ่งคุณสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้วิธีอย่างธรรมชาติได้ด้วยการเดินป่า  จากทฤษฎีเป้าหมายของ Bearfoot กล่าวไว้ว่า การผลักดันให้ผู้คนทั่วไปออกไปข้างนอกเพื่อเพลิดเพลินกับธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้งนั้นเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณยังใหม่ต่อการผจญภัยกลางแจ้ง ลองดูคู่มือการเดินป่า 101 ของเราที่นี่ การเดินป่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเก็บเกี่ยวผลเชิงบวกจากการออกกำลังกายกลางแจ้ง 

อ่านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของการเดินป่า

ประโยชน์ทางกายภาพของการเดินป่า

ฉันจะเริ่มต้นด้วยการแบ่งปันประโยชน์บางประการของการเดินป่าเพื่อสุขภาพร่างกายของคุณ แม้ว่าประโยชน์ทางกายภาพบางอย่างอาจชัดเจน เช่น การลดน้ำหนัก การเดินป่าก็มีประโยชน์ที่น่าประหลาดใจเช่นกัน

การเดินป่าเป็นสิ่งที่ดีต่อหัวใจ

การเดินป่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แม้แต่การเดินป่าแบบเบา ๆ ก็สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางกายและความอดทนแบบแอโรบิกได้ เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายของคุณจะปรับตัวเข้ากับระดับความฟิตใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเดินป่าได้นานขึ้น เร็วขึ้น และหนักขึ้น โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือหมดแรง การเดินป่ายังช่วยปรับปรุงจุดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และคอเลสเตอรอล การศึกษาพบว่าการเดินป่าในระดับปานกลางเป็นประจำสามารถลดความดันโลหิตสูงได้ สามารถปรับปรุงกลูโคส และลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี  ดังนั้น หากสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นปัญหาสำหรับคุณ การเดินป่าอาจเป็นวิธีที่ดีในการช่วยพัฒนาสุขภาพหัวใจของคุณได

การเดินป่าช่วยปรับสมดุลร่างกาย

ฉันจะเริ่มต้นด้วยการแบ่งปันว่าความสมดุลนั้นไม่ได้เป็นของคู่ใจฉันเสมอไป การข้ามลำธารและทุ่งหินสามารถทำให้ฉันเกิดความวิตกกังวลได้ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันชอบเดินป่าโดยใช้ไม้ค้ำ อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ฉันท้าทายตัวเอง ฉันสังเกตเห็นว่าการทรงตัวของฉันดีขึ้น พอเมื่อหมดหน้าร้อน ฉันจะเห็นว่าความสมดุลของฉันดีขึ้นมาก  ในขณะที่คุณเดินไปตามเส้นทาง กล้ามเนื้อขาและแกนกลางของคุณจะมีส่วนร่วมและหดตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความมั่นคงและทรงตัวบนพื้นที่ไม่ราบ กล้ามเนื้อแกนกลางเหล่านี้จะแข็งแรงขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปก็จะส่งผลให้ความสมดุลดีขึ้นเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่แค่การรักษาความสมดุลร่างกายเท่านั้น การเดินป่ายังช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นการรับรู้ของจิตใจเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของร่างกายที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม ขณะที่คุณปีนเขา สมองจะประมวลผลต่างๆ เเม้กระทั่งก้อนหินทุกก้อนและรากไม้ทุกต้น สมองจะประเมินว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อก้าวข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ พวกนี้ สมองจะเชี่ยวชาญมากขึ้นในการเรียนรู้เเละเจออุปสรรคเหล่านี้บ่อยๆ ด้วยการฝึกฝน จึงส่งผลให้เกิดความสมดุลดีขึ้น เมื่อเราอายุมากขึ้น การรักษาสมดุลเพื่อป้องกันการหกล้มเป็นสิ่งสำคัญมาก การเดินป่าเป็นวิธีที่สนุกในการพัฒนาความสมดุลร่างกายในขณะที่ใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง

การเดินป่าช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าประโยชน์อย่างหนึ่งของการเดินป่าคือช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่ขาและแกนกลางลำตัวให้มั่นคงเพื่อพัฒนาการทรงตัว แต่การเดินป่ายังทำให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกายแข็งแรง ซึ่งรวมทั้งแขนและหลังอีกด้วย อันที่จริงการเดินป่าเป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมสำหรับกล้ามเนื้อหลักเกือบทุกกลุ่มในร่างกายเลยนะ การเดินขึ้นเนินจะเป็นการเล่นกล้ามเนื้อตะโพก กล้ามเนื้อขา เอ็นร้อยหวาย และน่อง ในขณะที่การเดินลงเนินจะเป็นการใช้ข้อเท้า สะโพก และแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อแขนและหลังสามารถแข็งแรงขึ้นได้ขณะเดินป่าโดยใช้ไม้ค้ำขณะเดินหรือแบกเป้ขนาดปานกลางถึงหนัก ลองศึกษาวิธีการเลือกชุดเดินป่าที่ดีได้ที่นี่ ถ้าการไปยิมไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับคุณ ลองไปปีนเขาดูดีไหม การปีนเขาเป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมที่บริหารทุกส่วนในร่างกายของคุณ ซึ่งสิ่งที่เราจะพูดถึงด้านล่างนี้ มันเป็นวิธีที่ดีในการทำให้จิตใจสงบและปลดปล่อยความเครียดได้ด้วย

การเดินป่าสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้

ความหนาแน่นของกระดูกหมายถึงปริมาณแร่ธาตุในกระดูกของคุณ ความหนาแน่นของกระดูกที่สูงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันกระดูกหักและลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน กิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูงและมีน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น การเดินป่า สามารถช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกด้วยการเสริมสร้างเนื้อเยื่อกระดูกขึ้นได้ แต่การเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกให้มีประสิทธิภาพด้วยการทำกิจกรรมเหล่านี้ คุณต้องทำในระดับปานกลางถึงสูง ตัวอย่างเช่น ผลจากการปีนเขาบนทางชันมีประโยชน์ต่อการสร้างความหนาแน่นของกระดูกมากกว่าการเดินป่าบนทางเรียบ

การเดินป่าช่วยลดน้ำหนัก

แม้ว่าเป้าหมายนี้อาจไม่ใช่เป้าหมายของทุกคน แต่ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก การปีนเขาก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน ฉันลดน้ำหนักจากการปีนเขาเกือบ 40 ปอนด์เเหนะ เเต่ก็สนุกดี คือจริงๆ ก็ไม่ได้สนุกตลอดเเต่ก็ดีกว่าไปเข้ายิมอะนะ จำนวนแคลอรีที่เผาผลาญระหว่างการเดินป่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนัก เพศ และความหนักในการออกแอโรบิก แม้แต่การเดินป่าเบาๆ ก็อาจส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ทีละน้อย คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายสำหรับผู้ใหญ่คืออย่างน้อย 150 นาทีหรือ 2.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากเป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนัก ให้ลองเริ่มต้นด้วยการเดินป่าเป็นเวลา 50 นาที สามครั้งต่อสัปดาห์ในเส้นทางชนบทใกล้บ้านคุณ  ฉันเริ่มเดินป่าครั้งแรกในปี 2549 ตอนฉันไปพักร้อนที่เกาะฮาวาย ซึ่งช่วยให้ฉันลดน้ำหนักและเปลี่ยนตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ hiking benefits

ประโยชน์ทางจิตใจและอารมณ์ของการเดินป่า

การเดินป่าช่วยลดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิต

มีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่าการเชื่อมโยงกับธรรมชาติช่วยปรับปรุงสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าเราจะถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินหรือมองดูทุ่งดอกไม้ป่า ประสบการณ์สั้นๆ ที่รู้สึกว้าว จากธรรมชาติก็สามารถทำให้เรามีความสุขและเครียดน้อยลงได้ การอาบป่าเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นวิถีปฏิบัติของคนญี่ปุ่นที่นำการเดินป่ามาเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้งและตัดขาดจากโลกดิจิทัล การใช้เวลาในธรรมชาติสามารถทำให้เกิดความรู้สึกในตัวเองน้อยลงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ใหญ่กว่าและทรงพลังกว่า พอล พิฟ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและพฤติกรรมทางสังคมที่ UC Irvine กล่าวไว้ว่าความรู้สึกนี้สามารถขจัดความเครียดและกระตุ้นให้เกิดทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิตมากขึ้น ในโลกปัจจุบัน ความเครียดและความเจ็บป่วยทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก แต่การใช้เวลากับธรรมชาติสามารถช่วยนำเรากลับมาสู่ปัจจุบันและทำให้ชีวิตที่วุ่นวายของเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นได้

การเดินป่าช่วยให้เราพักจากเทคโนโลยีได้

ขอขยายความในประเด็นที่แล้ว….เราพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณ แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เวลาอยู่หน้าจอของฉันก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าเทคโนโลยีจะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นมาก แต่ก็มาพร้อมกับผลที่ไม่คาดคิดเช่นกัน การใช้ชีวิตผ่านโทรศัพท์และโซเชียลมีเดียอาจส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการเสียเวลาครั้งใหญ่ แอปโซเชียลมีเดียได้รับการออกแบบมาให้เราเสพติดได้ ยากที่จะวางโทรศัพท์ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องรักษาสมดุลและพักเป็นครั้งคราว…..ซึ่งวิธีใดเล่าจะดีไปกว่าการเดินป่า การปิดโทรศัพท์และออกไปเดินป่าเป็นโอกาสที่จะได้อยู่กับปัจจุบันและตัดขาดจากแรงกดดันที่เรามักรู้สึกเมื่อต้องเลื่อนหน้าจอ

การเดินป่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพตนเองเเละนับถือในความตั้งใจของตน

เวลาทำเรื่องยากๆ อาจจะไม่รู้สึกดีตอนทำเท่าไหร่ แต่ทีหลังพอทำสำเร็จความรู้สึกจะก็ดีดีไปอีกเเบบ เมื่อคุณท้าทายตัวเอง ความสำเร็จนั้นสามารถนำไปสู่ความนับถือตนเองที่ดีขึ้นได้ ผลการศึกษาในปี 2010 พบว่าการออกกำลังกายกลางแจ้งเพียง 5 นาทีก็ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ลองนึกภาพว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรหลังจากวันที่อยู่บนเส้นทางการเดินป่านี้ การเดินป่าอาจทำให้คุณรู้สึกแข็งแรงขึ้น มีความสามารถมากขึ้น มีอิสระภาพมากขึ้น และพร้อมที่จะรับมือกับโลกภายนอกที่คุณต้องเผชิญ

การเดินป่าสามารถบรรเทาอาการนอนไม่หลับและช่วยเรื่องการนอนหลับได้

การวิจัยพบว่าการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับและพัฒนารูปแบบการนอนหลับได้ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะไม่ค่อยแน่ใจว่าการออกกำลังกายว่าสามารถทำได้อย่างไรหรือเพราะเหตุใด แต่อาจเกี่ยวข้องกับความสามารถในการรักษาอารมณ์ให้คงที่และคลายจิตใจ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจสามารถผ่อนคลายได้ อีกทฤษฎีหนึ่งคือ การอยู่ข้างนอกและรับแสงธรรมชาติอาจส่งผลต่อรูปแบบการนอน ในหนังสือของเขาเรื่อง Sleep Smarter ชอว์น สตีเวนสันอธิบายว่าการได้รับแสงแดด โดยเฉพาะในตอนเช้า มีความสำคัญต่อการผลิตเมลาโทนินหรือฮอร์โมนการนอนหลับในเวลากลางคืนได้ ดังนั้น หากคุณต้องการเหตุผลอื่นในการเริ่มเดินป่า การนอนหลับให้เพียงพอถือเป็นข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบ

การเดินป่าช่วยเพิ่มความจำและการทำงานของสมอง

เมื่อคุณเดินขึ้นเขา เลือดจะไหลเวียนไปยังสมอง นำออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญไปด้วย จากการศึกษาพบว่าการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทในส่วนต่าง ๆ ของสมองที่มีหน้าที่ในการจำและการทำงานของสมอง นักวิจัยพบว่าผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายในช่วงสั้นๆ มีความจำที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ออกกำลังกาย บ่อยครั้งเราคิดว่าเรายุ่งกับงานมากเกินกว่าจะเดินป่า เราบอกตัวเองว่าเราแค่ต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และมองข้ามสิ่งต่างๆ ในรายการสิ่งที่ต้องทำ อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายข้องนอกสามารถช่วยโฟกัสและปรับปรุงความสามารถของเราในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เวลาที่เราใช้คอมพิวเตอร์ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเดินป่าสร้างเครือข่ายชุมชน สังคมขึ้น

การเดินป่าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างชุมชน ไม่เพียงแต่จะสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ได้เท่านั้น แต่กิจกรรมกลุ่มยังให้การสนับสนุนทางสังคมและสามารถชดเชยความรู้สึกสงสัย กังวล หรือกลัวได้ หากคุณไม่แน่ใจว่าจะหาพันธมิตรเดินป่าได้ที่ไหนหรืออย่างไร มีแหล่งข้อมูลออนไลน์มากมาย เช่น MeetUp.com หรือกลุ่มและองค์กรใน Facebook ในท้องถิ่น เช่น Women Who Hike ที่จัดกลุ่มเดินป่าและออกนอกบ้าน สถานที่อื่นๆ ที่น่าจับตามองคือคลับกลางแจ้ง เช่น Sierra Club หรือคุณอาจสมัครเรียนกลางแจ้งผ่าน REI หรือลงทะเบียนในโปรแกรมการศึกษากลางแจ้ง เช่น NOLS หรือ Outward Bound หากคุณต้องการชุมชนมากขึ้นในชีวิต ลองเดินป่าดู เป็นวิธีที่ดีในการพบปะเพื่อนใหม่และคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน ในระยะยาว การเดินป่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คุณสามารถพัฒนาสุขภาพร่างกายและเพิ่มความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีทั้งในด้านสังคมและอารมณ์ ซึ่งเป็นยาแก้พิษที่สำคัญต่อความเครียดของโลกสมัยใหม่ ตามที่ร่างกายและจิตใจของคุณจะแสดงให้คุณเห็น เวลาใดๆ ที่ใช้ในธรรมชาตินั้นดีต่อจิตวิญญาณ ในขณะที่วิทยาศาสตร์ก็สนับสนุนประเด็นนี้เช่นกัน หลักฐานที่ดีที่สุดคือความรู้สึกของคุณเมื่อสิ้นสุดการปีนเขา ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มบนใบหน้า แขนขาที่อ่อนล้า และการกลับมาใหม่หลังจากวันที่ดีภายนอก

เตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน

  • พกพาโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมที่ชาร์จเต็มไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีแหล่งพลังงานสำรองหรืออุปกรณ์ชาร์จแบบพกพา
  • ทำความคุ้นเคยกับเทคนิคการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน และพกชุดปฐมพยาบาลที่เตรียมไว้อย่างดีพร้อมอุปกรณ์สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บทั่วไปจากการเดินป่า เช่น แผลพุพอง บาดแผล เคล็ดขัดยอก และแมลงสัตว์กัดต่อย
  • รู้วิธีรับรู้และตอบสนองต่อสัญญาณของการเจ็บป่วยจากความสูง ความเหนื่อยล้าจากความร้อน อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ และเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมกลางแจ้ง
การทำตามขั้นตอนสำคัญเหล่านี้เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเดินป่า ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลินบนเส้นทาง พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินได้ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกและคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของคุณขณะสำรวจกิจกรรมกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม คุณเคยได้รับประโยชน์จากการเดินป่าบ้างหรือไม่ ลองแบ่งปันเรื่องราวของคุณโดยเขียนเเสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด