ปลาหมึกยักษ์สีน้ำเงิน (Bitten By a Blue-Ringed Octopus) – อาการ การปฐมพยาบาล

ปลาหมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) เป็นสัตว์ทะเลที่อันตรายในมหาสมุทร แม้ว่าจะไม่ค่อยกัดมนุษย์ก็ตาม หมึกบลูริง หรือหมึกวงน้ำเงินมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งอยู่ในสกุลของ Hapalochlaena พวกมันอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างออสเตรเลีย และญี่ปุ่น และออกไปยังหมู่เกาะอินโดแปซิฟิกทางตะวันตก แต่อาจจะพบได้ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ปลาหมึกบลูริงมีขนาดเล็ก ยาวไม่เกิน 2.5 นิ้ว มีหนวดยาวประมาณ 4 นิ้ว ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะมีสีเหลืองหรือสีทราย แต่วงแหวนสีน้ำเงินสดใสจะปรากฏบนร่างกายเมื่อพวกมันกำลังจะโจมตีศัตรู หมึกบลูริงจะโจมตีก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคาม หากถูกหมึกบลูริงกัด คุณต้องเข้ารับการรักษาทันที เพราะการกัดของหมึกบลูริงนั้นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในเวลาอันสั้น

ปลาหมึกบลูริงมีอันตรายถึงชีวิต

ปลาหมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) ถ้ากัดนั้นสามารถอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากมีพิษ พิษของหมึกบลูริงสามารถฆ่าคนได้มากกว่า 20 คนในเวลาเพียงไม่กี่นาที แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าพวกมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม ปกติหมึกบลูริงมักจะซ่อนตัวในตอนกลางวัน และออกหากินในเวลากลางคืน ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามีรายงานการเสียชีวิตจากการกัดของหมึกบลูริงน้อยมาก การศึกษาหนึ่งในปี 2008 ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 3 คนในบันทึก

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับหมึกบลูริง

หมึกบลูริงมีพิษที่เรียกว่า Tetrodotoxin หรือ TTX นี่เป็นหนึ่งในพิษร้ายแรงที่สุดที่พบในมหาสมุทร ต่อมน้ำลายของปลาหมึกยักษ์ผลิตพิษ และแบคทีเรียพร้อมจะกระจายตัวผ่านทางปากของพวกมัน TTX สามารถทำให้มนุษย์เป็นอัมพาตได้ในไม่กี่นาที เนื่องจากร่างกายของจะไม่สามารถได้รับออกซิเจนเพียงพอ อัมพาตจะเกิดขึ้น และความตายจะเกิดขึ้นในเวลาถัดมา

Bitten By a Blue-Ringed Octopus

อาการเมื่อหมึกบลูริงกัด

เมื่อหมึกบลูริงกัดจะมีอาการหลากหลาย อาจจะไม่รู้สึกเมื่อหมึกบลูริงกัดก็ได้ แต่หากสงสัยว่าเกิดขึ้นควรได้รับการรักษาพยายามโดยทันที ความรุนแรงของอาการขึ้นกับปริมาณพิษที่หมึกปล่อยออกมา และสุขภาพโดยรวมของผู้ที่ถูกกัด อาการหมึกบลูริงจะลุกลามอย่างรวดเร็วในเวลาประมาณ 10 นาที อาการเริ่มต้นของการถูกกัดได้แก่ หรืออาการอาจจะแย่ลงดังนี้
  • อัมพาต
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
  • ขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อ ทำให้บริเวณที่ถูกกัดเกิดการเปลี่ยนสีที่ปรากฏเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วง

การรักษาฉุกเฉินเมื่อถูกหมึกบลูริงกัด

หากถูกหมึกบูริงกัดถือเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์อย่างมาก เนื่องจากพิษของมันร้ายแรงมาก หากคุณถูกกัด หรือแม้แต่สงสัยว่าถูกกัด ไม่มียาใดๆ สามารถแก้พิษของหมึกบลูริงได้ พิษจากปลาหมึกบลูริงอาจทำให้หายใจลำบาก หรือหยุดหายใจ ในกรณีนี้แพทย์จะทำการช่วยเหลือดังนี้ คุณจะต้องดูแลบริเวณแผลด้วยให้สะอาดด้วยการชำระล้างด้วยน้ำจืดสะอาด และกดแผลให้เลือดหยุด อาจจะทำโดยใช้ผ้าพันแผลพันเหนือบริเวณที่เป็นแผล จากนั้นพันรอบส่วนอื่นๆ ของร่างกายให้แน่นมาก ก่อนที่จะขอเข้ารับความช่วยเหลือจากแพทย์ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ออกซิเจนบำบัด

การหลีกเลี่ยงการถูกหมึกบลูริงกัด

มีเหตุผลเล็กน้อยที่จะต้องกลัวโดนปลาหมึกบลูริงกัดหากมีความระมัดระวัง อย่าแหย่มันในขณะที่คุณกำลังว่ายน้ำ หรือหากคุณเจอหมึกบลูริงในสภาพแวดล้อมอื่น เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ก็ควรจะหลีเลี่ยงด้วยเช่นกัน ปลาหมึกบลูริงจะกัดก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคามเท่านั้น พยายามอย่าแหย่เข้าไปในพื้นที่ในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน อย่าแตะต้องพื้นที่ที่คาดว่าหมึกบลูริงจะอาศัยอยู่

สรุปภาพรวม

การกัดของหมึกบลูริงทุกครั้งอาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะดูแลผู้ป่วยเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากถูกกัด วิธีนี้แพทย์จะเฝ้าระวัง และคอยให้ความช่วยเหลือหากเกินอันตรายหลายชั่วโมงให้หลัง หากสามารถได้รับการช่วยให้หายใจได้อย่างทันเวลา คุณก็สามารถรอดจากพิษของหมึกบลูริง มีการศึกษาปี 2008 เด็กชายอายุ 4 ขวบ รอดจากการถูกปลาหมึกบลูริง เพราะเขาได้รับการช่วยหายใจ และออกซิเจนจากเครื่องช่วยหายใจภายใน 30 นาที หลังจากถูกกัด อาการอัมพาตจากพิษเริ่มจางลงหลังจากผ่านไป 15 ชั่วโมง และแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกหลังจากผ่านไป 17 ชั่วโมง จากการศึกษารายงานเพิ่มเติมว่า เด็กไม่มีอาการแทรกซ้อนจากการถูกกัดโดยหมึกบลูริงในระยะยาว
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด