ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
การถือพรหมจรรย์

การถือพรหมจรรย์

Celibacy คือ การยินยอมสาบานที่จะไม่ร่วมเพศ ในบางกรณีเป็นการสัญญาว่าจะไม่แต่งงาน การกระทำแตกต่างกันไปในแต่ละคน และมีหลายวิธีบางคนอาจเลือกการงดกิจกรรมทางเพศ (ทั้งสอดใส่ และไม่สอดใส่) บางคนอาจเลือกการร่วมเพศภายนอก(ไม่สอดใส่) แม้ว่าการงดมีเพศสัมพันธ์จะเกี่ยวโยงกับศาสนา แต่ก็มีหลายเหตุผลที่คนเลือกงดเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าคุณแค่อยากรู้หรือต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิต นี่เป็นคำถามที่พบบ่อย

การไม่ร่วมเพศ (Celibacy) กับการงดร่วมเพศ (Abstinence) ต่างกันอย่างไร

บางครั้งคนก็ใช้สองคำนี้ปนกัน แต่ที่จริงมีความแตกต่างการงดร่วมเพศ (Abstinence) มักใช้กับการตัดสินใจไม่มีการสอดใส่ อาจเป็นเพียงชั่วคราวเช่น จนกว่าจะแต่งงานการไม่ร่วมเพศ (Celibacy) คือ การสาบานว่าจะงดร่วมเพศในระยะยาว สำหรับบางคนอาจเป็นตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแบบใด เป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะเลือกกิจกรรมทางเพศที่ตนพอใจ ในบางครั้งข้อจำกัดนี้อาจเกิดจากข้อกำหนดทางศาสนาหรือวัฒนธรรม

พรหมจรรย์

พรหมจรรย์ และการไม่ร่วมเพศเกี่ยวพันกัน โดยเฉพาะเมื่อคุณปฏิญาณด้วยเหตุผลทางศาสนาหรือวัฒนธรรม ผู้ที่รักษาพรหมจรรย์ตัดสินใจที่จะควบคุมความคิด และการกระทำของตน เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ หรือคุณธรรม ในบางศาสนา เช่น Church of Jesus Christ of Latter-day Saints ถือปฏิญาณนี้จนกระทั่งแต่งงาน และบ่อยครั้ง ผู้นำทางศาสนาสัญญาจะรักษาพรหมจรรย์ตลอดชีวิต เพื่อให้เกียรติต่อความศรัทธา

มีกิจกรรมทางกายไม่ได้เลยหรือ

ขึ้นอยู่กับว่าคุณ และความเชื่อของคุณ จะให้คำจำกัดความของ Celibacy อย่างไร

การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง

สำหรับบางคน การช่วยตัวเองเป็นวิธีที่ทำให้สมหวังทางเพศโดยไม่ต้องละเมิดคำสาบานจะไม่ร่วมเพศ 

 มีกิจกรรมกับคู่ของคุณ(ร่วมเพศแบบไม่สอดใส่)ได้มั้ย

บางคนใช้วิธีมีกิจกรรมทางกายกับผู้อื่น แต่ไม่มีการสอดใส่ บางคนบอกว่าคือการทำอะไรได้ทุกอย่างยกเว้นการใส่องคชาติเข้าไปในช่องคลอด บางคนว่าทำอะไรก็ได้ยกเว้นการสอดใส่ทุกช่องทาง หรือการจูบ กอด นวดถู และถูไถอวัยวะเพศกันโดยยังใส่กางเกงในการร่วมเพศแบบภายนอกแบบสอดใส่ อาจรวมถึงใช้นิ้ว ของเล่น ร่วมรักทางปาก และทวารหนัก ซึ่งไม่ทำให้ท้อง แต่การใช้ปาก และทวารหนัก เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์บางคนอาจเกิดมาหรือรับความเชื่อในการไม่ร่วมเพศเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่งดร่วมเพศจะเป็นผู้เคร่งศาสนาเสมอไป 

ทำไมคนจึงเลือกไม่ร่วมเพศ

คนน้อยมากที่จะมีเหตุผลเดียวในการเลือกไม่ร่วมเพศ มักจะมีหลายเหตุผล แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับความเชื่อก็ตาม

