ประโยชน์และความเสี่ยงของโครเมียม (Chromium)

โครเมียม (Chromium) เป็นแร่ธาตุสำคัญที่สามารถเพิ่มความไวต่ออินซูลินและทำให้การเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันดีขึ้น  โครเมียม คือ ธาตุโลหะที่เราต้องการในปริมาณที่น้อยมาก ๆ  ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณธาตุโครเมียมที่ร่างกายต้องการนั้นมีอยู่อย่างจำกัด เพราะงานวิจัยที่ผ่าน ๆ มาได้ผลลัพท์ที่ขัดแย้งกัน  ผลลัพท์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอาหารเสริมโครเมียมพิโคลิเนตอาจมีประโยชน์ต่อบางคน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานในรูปแบบของอาหารมากกว่าอาหารเสริม  ค่าปริมาณอาหารทีเพียงพอในแต่ละวันของโครเมียมสำหรับเด็กอายุ 9 ปี และมากกว่า คือปริมาณ 21-25 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับผู้หญิง และ 25-35 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ชาย  สำหรับทารกและเด็ก มีปริมาณที่แนะนำดังนี้: 
  • อายุ 6 เดือน: 0.2 mcg ต่อวัน 
  • อายุ 7-12 เดือน: 5.5 mcg ต่อวัน 
  • อายุ 1-3 ปี: 11 mcg ต่อวัน 
  • อายุ 4-8 ปี: 15 mcg ต่อวัน 
ยังไม่มีปริมาณของโครเมียมที่ถูกต้อง แต่ภาวะขาดโครเมียมในมนุษย์นั้นเกิดน้อย 

อาหารที่มีโครเมียมสูง 

แหล่งของโครเมียมที่ดีที่สุดคือ บร็อคโคลี่ ตับ และบรีเวอร์ยีสต์ มันฝรั่ง ธัญพืช อาหารทะเล และเนื้อก็มีโครเมียมเช่นกัน  เหล่านี้คือแหล่งที่ดีของโครเมียม: 
  • บร็อคโคลี่: 1 ถ้วยมี 22 mcg
  • น้ำองุ่น: 1 ถ้วยมี 8 mcg 
  • ส่วนอกของไก่งวง: 3 ออนซ์มี 2 mcg
  • มัฟฟินอังกฤษ: โฮลวีทมัฟฟิน 1 ชิ้นมี 4 mcg
  • มันฝรั่งบด: 1 ถ้วยมี  3 mcg
  • ถั่วเขียว: 1 ถ้วยมี 2 mcg
  • ไวน์เเดง: 5 ออนซ์มี 1-13 mcg
ผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ มีโครเมียมต่ำ 

ภาวะขาดธาตุโครเมียม

ประโยชน์ของโครเมียมที่มีต่อร่างกายนั้นยังไม่แน่ชัด และรายงานเกี่ยวกับภาวะขาดโครเมียมในมนุษย์นั้นมีน้อย แต่ที่สำคัญคือ ภาวะขาดโครเมียมนั้นสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพบางประการได้  ซึ่งได้แก่: 
  • ภาวะทนต่อน้ำตาลบกพร่อง ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่  2 ลดลง 
  • ประสิทธิภาพการควบคุมคอเลสเตอรอลลดลง ทำให้มีโอกาศสูงที่จะเกิด โรคหลอดเลือดแดงแข็ง และโรคหัวใจ 
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลักฐานไม่มากที่ยืนยันเกี่ยวกับประโยชน์หรือความอันตรายจากการขาดโครเมียม  The benefits and risks of chromium

ประโยชน์และความเสี่ยงของอาการเสริมโครเมียม 

โครเมียมไพโคลิเนทเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือลดน้ำหนัก นักเพาะกายและนักกีฬาบางคนใช้มันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายและเพิ่มพลังงาน  การศึกษาในช่วงแรกพบว่าอาหารเสริมโครเมียมอาจช่วยลดน้ำหนักและช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ การศึกษายังไม่มีผลสรุป แต่ล่าสุดได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านความเติบโตของกล้ามเนื้อและมวลไขมันที่ลดลง   ในส่วนเพิ่มเติม จำนวนของน้ำหนักที่ลดลงไปยังไม่ถือว่าคุ้มค่านัก ผู้ที่ใช้อาหารเสริมนี้ยังมีอาการข้างเคียง เช่น ถ่ายเป็นน้ำ วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว และลมพิษ  งานวิจัยในอดีตไม่สามารถรับรองว่าอาหารเสริมโครเมียมมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีภาวะทนต่อน้ำตาลบกพร่อง และเบาหวานชนิดที่ 2 แต่การศึกษาล่าสุดกล่าวว่ามันช่วยเกี่ยวกับการจัดการกับโรคเบาหวาน การลดลงของระดับไขมัน เพิ่มโอกาศการลดน้ำหนัก และพัฒนาองค์ประกอบของร่างกาย  ในการศึกษาหนึ่ง ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 96 คน รับประทาน โครเมียมพิโคลิเนทวันละ 400 มิลลิกรัม 200 มิลลิกรัม หรือรับประทานยาหลอก  ผู้ที่รับประทาน 400 มิลลิกรัมเป็นประจำ พบการพัฒนาที่ดีขึ้นของการทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือด ระดับไขมันในเลือด และดัชนีชี้วัดทางชีวภาพของภาวะเครียดออกซิเดชั่น โครเมียมพิโคลิเนทมีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2  การตีพิมพ์ในปี 2017 ของ Nature แนะนำว่า โครเมียมพิโคลิเนทรวมกับยาลดไขมันกลุ่มสเตติน อาจช่วยลดอาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็งในหนู หากเป็นเช่นนั้นแล้ว อาหารเสริมโครเมียมก็สามารถทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน  มีงานวิจัยที่สนับสนุนการตีพิมพ์นี้ นักวิจัยให้ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินแต่มีสุขภาพดี 19 คนดื่มกรดอะมิโนและโครเมียม พิโคลิเนทในตอนเช้า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มในตอนเช้ามีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่ม 

ปฏิกริยาต่อกันของยา

อาหารเสริมก็เหมือนกับยา พวกมันสามารถมีปฏิกริยากับสารอื่น ๆ ได้ และอาหารเสริมที่มากไปก็ทำให้เป็นอันตรายได้  โครเมียม พิโคลิเนทรบกวนการดูดซึมของยาไทรอยด์ ยาไทรอยด์ควรจะถูกรับประทานก่อนอาหารเสริมโครเมียมอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง  อาหารเสริมโครเมียมทำปฏิกริยากับยาลดกรด สเตียรอยด์ corticosteroids สารต้านตัวรับเอช 2 กลุ่มยา proton pump inhibitors เบต้าบล็อกเกอร์ อินซูลิน วิตามินบี 3 ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ และ prostaglandin inhibitors ผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้ และผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมโครเมียม เพราะอาจจะไปทำปฏิกริยากับยาที่ใช้อยู่ประจำได้  อาหารเสริมโครเมียมไม่ควรรับประทานระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร และเด็กไม่ควรรับประทาน 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับอาหารเสริม 

อาหารที่รับประทานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคและมีสุขภาพที่ดี  การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารอาหารจากอาหารเสริมนั้นจะไม่สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้เหมือนการรับประทานอาหารอย่างครบถ้วน  ไม่ได้มีเพียงสารอาหารชนิดเดียวที่ทำให้อาหารบางชนิดสำคัญ แต่เป็นการทำงานร่วมกันของสารอาหารต่าง ๆ  ภาวะขาดโครเมียมนั้นพบได้น้อย และการศึกษาต่าง ๆ ก็ยังไม่รับรองประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมนี้ เพราะฉะนั้น การได้รับโครเมียมจากอาหารจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า  ยังไม่มีการรายงานเกี่ยวกับโครเมียมเป็นพิษจากการรับประทานอาหาร ฉะนั้น ปริมาณสูงสุดที่รับประทานได้จึงไม่ได้ถูกกำหนดไว้  อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมโครเมียมที่เยอะมากสามารถทำให้เกิดปัญหากับกระเพาะอาหาร ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง  และเกิดความเสียหายต่อไต หรือตับได้  มันจึงปลอดภัยกว่าที่จะได้รับสารอาหารจากอาหาร และปรึกษาเรื่องการใช้อาหารเสริมกับแพทย์ 

นี่คือที่มาในบทความของเรา

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด