ไหมขัดฟัน (Dental Floss) – ชนิด วิธีใช้

ไหมขัดฟันคือ อะไร

ไหมขัดฟันใช้อย่างไร

1. ดึงไหมขัดฟันให้ยาวราว 18 ถึง 24 นิ้ว ถือเชือกไหมขัดฟันให้ถูกตำแหน่ง พันไหมรอบนิ้วกลางทั้งสองข้าง เหลือทิ้งไว้ราว 1 ถึง 2 นิ้วเพื่อใช้ขัดฟัน
2. ถัดมา ดึงไหมขัดฟันให้ตึงด้วยนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้
3. นำไหมขัดฟันขัดระหว่างซอกฟัน ดึงไหมขัดฟันขึ้นลงเบาๆ  ถูที่ด้านข้างฟันทั้งสองข้างของฟันแต่ละซี่ อย่าใช้ไหมขัดฟันขัดโดนบริเวณเหงือก อาจทำให้รอยขีดข่วน หรือรอยช้ำกับเหงือกได้
4. เมื่อไหมขัดฟันลงไปถึงเหงือก ให้ดึงไหมขัดฟันเป็นรูปทรงตัวซีตรงฐานฟัน เพื่อทำให้ไหมเข้าไประหว่างซอกฟัน และเหงือกได้
5. ทำซ้ำตามขั้นตอนเดิมในฟันแต่ละซี่ในฟันแต่ละซี่ให้ใช้ไหมขัดฟันใหม่ทุกครั้ง

วิธีที่ดีที่สุดในการใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน 

1. ดึงไหมขัดฟันเคลือบขี้ผึ้งยาวราว 18 ถึง 24 นิ้ว
2. ยืนอยู่หน้ากระจกเพื่อให้แน่ใจว่าไหมขัดฟันจะไปในตำแหน่งที่คุณต้องการ
3. เริ่มร้อยไหมขัดฟันเข้าไประหว่างซอกฟันกับเส้นลวด หมุนปลายไหมขัดฟันรอบนิ้วชี้เพื่อที่คุณจะได้ขยับไหมขัดฟันไปรอบๆได้ง่ายขึ้น
4. กดไหมขัดฟันลงระหว่างฟันทั้งสองซี่ให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นขยับไหมขัดฟันขึ้น และลงไปด้านข้างของฟันทั้งคู่
5. เมื่อขัดฟันด้านบนให้ทำไหมขัดฟันเป็นรูปตัวยูกลับหัว โดยทำดังนี้ ดึงขึ้นบนไปตามด้านข้างของฟันจนกระทั่งถึงขอบเหงือก จากนั้นเลื่อนไหมขัดฟันไปที่อีกข้างหนึ่งของฟัน
6. ย้ายไหมขัดฟันเบาๆ และระมัดระวังออกจากด้านหลังของลวดดัดฟัน หลีกเลี่ยงการทำไหมขัดฟันกระเด้งหลุดออกจากฟันเพราะอาจทำให้เส้นลวดหลุดได้
7. จากนั้นให้เลื่อนไปทำกับฟันซี่ต่อไป  และใช้วิธีเดียวกันจนกว่าจะทำเสร็จทุกซี่

ชนิดของไหมขัดฟัน

• ไหมขัดฟันชนิดเทป เป็นชนิดที่แผ่นกว้าง และแบนคล้ายริบบิ้น ทำให้ง่ายในการจับ หากคุณมีการจัดฟัน มีช่องว่าง หรือมีระยะห่างกว้างในระหว่างฟัน
• ไหมขัดฟันแบบมาตรฐาน จะเป็นเชือกไนลอน เส้นเล็กที่สามารถเข้าไปได้พอดีในระหว่างซี่ฟัน มีทั้งแบบมีรสชาติ และไม่มี รวมถึงแบบเคลือบขี้ผึ้ง และไม่เคลือบ หากคุณมีฟันที่ชิดกันมาก การเลือกใช้ไหมขัดฟันแบบเคลือบขี้ผึ้งอาจทำให้ใช้ไหมเข้าไปในซอกฟันได้ง่ายกว่า
• ซุปเปอร์ฟลอสส์ เหมาะสำหรับใช้กับการจัดฟัน หรือฟันที่มีช่องว่าง เพราะมีส่วนประกอบสามอย่างคือ ส่วนปลายของตัวไหมขัดฟันจะแข็งไว้สอดเข้าเส้นลวด ตรงกลางของเส้นไหมขัดฟันจะมีลักษณะคล้ายฟองน้ำไว้เพื่อทำความสะอาด และในส่วนที่เหลือจะเป็นไหมขัดฟันตามปกติเพื่อขจัดคราบหินปูนใต้แนวเหงือก 

อุปกรณ์อื่นๆที่ทำให้การขัดฟันง่ายขึ้น

• ทางเลือกหนึ่งคือ การเลือกใช้ไหมขัดฟันไฟฟ้า หรือไหมขัดฟันพลังน้ำ โดยเครื่องจะใช้น้ำ และแรงดันในการขจัดคราบหินปูน และเศษอาหารออกจากซอกฟัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีความยุ่งยากในการใช้ไหมขัดฟันตามปกติ ไหมขัดฟันพลังน้ำมีประโยชน์มากสำหรับคนที่กำลังจัดฟัน อุปกรณ์นี้จะช่วยทำความสะอาดในระหว่างตัวแป้นเหล็กที่ติดอยู่บนตัวฟัน และเส้นลวดได้เป็นอย่างดี
• อีกหนึ่งทางเลือกคือ ไหมขัดฟันแบบมีด้ามใช้แล้วทิ้ง ชนิดนี้ง่ายต่อการพกพา และยังช่วยให้คุณขัดฟันได้ในส่วนที่ยากจะเข้าถึงฟันซี่ด้านในของช่องปาก

ข้อควรคิด

ไหมขัดฟันและเด็ก

• แนะนำให้เด็กใช้ไหมขัดฟันเมื่อมีฟันอยู่ใกล้กัน ซึ่งมักจะเป็นตอนที่ฟันน้ำนมเริ่มสัมผัสกัน โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 2 ถึง 6 ปี

• เด็กเล็กอาจขาดความชำนาญและการประสานงานที่จำเป็นในการใช้ไหมขัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพด้วยตนเอง พ่อแม่หรือผู้ดูแลควรดูแลและช่วยเหลือในการใช้ไหมขัดฟันจนกว่าเด็กจะสามารถใช้ไหมขัดฟันได้อย่างอิสระ

• ใช้ไหมขัดฟันที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีหลากหลายรสชาติหรือสี ทำให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น ไหมขัดฟันสำหรับเด็กแบบมีด้ามจับอาจใช้ง่ายกว่าสำหรับเด็กเล็กเช่นกัน

• แสดงให้เด็กๆ เห็นถึงเทคนิคการใช้ไหมขัดฟันที่เหมาะสม สาธิตวิธีการเลื่อนไหมขัดฟันเบา ๆ ระหว่างฟัน โดยสร้างรูปตัว “C” รอบฟันแต่ละซี่แล้วเลื่อนขึ้นและลง ตอกย้ำความสำคัญของความอ่อนโยนเพื่อไม่ให้เหงือกได้รับบาดเจ็บ

• เปลี่ยนการใช้ไหมขัดฟันเป็นกิจกรรมเชิงบวกและสนุกสนาน เล่นเพลงโปรดของพวกเขา ใช้นาฬิกาจับเวลา หรือสร้างระบบการให้รางวัลเพื่อส่งเสริมนิสัยการใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ การเสริมแรงเชิงบวกสามารถช่วยสร้างหลักปฏิบัติด้านสุขอนามัยช่องปากที่ดีได้

• แม้ว่าเด็กๆ จะมีความเป็นอิสระมากขึ้นในกิจวัตรการดูแลช่องปาก ผู้ปกครองก็ควรดูแลเป็นระยะๆ และให้แน่ใจว่าใช้ไหมขัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างนิสัยที่ดีและเปิดโอกาสให้ได้รับคำแนะนำหากจำเป็น

• ใช้ไหมขัดฟันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรสุขอนามัยช่องปากประจำวันของเด็ก ส่งเสริมความสม่ำเสมอด้วยการผสานการใช้ไหมขัดฟันเข้ากับการแปรงฟัน โดยควรใช้ในตอนเช้าและก่อนนอน

• กำหนดเวลาการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำสำหรับเด็ก ทันตแพทย์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลช่องปาก ประเมินประสิทธิผลของกิจวัตรประจำวัน และจัดการกับข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก