หากกล่าวถึงเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมและมีการจัดจำหน่ายอย่างแพร่หลาย เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงชาไข่มุกอย่างแน่นอนจุดเด่นที่ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้แตกต่างจากเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ คือความเข้มข้นหอมใบชา ที่เข้าคู่กันดีกับนมที่เติมลงไปที่ทำให้เกิดความหอมมัน ยิ่งเมื่อได้เคี้ยวเม็ดไข่มุกที่อยู่ภายในเครื่องดื่มแก้วนี้ ก็ยิ่งทำให้ยิ่งกินยิ่งเพลิน ดื่มหมดแก้วไปโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีการดื่มชานมไข่มุกก็ยังคงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอยู่ว่าก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
ไข่มุกทำมาจากอะไร
ไข่มุกคือส่วนประกอบที่ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้มีความโดดเด่นและแตกต่างไม่เหมือนใคร โดยส่วนประกอบของไข่มุขนั้นได้แก่- แป้งมัน
- น้ำตาลทรายแดง
- น้ำ
- สารปรุงแต่งรสอื่น ๆ ตามชอบเช่น ผงโกโก้ มันม่วง เป็นต้น
ประวัติชานมไข่มุก
เมื่อกล่าวถึงชานมไข่มุก หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วมีต้นกำเนิดจากไต้หวัน เพราะประเทศนี้ผู้คนล้วนชื่นชอบการดื่มชากันอยู่แล้ว เกิดเป็นร้านชาขึ้นมามากมาย ทำให้แต่ละร้านจะต้องหาจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละร้านมาสร้างจุดขายให้กับตนเอง ซึ่งในกรณีนี้ร้านชาชุนฉุยถังได้เกิดไอเดียที่จะนำขนมหวานมารับประทานกับชานม ซึ่งทางร้านก็ได้ปรับออกมาให้อยู่ในรูปของไข่มุก ซึ่งปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันข้อมูลทางโภชนาการของชานมไข่มุก
ข้อมูลโภชนาการพบว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว มีพลังงาน 240 – 360 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 45 – 62 กรัม นอกจากนั้นจะเป็นไขมัน 0 – 14 กรัม และโปรตีน 0.4 – 2 กรัม ซึ่งระดับของพลังงานและสารอาหารต่าง ๆ นั้นจะขึ้นกับปริมาณส่วนผสมไข่มุกที่ใช้ แต่ด้วยปริมาณกิโลแคลอรีที่ได้จากชาไข่มุขเช่นนี้ จึงอาจเปรียบเทียบได้ว่าการดื่มชา 1 แก้ว ให้ปริมาณพลังงานใกล้เคียงกับการกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม หรือข้าวประมาณ 3 – 4 ทัพพีประโยชน์ของชาไข่มุก
ในความเป็นจริงชาคือเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์มากมาย ดังนี้- เพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต เนื่องจากชาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตที่สูงผิดปกติ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดไขมันได้
- คุณค่าทางโภชนาการ ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีธาตุอาหารมากมายที่ส่งผลดีต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างให้มีสุขภาพดี กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและร่างกายให้มีประสิทธิภาพ เพราะคาเฟอีนในชาจะช่วยกระตุ้นระบบประสาท ช่วยระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งเสริมกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกาย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาเป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสดชื่น สามารถขับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ดีขึ้น ต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถชะลอความชรา และบำรุงผิวพรรณได้
โทษจากการชาไข่มุก
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าไข่มุกทำมาจากอะไร และด้วยส่วนประกอบเหล่านี้เองทำให้ชาไข่มุกกลายเป็นอาหารที่สามารถก่อโทษต่อร่างกายได้ ทางการแพทย์ระบุว่าชาไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงานค่อนข้างสูง โดยให้แคลอรี่เทียบเท่ากับกินอาหารตามปกติ 1 มื้อ โดยสิ่งกระทบต่อสุขภาพโดยตรงคือปริมาณน้ำตาลที่ใส่ ลงไป เพราะเป็นพลังงานแบบสูญเปล่า ที่ได้จากคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ไร้สารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ มีผลงานวิจัยพบว่า การที่ร่างกายรับปริมาณน้ำตาลที่สูงอย่างต่อเนื่องนั้น จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลและระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ ดังนั้นการรับประทานชาเย็นไข่มุกบ่อย ๆ หรือครั้งละมาก ๆ จึงเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคต่าง ๆ ในระบบทางเดินโลหิตได้ ยิ่งเป็นน้ำปั่นชาไข่มุกที่มีการเติมครีมเทียมลงไป ซึ่งครีมเทียมส่วนมากผลิตจากไขมันปาล์ม ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัวที่ส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจ และโรคต่าง ๆ ในระบบทางเดินโลหิตได้ข้อแนะนำในการดื่มชาไข่มุก
อย่างไรก็ตามหลายคนก็อาจอดใจกับรสชาติแสนอร่อยของชานมไข่มุขได้ จึงแนะนำว่าเมื่อจะดื่มชานมไข่มุกให้พิจารณาถึงพลังงานที่ได้รับ และควรลดการบริโภคอาหารประเภทข้าว แป้ง และน้ำตาลชนิดอื่นๆ แทน หรืออาจลดน้ำตาลที่จะใส่ในชามุก หลีกเลี่ยงการเติมครีมเทียมลงในเครื่องดื่ม พยายามควบคุมความถี่ในการดื่ม พยายามไม่ดื่มชานมไข่มุกทุกวัน แต่ควรเป็นสัปดาห์ละ 1 – 2 แก้ว และควรหมั่นออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีชานมไข่มุกทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรหวานน้อย สูตรหญ้าหวาน สูตรไขมันต่ำ หรือไข่มุกจากบุก เป็นต้นข้อควรระวังในการดื่มชาไข่มุก
โดยทั่วไปชาไข่มุกปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ในการบริโภค แต่มีข้อควรพิจารณาบางประการที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มหรือบุคคลบางกลุ่มที่มีภาวะสุขภาพเฉพาะเจาะจง:- ความไวต่อคาเฟอีน:ชานมไข่มุกบางชนิด โดยเฉพาะชาดำหรือชาเขียวนั้นมีคาเฟอีน บุคคลที่ไวต่อคาเฟอีนควรคำนึงถึงการบริโภค เนื่องจากระดับคาเฟอีนที่สูงอาจทำให้เกิดผลเสีย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ความวิตกกังวล หรือนอนหลับยาก
- การแพ้แลคโตสหรือการแพ้นม:สูตรชานมไข่มุกหลายสูตรประกอบด้วยนมในรูปของนมหรือครีมเทียม สำหรับบุคคลที่แพ้แลคโตสหรือแพ้นม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่นม เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง หรือกะทิ และเพื่อยืนยันว่าร้านชานมไข่มุกใช้ตัวเลือกเหล่านี้
- อาการแพ้หรือแพ้มันสำปะหลัง:ไข่มุกมันสำปะหลังซึ่งเป็นส่วนผสมทั่วไปในชานมไข่มุกทำจากแป้งมันสำปะหลัง บุคคลบางคนอาจมีอาการแพ้หรือไวต่อมันสำปะหลัง หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความทนทานต่อมันสำปะหลัง ควรหลีกเลี่ยงไข่มุกมันสำปะหลังในชาไข่มุก
- ความกังวลเกี่ยวกับโรคเบาหวานหรือน้ำตาลในเลือด:ชาไข่มุกมักจะมีน้ำตาลในปริมาณสูง ทั้งจากชารสหวานและน้ำเชื่อมที่เติมเข้าไป ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดควรระมัดระวังในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
- ศักยภาพในการเพิ่มน้ำหนัก:ชาไข่มุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริโภคบ่อยๆ หรือเติมสารให้ความหวาน อาจส่งผลให้ได้รับแคลอรี่เพิ่มขึ้นและอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ สำหรับผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้คำนึงถึงขนาดและส่วนผสมด้วย
- การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร:แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการบริโภคในระดับปานกลางจะถือว่าปลอดภัย แต่ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรระมัดระวังการบริโภคคาเฟอีนและพิจารณาปริมาณน้ำตาลในชาไข่มุก ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น