ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคืออะไร
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน คือ ยาคุมกำเนิดที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการป้องกัน หากเชื่อว่าวิธีการคุมกำเนิดอาจล้มเหลวหรือไม่ได้ใช้ใด ๆ ในการป้องกันการตั้งครรภ์ ยาคุมฉุกเฉินอาจช่วยคุณได้ชนิดของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีสองรูปแบบ :ชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และแบบห่วงคุมกำเนิด (IUD)ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 1 เม็ด
ชนิด | ฮอร์โมน | ความสามารถ | ประสิทธิภาพ | ราคา |
แพลนบี วัน-สเต็ป เทค แอคชั่น อาฟเตอร์พิว | เลโวนอร์เจสเทริล | สามารถหาได้ตามร้าขายยาทั่วไปหรือแพทย์สั่ง | 75-89% | $25-$55 |
เอลล่า | ulipristal acetate | ตามแพทย์สั่ง | 85% | $50-$60 |
แบบห่วงคุมกำเนิดยี่ห้อ ParaGard
ชนิด | ความสามารถ | ประสิทธิผล | ราคา |
อุปกรณ์ชนิดห่วง | ต้องใส่โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลีนิค | มากถึง99.9% | $900ขึ้นไป (ครอบคลุมในแผนการประกันภัย) |
ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน
คุณสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีการป้องกัน หรือคิดว่าการคุมกำเนิดอาจล้มเหลวจากสถานการณ์บางอย่างเช่น:- ถุงยางอนามัยแตกรั่ว หรือลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
- เมื่อคิดว่าการคุมกำเนิดอาจล้มเหลวเพราะยารักษาโรคที่รับประทาน
- มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
- โดนคุกคามทางเพศ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน | ควรรับประทานเมื่อ |
ยาเม็ดคุมกำเนิด แพลนบี | ภายในสามวันหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน |
ยาเม็ดเอลล่า | ภายใน 5 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน |
ห่วงคุมกำเนิดพาราการ์ด | ต้องใส่ห่วงภายใน 5 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน |
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินคือยาที่จัดว่ามีความปลอดภัยมากพอสำหรับคนทั่วไป แต่อาจส่งผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินที่พบได้ไม่บ่อยนักของยาเม็ดคุมกำเนิดทั้งสองชนิด คือ:- มีเลือดออกระหว่างมีประจำเดือน
- คลื่นไส้
- อาเจียนหรือท้องเสีย
- เจ็บหน้าอก
- รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- ปวดเกร็งและปวดหลังหลายวันหลังการใส่ห่วงคุมกำเนิด
- มีเลือดออกกระปริดประปรอยระหว่างมีรอบเดือน
- มีเลือดออกในรอบเดือนมากและปวดประจำเดือนรุนแรงและ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ยังไม่เคยมีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาการส่วนใหญ่จะบรรเทาลงภายใน 1 หรือ 2 วัน ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ใช้ห่วงคุมกำเนิดก็ยังไม่เคยเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย พบได้น้อยมากที่จะเกิดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจเป็นดังต่อไปนี้:- มีการติดเชื้อแบคทีเรียในระหว่างหรือหลังการใส่ห่วงใหม่ๆ ซึ่งอาจต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
- ห่วงคุมกำเนิดแทงทะลุเนื้อเยื่อมดลูกซึ่งจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อนำออกไป
- ห่วงคุมกำเนิดอาจมีการเลื่อนหลุด ส่งผลให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ได้ผลและจำเป็นต้องไปทำการใส่ใหม่อีกครั้ง
- ความยาวของสายรัดห่วงคุมกำเนิดมีการเปลี่ยนแปลง
- การหายใจมีปัญหา
- มีอาการไข้หรือหนาวสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เจ็บหรือมีเลือดออกในระหว่างมีเพศสัมพันธ์หลังมีการใส่ห่วงครั้งแรกไปสองสามวัน
- คิดว่าอาจตั้งครรภ์
- รู้สึกว่าห่วงคุมกำเนิดร่วงลงมาที่ปากมดลูก
- มีอาการปวดเกร็งที่ท้องอย่างรุนแรงหรือมีเลือดออกมาก
ลำดับต่อไปหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ยังคงใช้ในการคุมกำเนิดและป้องกัน
เมื่อคุณเคยใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ควรใช้วิธีในการคุมกำเนิดต่อไปเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรถูกนำมาใช้บ่อยตรวจการตั้งครรภ์
ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 1 เดือนหรือประจำเดือนขาดหายไป หากรอบเดือนมาช้าและผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นลบ ให้คอยอีก 2-3 สัปดาห์และตรวจใหม่อีกครั้ง แพทย์อาจใช้ผลการตรวจปัสสาวะและเลือดเพื่อระบุผลหากคุณตั้งครรภ์ การตรวจนี้สามารถระบุการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ได้รับการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
หากคุณมีแนวโน้มว่าอาจติดโรคทางเพศสัมพันธ์ (STIs) โทรหาสูตินรีเวชหรือคลินิคเช่นศูนย์วางแผนครอบครัวเพื่อทำการนัดตรวจ การตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมไปถึงการตรวจตกขาวเพื่อหาเชื้อโรคหนองใน คลามีเดียและโรคพยาธิในช่องคลอด การตรวจเลือดยังสามารถตรวจหาโรคเอชไอวี ซิฟิลิสและโรคเริมที่อวัยวะเพศ ในบางรายแพทย์อาจสั่งตรวจทันทีและตรวจซ้ำอีกครั้งอีก 6 เดือนเพื่อหาเชื้อเอชไอวีควรทำอย่างไรหากการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินล้มเหลว
ในขณะที่การทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินมีอัตราความสำเร็จสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่อาจไม่ได้ผล หากผลการตรวจการตั้งครรภ์ออกมาเป็นบวก ควรปรึกษาแพทย์ หากคุณตัดสินใจที่จะตั้งครรภ์ต่อแพทย์อาจช่วยจัดกลุ่มการดูแลก่อนคลอดให้แต่หากว่าคุณไม่ต้องการตั้งครรภ์ลองปรึกษาแพทย์และค้นคว้าหาตัวเลือก หากคุณตัดสินใจจะยุติการตั้งครรภ์ มีการยุติการตั้งครรภ์หลายรูปแบบให้คุณเลือกได้ ขึ้นอยู่กับรัฐที่คุณอาศัยอยู่ ปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสม หากการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินล้มเหลวคำถามที่พบบ่อย
ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน
หากเป็นไปได้ควรรับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ยาคุมฉุกเฉินต้องกินภายในกี่ชั่วโมง
หากเป็นไปได้ควรรับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แต่ควรรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง และยาเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมงวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน
ควรรับประทานยาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 85% หรือยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง และยาเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมง หากรับประทานตามนี้จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75% และไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินหากไม่มีความจำเป็นข้อควรระวังในการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉิน (ECP) ข้อควรรู้- ประสิทธิผลภายในกรอบเวลา: ECP จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อดำเนินการเร็วขึ้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน แนะนำให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) ของการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน แต่ตัวเลือกบางอย่างอาจใช้ได้ผลภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังจากนั้น
- ไม่ใช่รูปแบบการคุมกำเนิดแบบปกติ:ไม่ควรใช้การคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นรูปแบบการคุมกำเนิดแบบปกติ วิธีการคุมกำเนิดแบบปกติ เช่น ยาเม็ด แผ่นแปะ ถุงยางอนามัย ฯลฯ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น:ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจรวมถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ รู้สึกกดเจ็บเต้านม หรือการเปลี่ยนแปลงของรอบประจำเดือน หากคุณพบผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือต่อเนื่อง
- ความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพกับน้ำหนัก:มีข้อเสนอแนะบางประการว่าประสิทธิผลของการคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจลดลงในบุคคลที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงกว่า แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในกรณีเช่นนี้
- ข้อห้าม: ECP อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน บุคคลที่มีอาการป่วยบางประการหรือกำลังใช้ยาเฉพาะควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
- ไม่ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs): ECP ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อรอบประจำเดือน:การคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจส่งผลต่อจังหวะเวลาและการไหลเวียนของประจำเดือนครั้งต่อไป หากประจำเดือนมามากกว่านั้น
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/emergency-contraception
- https://www.nhs.uk/conditions/contraception/emergency-contraception/
- https://www.nhs.uk/conditions/contraception/how-effective-emergency-contraception/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น