ถือพรหมจรรย์เพราะศาสนา

บางคนเลือกไม่ร่วมเพศเพื่อทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับศาสนาหรือทำให้รู้สึกมีอำนาจมากขึ้นการไม่ร่วมเพศ ยังเป็นทางที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยไม่ต้องร่วมชีวิตและผูกมัดความรักของตนกับผู้ใดผู้หนึ่ง จึงเป็นเหตุให้บางคนเพิ่มคำจำกัดความไปอีกว่าไม่แต่งงาน พรหมจรรย์ ภาวะละเว้นจากการแต่งงานและความสัมพันธ์ทางเพศ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาในวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก หลายศาสนามีหลักปฏิบัติหรือคำสอนที่เกี่ยวข้องกับการถือโสด โดยมักเชื่อมโยงกับวินัยทางจิตวิญญาณ คำปฏิญาณทางศาสนา หรือบทบาทเฉพาะภายในชุมชนศาสนา ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกรณีพรหมจรรย์ที่โดดเด่นในศาสนาต่างๆ:

1. ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก:

  • พระสงฆ์และแม่ชี:ในคริสตจักรคาทอลิก พระสงฆ์จะปฏิญาณตนว่าจะโสด โดยจะใช้ชีวิตโดยปราศจากการแต่งงานหรือมีเพศสัมพันธ์ ในทำนองเดียวกัน แม่ชีซึ่งเป็นสมาชิกของคณะสงฆ์ก็ปฏิญาณตนว่าจะถือโสดเช่นกัน

2. ศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ตะวันออก:

  • นักบวช:แม้ว่าผู้ชายที่แต่งงานแล้วสามารถเป็นนักบวชตามประเพณีอีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ แต่โดยทั่วไปแล้วพระสังฆราชจะถูกเลือกจากตำแหน่งสงฆ์ที่โสด

3. พุทธศาสนา:

  • คำสั่งสงฆ์:พระภิกษุและแม่ชีมักปฏิบัติตนเป็นโสดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการดำรงชีวิตแบบสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าชาวพุทธทุกคนจะถือโสด และฆราวาสอาจแต่งงานและมีครอบครัวได้

4. ศาสนาฮินดู:

  • ซันนีเอซิสและโยคี:ในศาสนาฮินดู ประเพณีนักพรตบางประเพณี โดยเฉพาะของซันนีเอซิส (ผู้สละสิทธิ์) และโยคี อาจเกี่ยวข้องกับการถือโสด อย่างไรก็ตาม ศาสนาฮินดูโดยรวมมีความหลากหลาย และผู้นับถือศาสนาจำนวนมากแต่งงานกันและมีครอบครัว

5. ศาสนาอิสลาม:

  • ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้จนกว่าจะแต่งงาน 

6. ศาสนาเชน:

  • การปฏิบัตินักพรต:ในศาสนาเชน นักพรตบางคน (พระภิกษุและแม่ชี) ปฏิญาณตนว่าโสดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอุทิศตนเพื่อความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณและการไม่ยึดติด

7. เชกเกอร์:

  • นิกายคริสเตียน: The Shakers ซึ่งเป็นนิกายคริสเตียนที่มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 18 ดำเนินชีวิตร่วมกัน การถือโสด และความเท่าเทียมทางเพศ อย่างไรก็ตาม ชุมชน Shaker ได้ลดน้อยลงในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา

8. ศาสนายิวบางนิกาย:

  • Essenes:เชื่อกันว่านิกายชาวยิวในอดีตบางนิกาย เช่น Essenes ถือโสด อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การปฏิบัติกระแสหลักในศาสนายิว

9. มุมมองทางโลก:

  • ทางเลือกทางปรัชญาหรือส่วนบุคคล:พรหมจรรย์ไม่ได้จำกัดเฉพาะบริบททางศาสนาเท่านั้น บุคคลบางคน โดยไม่คำนึงถึงศาสนา อาจเลือกโสดด้วยเหตุผลทางปรัชญา ส่วนตัว หรือวิถีชีวิต

หากศาสนาไม่มีส่วน

สำหรับบางคนการเลือกไม่ร่วมเพศทำให้เกิดความรู้สึกมีพลัง เขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจจากการมีความสัมพันธ์หรือเพศ และสนใจเพียงการพัฒนาภายในตน บางครั้งอาจเป็นเพราะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงงดการร่วมเพศเพื่อป้องกันการกระจายโรค สำหรับผู้ที่ติดเซ็กส์ การงดร่วมเพศเป็นวิธีรักษาอย่างหนึ่ง บางคนอาจสับสนระหว่างการไม่ร่วมเพศกับ Asexuality คือ การไม่มีความสนใจในเซ็กส์ การไม่ร่วมเพศเป็นทางเลือก แต่ Asexuality เป็นการแสดงออกทางเพศCelibacy

การไม่ร่วมเพศมีข้อดีบ้างมั้ย 

ข้อดี

  1. แทบไม่มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจมีความเสี่ยงบ้างในผู้ที่เลือกการร่วมเพศภายนอก ถ้ามีการสัมผัสของอวัยวะเพศ
  2. ความเสี่ยงในการท้องไม่พร้อมน้อยมากถึงไม่มีเลย
  3. ลดค่าใช้จ่ายในการคุมกำเนิด เช่น ค่าถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด
  4. มีระยะห่างที่ทำให้คุณได้รู้จักคู่ของคุณในด้านอื่น
  5. อาจช่วยให้คุณได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการดึงดูดทางกายและอารมณ์
  6. มีเวลามากขึ้นที่จะมุ่งเป้าไปที่อาชีพ เพื่อน หรือครอบครัว

ข้อเสีย  

  1. เป็นความท้าทายที่จะมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกแม้ว่าคู่ของคุณจะคิดอย่างเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดอารมณ์เพศ
  2. บางคนอาจคิดว่าเสียโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์ที่สำคัญ เช่น การแต่งงาน การมีบุตร เนื่องจากการลดหรือเลิกร่วมเพศ
  3. บางคนอาจรู้สึกว่าผู้อื่นอาจไม่ยอมรับการตัดสินใจของตน อาจเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว 

ก่อนตัดสินใจไม่มีเพศสัมพันธ์

เพราะการเลือกไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่จะเลือกควรให้เวลาสำหรับการใคร่ครวญให้ดีก่อนตัดสินใจ
  1. ศึกษาให้ดีก่อน การไม่ร่วมเพศมีคำจำกัดความมากมาย ควรจะศึกษา และเลือกให้เหมาะสม
  2. ให้คำมั่น เมื่อคุณสัญญาแล้ว ไม่ว่ากับตัวเองหรือศาสนาก็ตาม คุณต้องฝึกฝน และมั่นคงในคำสัญญา
  3. สร้างขอบเขตให้กับคำสัญญาของคุณเพื่อให้ชัดเจนเมื่อคุณฝึกฝนต่อไป
  4. คุณจะงดร่วมเพศได้อย่างไรเมื่อคุณกำลังมีแฟน หรือแต่งงานแล้ว บางคนเลือกไม่แต่งงาน บางคนเลือกมีแฟนหรือแต่งงาน แต่มีขอบเขตในการทำกิจกรรมทางเพศ แต่ละอย่างก็มีความท้าทายต่างกันไป
  5. อย่าลืมพูดคุยกับคู่ของคุณ คุณ และคู่ของคุณต้องเข้าใจในความต้องการ และความคาดหวังของแต่ละคน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายเลือกไม่ร่วมเพศ ยังยากที่จะจัดการเรื่องนี้ให้ผ่านไปด้วยดี คุณควรคุยกันแบบตรงไปตรงมา
  6. หาวิธีอื่นในการหลีกเลี่ยงการร่วมเพศ เซ็กส์ไม่ใช่คำตอบเดียว คุณ และคู่ของคุณอาจเลือกใช้วิธีอื่นในการแสดงความใกล้ชิดที่เหมาะกับทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสทางกายเช่น กอด หรือการสนทนาเชิงลึก
  7. หาตัวช่วย บางครั้งคุณ และคู่ของคุณก็จำเป็นที่จะต้องหาตัวช่วยที่ทำให้การตัดสินใจนี้เป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย และคำแนะนำที่เป็นกลาง อาจเป็นเพื่อน ครอบครัวหรือผู้ให้คำปรึกษา
 ‘Involuntary Celibate’ คือ กลุ่มคนที่อยากมีสัมพันธ์ทางเพศแต่ไม่สามารถหาคู่ได้ มักเป็นกลุ่มที่สร้างชุมชนออนไลน์ เพื่อคนที่โดดเดี่ยวได้มีโอกาสได้พบ และติดต่อกัน
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด