ภาพรวม
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Stones) เป็นผลึกที่ก่อตัวขึ้น เมื่อปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงและจับตัวรวมกันภายหลังการถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะ คือ ของเหลวที่เป็นน้ำส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือประกอบด้วยแร่ธาตุ เช่น เกลือ และของเสีย เช่น โปรตีน ปัสสาวะเข้มข้นมีสีแตกต่างกันไป ตั้งแต่สีเหลืองอำพันไปจนถึงสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับของเสียและแร่ธาตุปลดปล่อยออกมา ปัสสาวะเข้มข้นมักเป็นผลมาจากการขาดน้ำ หรือการที่กระเพาะปัสสาวะไม่สามารถขับปัสสาวะให้หมดไปได้ หรืออาจเกิดจากต่อมลูกหมากโต หรือปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) หากไม่มีการรักษา นิ่วในกระเพาะปัสสาวะอาจนำไปสู่การติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆอาการของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
อาการทั่วไปของนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้แก่- ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะในตอนกลางคืน
- ปวดท้องน้อย
- ปวดแสบร้อนขณะปัสสาวะ
- ปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีสีขุ่น
- ควบคุมการถ่ายปัสสาวะไม่ได้
สาเหตุของการเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
ปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือการขัดขวางการไหลของปัสสาวะ มีดังต่อไปนี้การติดเชื้อ
แบคทีเรีย และเชื้อโรคอื่นๆ อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ หรืออักเสบได้ โดยกระเพาะปัสสาวะอักเสบ UTIs เป็นสาเหตุของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แม้ว่าผู้ชายจะเป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ แต่ผู้หญิงก็มีการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า ดังนั้นจึ่งง่ายต่อการที่แบคทีเรียจะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะท่อปัสสาวะได้รับการทำลาย
ท่อปัสสาวะที่ได้รับความเสียหายจากความเจ็บป่วย หรือบาดแผล จะทำให้แคบลง เนื่องจากการติดเชื้อและขัดขวางการไหลของปัสสาวะออกจากร่างกายต่อมลูกหมากโต
ต่อมลูกหมากนั้นอยู่ในลักษณะล้อมรอบท่อปัสสาวะซึ่งเป็นท่อบาง ๆ ที่ลำเลียงปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะระหว่างถ่ายปัสสาวะ เมื่อต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้นท่อปัสสาวะสามารถถูกกดทับได้กระเพาะปัสสาวะพิการ
กระเพาะปัสสาวะพิการเป็นภาวะที่เป็นผลกระทบจากเส้นประสาทที่ส่งข้อความจากสมองไปยังกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหาย ทำให้การสั่งการของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหดตัวและขยายตัวเพื่อปัสสาวะไม่สามารถทำได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ และก่อตัวเป็นนิ่วกระเพาะปัสสาวะอ่อนแอ
ผนังของกระเพาะปัสสาวะสามารถอ่อนแอได้ในบางบริเวณ และอาจเกิดเป็นถุงนูนในบริเวณต่างๆ ทำให้ปัสสาวะถูกกักเก็บในถุงเล็กๆ เหล่านั้นทำให้ปัสสาวะค้างออกมาไม่หมดนิ่วในไต
นิ่วขนาดเล็กสามารถก่อตัวในไต และถูกลำเลียงไปตามท่อไตซึ่งเป็นท่อ 2 ท่อที่นำปัสสาวะจากไตไปยังกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ แม้ว่านิ่วในไตจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถกลับกลายเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ เมื่อก้อนนิ่วถูกลำเอียงไปยังกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในไตขนาดเล็กอาจผ่านทางปัสสาวะได้ แต่หากมีขนาดใหญ่เกินไปแพทย์ก็มีความจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาออกการรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
หากแพทย์พบว่า ผู้ป่วยมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แพทย์จะใช้วิธีการ cystolitholapaxy คือ การใช้พลังงานเลเซอร์หรือคลื่นอัลตร้าซาวด์ เพื่อสลายนิ่วให้เป็นก้อนเล็กๆ เพื่อนำออก หากนิ่วไม่สามารถสลายด้วยวิธีข้างต้น อาจมีความจำเป็นที่ต้องผ่าตัดเพื่อนำออกการป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสาวะเกี่ยวข้องกับการนำการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการแทรกแซงทางการแพทย์มาผสมผสานกัน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ อาหาร และภาวะขาดน้ำ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ:- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำปริมาณมากตลอดทั้งวันจะช่วยเจือจางปัสสาวะและป้องกันความเข้มข้นของแร่ธาตุที่อาจนำไปสู่การเกิดนิ่ว ตั้งเป้าหมายดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) ต่อวัน หรือมากกว่านั้นหากคุณเคลื่อนไหวร่างกายหรืออาศัยอยู่ในสภาพอากาศร้อน
- อาหารที่สมดุล: หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีออกซาเลต แคลเซียม และพิวรีนสูงมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดนิ่วได้ อาหารอย่างเช่น ผักโขม รูบาร์บ หัวบีท ช็อกโกแลต ชา ถั่ว และเครื่องในควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ
- การเปลี่ยนแปลงด้านอาหาร: พิจารณาลดปริมาณเกลือลง เนื่องจากโซเดียมที่มากเกินไปสามารถเพิ่มระดับแคลเซียมในปัสสาวะ ซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของนิ่ว อาหารที่อุดมด้วยผลไม้ ผัก และเมล็ดธัญพืชสามารถช่วยรักษาระบบทางเดินปัสสาวะให้แข็งแรงได้
- จำกัดโปรตีนจากสัตว์: การบริโภคโปรตีนจากสัตว์ในปริมาณสูงสามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในปัสสาวะ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับนิ่วบางประเภท การบริโภคเนื้อสัตว์ ปลา และสัตว์ปีกที่พอประมาณสามารถช่วยป้องกันนิ่วจากกรดยูริกได้
- ตรวจสอบปริมาณแคลเซียม: ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่เป็นที่นิยม การบริโภคแคลเซียมที่เพียงพอจากแหล่งอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันนิ่วบางประเภท แคลเซียมจับกับออกซาเลตในลำไส้ ลดการดูดซึมและป้องกันนิ่วออกซาเลต อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการเสริมแคลเซียมมากเกินไป เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วได้
- รักษาน้ำหนักให้แข็งแรง: การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว การได้รับและรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพผ่านการรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้
- รักษาสุขอนามัยที่ดี: สุขอนามัยที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) ซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะบางชนิดได้
- สภาวะทางการแพทย์: หากคุณมีสภาวะทางการแพทย์ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เช่น โรคเกาต์หรือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ให้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อจัดการและรักษาอาการเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ยา: ขึ้นอยู่กับชนิดของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะที่คุณมีแนวโน้มที่จะเป็น แพทย์ของคุณอาจแนะนำยาที่สามารถช่วยป้องกันการก่อตัวของนิ่วได้ สิ่งเหล่านี้อาจรวมถึงยาเพื่อควบคุมระดับกรดยูริกหรือเพื่อปรับค่า pH ของปัสสาวะ
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำ: หากคุณเคยมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะมาก่อนหรือมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากประวัติครอบครัวหรือปัจจัยอื่นๆ การตรวจสุขภาพเป็นประจำกับบุคลากรทางการแพทย์สามารถช่วยตรวจสอบสุขภาพทางเดินปัสสาวะและปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันที่จำเป็นได้
ภาพรวม
ภาพในการรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะนั้นยังอยู่ในทิศทางที่ดี หลังจากได้รับการรักษาแล้ว สามารถป้องกันการกลับมาเป็นอีกด้วยการการดื่มน้ำปริมาณมาก (อย่างน้อย 8 แก้วหรือ 64 ออนซ์ต่อวัน) นอกจากนี้หากมีอาการปัสสาวะอักเสบหรือปัญหาทางเดินปัสสาวะอื่นๆ ควรรักษาให้ทันท่วงทีนี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bladder-stones/symptoms-causes/syc-20354339
- https://www.nhs.uk/conditions/bladder-stone/
- https://www.webmd.com/kidney-stones/what-are-bladder-stones
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น