ทับทิม
ทับทิมเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ทับทิมมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งอาหารอื่นนั้นแทบจะเทียบไม่ได้เลย ทับทิมมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และเป็นไปได้ว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆสารอาหารในผลไม้ทับทิม
ทับทิมมีสารอาหารหลายชนิด ทับทิม 1 ถ้วย 174 กรัม ประกอบไปด้วย:- เส้นใยอาหาร: 7 กรัม
- โปรตีน: 3 กรัม
- วิตามิน C: 30% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- วิตามิน K: 36% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- โฟเลต: 16% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- โพแทสเซียม: 12% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
ประโยชน์ของทับทิมและน้ำทับทิมมีดังนี้
1. ผลทับทิมอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญมากมาย
ทับทิม หรือที่ถูกเรียกในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum เป็นไม้พุ่มที่ออกผลสีแดง ทับทิมจัดอยู่ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีความยาวเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-12 เซนติเมตร มีสีแดง มีลักษณะเป็นทรงกลม และมีรูปร่างคล้ายแอปเปิ้ล ผิวของทับทิมหนาและกินไม่ได้ แต่มีเมล็ดข้างในจำนวนหลายร้อยเมล็ดที่สามารถกินได้ แต่ละเมล็ดถูกล้อมรอบไว้ด้วยเนื้อสีแดง ชุ่มน้ำ และมีรสหวาน เมล็ดและเนื้อที่ล้อมรอบเมล็ดเป็นส่วนที่กินได้ของผลไม้ชนิดนี้ ซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด ๆ หรือนำไปทำเป็นน้ำทับทิม2. ทับทิมมีสารประกอบพืช 2 ชนิดที่มีคุณสมบัติทางการแพทย์
ทับทิมมีสารที่มีความเฉพาะเจาะจง 2 ชนิดที่มีประโยน์ต่อสุขภาพน้ำทับทิมมีพูนิคาลาจิน
พูนิคาลาจินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำทับทิมและเปลือก น้ำทับทิมถูกพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระมากถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับไวน์แดงและชาเขียว สารสกัดจากทับทิมและทับทิมผงปกติแล้วจะถูกทำมาจากส่วนเปลือก เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและพูนิคาลาจินสูงกรดพูนิซิค
กรดพูนิซิคพบในน้ำมันเมล้ดทับทิม ซึ่งเป็นกรดไขมันหลักในเนื้อทับทิม เป็นกรดไขมันชนิดจำเป็นที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพมาก3. ประโยชน์ของทับทิมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
การอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายมากมาย โรคร้ายเหล่านั้นได้แก่- โรคหัวใจ
- โรคมะเร็ง
- เบาหวานชนิดที่ 2
- อัลไซเมอร์
- โรคอ้วน
4. ทับทิมอาจช่วยต่อสู้กับมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบได้ปกติในผู้ชาย การศึกษาในห้องวิจัยแนะนำว่าสารสกัดจากทับทิมอาจช่วยชะลอการสร้างของเซลล์มะเร็ง และทำให้เกิดกระบวนการตายของเซลล์ในเซลล์มะเร็ง แอนติเจนต่อมลูกหมาก (PSA) เป็นเลือดที่บ่งชี้ถึงมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ชายที่มีระดับ PSA เป็นสองเท่าในระยะเวลาสั้น ๆ มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรดมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น การดื่มน้ำทับทิม 237 มิลลิลิตรต่อวันช่วยเพิ่มระยะเวลาที่ PSA เพิ่มเป็น 2 เท่าจาก 15 เดือนเป็น 54 เดือน การศึกษาตามผลพบความคล้ายคลึงกันเมื่อใช้สารสกัดทับทิมที่เรียกว่า POMx5. สารสกัดทับทิมอาจมีประโยชน์ต้านมะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง สารสกัดจากทับทิมอาจช่วยยับยั้งการสร้างเซลล์มะเร็งเต้านมได้ หรืออาจฆ่าเซลล์เหล่านั้นด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหลักฐานไม่มากนักจากการศึกษาในห้องทดลอง ยังต้องทำการค้นคว้าวิจัยให้มากขึ้นก่อนที่จะยืนยันผลเหล่านี้6. ทับทิมอาจช่วยลดความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคหัวใจหรือหลอดเลือดในสมองได้ ในการศึกษาหนึ่ง ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญหลังการดื่มน้ำทับทิม 150 มิลลิลิตรทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์7. ทับทิมแดงอาจช่วยต่อสู้กับข้ออักเสบและการปวดข้อ
โรคข้ออักเสบเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในประเทศฝั่งตะวันตก ซึ่งมีหลายชนิด แต่ทุกชนิดจะมีการอักเสบของข้อต่อ การที่สารประกอบพืชของทับทิมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ มันจึงทำให้มันสามารถช่วยรักษาโรคข้ออักเสบได้ น่าสนใจที่ว่า การศึกษาในห้องวิจัยแนะนำว่าสารสกัดทับทิมสามารถยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายข้อต่อในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม8. น้ำทับทิมอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
โรคหัวใจเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากที่สุด โรคหัวใจเป็นโรคที่ซับซ้อน ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย กรดพูนิซิคเป็นกรดที่พบมากในทับทิม อาจช่วยป้องกันกระบวนการการเกิดโรคหัวใจได้ การศึกษาในคน 51 คน ที่มีระดับไตรกลีเซอร์ไรด์สูง เป็นเวลา 4 สัปดาห์พบว่า การรับประทานน้ำมันจากเมล็ดทับทิม 800 มิลลิกรัมต่อวันช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์และเพิ่มระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ชนิดดี อีกการศึกษาหนึ่งศึกษาเกี่ยวกับน้ำทับทิมในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง มันส่งผลถึงการลดลงของคอลเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และการดีขึ้นของปัจจัยอื่น ๆ น้ำทับทิมมีประโยชน์การปกป้องคอลเลสเตอรอลชนิดดีจากการทำปฏิกริยาซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ สุดท้าย งานวิจัยหนึ่งสรุปว่าน้ำทับทิมช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดโรคหัวใจ9. น้ำทับทิมอาจช่วยรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การทำลายออกซิเดชั่นสามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลงในทุกบริเวณของร่างกาย รวมไปถึงเนื้อเยื่อที่ทำให้แข็งตัว น้ำทับทิมช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการตอบสนองต่อการแข็งตัวในกระต่าย การศึกษาในผู้ชาย 53 คนที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ทับทิมนั้นมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีภาวะนี้ แต่ก็ยังไม่มีนัยยะสำคัญทางสถิติ10. ทับทิมสามารถช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้
สารประกอบพืชในทัมทิมสามารถช่วยต่อสู้กับจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น พวกมันมีคุณสมบัติช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียบางชนิด เช่นเดียวกับยีสต์ Candida albicans การมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อราอาจมีฤทธิ์ปกป้องการติดเชื้อและการอักเสบในปากของคุณได้ ซึ่งรวมไปถึงโรคต่าง ๆ เช่น เหงือกอักเสบ โรคปริทันต์อักเสบ และปากอักเสบจากฟันเทียมได้11. ทับทิมอาจทำให้ความจำดีขึ้น
มีหลักฐานหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าทับทิมสามารถทำให้ความจำดีขึ้นได้ การศึกษาหนึ่งในผู้ป่วยผ่าตัดพบว่าทับทิมสกัด 2 กรัม สามารถป้องกันความไม่สมดุลของความจำหลังผ่าตัดได้ การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งของผู้สูงอายุ 28 คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ พบว่าการดื่มน้ำทับทิม 237 ต่อวันช่วยทำให้ระบบความจำคำพูดและระบบความจำดีขึ้น12. ทับทิมอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
ทับทิมมีไนเตรทอยู่มาก ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ การศึกษาในนักกีฬา 19 คน ให้วิ่งบนลู่วิ่งแสดงให้เห็นว่า การรับประทานสารสกัดทับทิม 30 นาทีก่อนออกำลังกายเพิ่มการไหลเวียนของเลือดอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้เมื่อยล้าช้าลงและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย แต่ผลที่ว่านี้ยังคงต้องทำการศึกษากันต่อไป แต่ดูเหมือนว่าทับทิมจะมีประโยชน์ต่อการออกกำลังกายเช่นเดียวกับบีทรูทใครที่ไม่ควรรับประทานทับทิม
ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่มีเงื่อนไขหรือสถานการณ์บางอย่างที่บุคคลอาจพิจารณาจำกัดการบริโภคหรือหลีกเลี่ยงทับทิม:- อาการแพ้:บางคนอาจมีอาการแพ้ผลทับทิม ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น คัน บวม หรือเป็นลมพิษ ผู้ที่ทราบว่าแพ้ผลไม้ควรหลีกเลี่ยงผลทับทิมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิกิริยาระหว่างยา:น้ำทับทิมอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มสแตติน ยาลดความดันโลหิต และยาแก้ซึมเศร้าบางชนิด มันสามารถรบกวนวิธีที่ร่างกายประมวลผลยาเหล่านี้ได้ หากคุณกำลังใช้ยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเกรปฟรุต ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนรับประทานผลทับทิม
- ปัญหาทางเดินอาหาร:น้ำทับทิมเนื่องจากมีปริมาณเส้นใยสูง อาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วงหรือปวดท้องในผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่ละเอียดอ่อนหรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารที่มีเส้นใยสูง แนะนำให้กลั่นกรอง
- ความกังวลเกี่ยวกับความดันโลหิต:น้ำทับทิมอาจลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับหลาย ๆ คน แต่ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่ก็ควรระมัดระวัง เนื่องจากการบริโภคมากเกินไปอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงจนอยู่ในระดับที่ไม่สบายตัวได้
- น้ำตาลในเลือดสูงหรือเบาหวาน:น้ำทับทิมมีน้ำตาลธรรมชาติค่อนข้างสูง แม้ว่าผลไม้จะมีเส้นใยอาหารที่สามารถดูดซึมน้ำตาลได้ปานกลาง แต่ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นโรคเบาหวานควรติดตามการบริโภคเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น
- ปัญหาเกี่ยวกับไต:ทับทิมอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต ปริมาณโพแทสเซียมที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีการทำงานของไตบกพร่อง
- ก่อนและหลังการผ่าตัด:เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อความดันโลหิตและการโต้ตอบกับยา บุคคลที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดหรือผู้ที่อยู่ในระยะพักฟื้นหลังการผ่าตัดควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพเกี่ยวกับการบริโภคผลทับทิม
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/318385
- https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-392/pomegranate
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น