คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินน้ำมะนาวปั่นในช่วงหน้าร้านแต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของมะนาวนั้นมีมากมาย ทั้งช่วยในการลดน้ำหนัก ช่วยในการย่อยอาหารที่ดีขึ้น ลดความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการท้องผูก รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ริดสีดวงทวาร แผลในกระเพาะอาหาร โรคเกาต์ และเหงือก นอกจากนี้ยังอาจช่วยในการดูแลผิว เส้นผม และปกป้องดวงตาของคุณ
มะนาวคืออะไร
มะนาว (Citrus aurantifolia) เป็นผลไม้ตระกูลส้มลูกผสมขนาดเล็ก มีลักษณะกลม มีสีเขียว เนื่องจากน้ำที่เปรี้ยวและเป็นกรดและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ผลมะนาวจึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารต่างๆ เพื่อเน้นรสชาติ เป็นส่วนผสมทั่วไปในอาหารเม็กซิกัน เวียดนาม และไทย ผลไม้รสเปรี้ยวมีหลายชนิดที่เรียกว่ามะนาว ได้แก่ มะนาวแป้น มะกรูด มะนาวป่า มะนาวทะเลทราย และมะนาวเปอร์เซียคุณค่าทางโภชนาการของมะนาว
มะนาวสามารถให้วิตามินซี 32% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน และยังมีปริมาณน้ำสูงและวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แมกนีเซียมและโพแทสเซียม รวมทั้งวิตามินอย่างโฟเลต วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินเค สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับมะนาวคือแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ต่ำ ตามฐานข้อมูลสารอาหารแห่งชาติของ USDA มะนาวหนึ่งหน่วยบริโภค (67 กรัม) อาจให้พลังงานถึง 20 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ เปลือกและเนื้อมะนาวอาจอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ ฟลาโวนอลไกลโคไซด์ เช่น แคมป์เฟอรอล รวมทั้งไฟโตเคมิคอลหลายชนิด เช่น โพลีฟีนอล ลิโมนีน และเทอร์ปีนสรรพคุณของมะนาว
ช่วยในการดูแลผิว
น้ำมะนาวมีกรดที่ดีต่อสุขภาพและช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วเมื่อทาลงบนผิว และอาจช่วยสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว และปรับปรุงเนื้อสัมผัสโดยรวม วิตามินซีช่วยปกป้องผิวจากการติดเชื้อและยังช่วยในการรักษาผื่น รอยฟกช้ำและสิว จากการศึกษาในวารสาร Nutrition พบว่าสารฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในมะนาวอาจยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ ซึ่งอาจช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยต่อสู้กับความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากแสงแดด ฝุ่นละออง และมลภาวะ คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยในการลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ และรูขุมขนกว้างได้ คุณสามารถสร้างประสบการณ์การอาบน้ำที่สดชื่นได้โดยการมะนาวลงในอ่างอาบน้ำของคุณ มะนาวยังช่วยลดกลิ่นตัวได้อีกด้วย การใช้มะนาวในการรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันเป็นวิธีที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซีเป็นเวลานานช่วยในการย่อยอาหาร
มะนาวมีกลิ่นที่อาจช่วยในการย่อยอาหารได้ (มันจะทำให้น้ำลายท่วมปากของคุณก่อนที่คุณจะลิ้มรสมันเสียอีก) ในขณะที่พวกมันช่วยย่อยโมเลกุลขนาดใหญ่ของอาหาร ฟลาโวนอยด์จะกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และเพิ่มการหลั่งของน้ำย่อย น้ำดี และกรด นอกจากนี้ยังอาจกระตุ้นการเคลื่อนไหว peristaltic ซึ่งย้ายอาหารไปทั่วลำไส้ ปริมาณกรดที่มีอยู่ในมะนาวจะช่วยล้างระบบขับถ่าย และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ การใช้น้ำมะนาวในปริมาณมากๆกับเกลือนั้นทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะที่ดีเยี่ยมโดยไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก หมายเหตุ: นี่คือเหตุผลเบื้องหลังการบริโภคมะนาวดองพร้อมกับอาหารกลางวันและอาหารเย็นในอินเดียและประเทศต่างๆ นอกจากนี้ การดื่มน้ำปูนขาวอุ่นสักแก้วก่อนอาหาร 30 นาทียังสามารถช่วยป้องกันอาการเสียดท้องหรืออาการกรดไหลย้อนได้ต่อสู้กับการติดเชื้อ
การบริโภคมะนาวช่วยปกป้องร่างกายจากจุลชีพ ไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ รวมถึง Helicobacter pylori (H. pylori) และการติดเชื้อแบคทีเรีย Salmonellaช่วยในการลดน้ำหนัก
การศึกษาในสัตว์ทดลองในปี 2010 พบว่าน้ำมันหอมระเหยในมะนาวช่วยป้องกันการเพิ่มของน้ำหนักและการบริโภคอาหารส่วนเกิน นอกจากนี้ กรดซิตริกที่มีอยู่ในมะนาวยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย น้ำอุ่นหนึ่งแก้วกับมะนาวสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
การศึกษาที่นำโดย Dr. Frank Hu ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่ Harvard Medical School ชี้ให้เห็นว่าอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีมีผลต่อการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้และลิโมนินที่พบในมะนาวอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดและช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ โพแทสเซียมและแมกนีเซียมในมะนาวอาจช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ วิตามินซีในน้ำมะนาวและเปลือกมะนาวช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบ ตามการศึกษาในสัตว์ทดลองที่ตีพิมพ์ในวารสาร ARYA Atherosclerosis นอกจากนี้ยังอาจช่วยชะลอการลุกลามของโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยการลดเส้นไขมันในหลอดเลือดแดง Hesperidin ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในมะนาวช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL (คลอเลสเตอรอลไม่ดี) และระดับไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจอาจบรรเทาการอักเสบ
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและสามารถใช้ได้กับปัญหาการอักเสบหลายอย่าง หนึ่งในหลายสาเหตุของโรคข้ออักเสบคือกรดยูริกที่สะสมในร่างกายมากเกินไป กรดซิตริกที่พบในมะนาวเป็นตัวทำละลายซึ่งกรดยูริกสามารถละลายได้ การเพิ่มกรดซิตริกในร่างกายอาจช่วยกำจัดกรดยูริกส่วนเกินออกจากปัสสาวะได้ป้องกันนิ่วในไต
จากการศึกษาในปี 2014 ในวารสาร Korean Journal of Urology กรดซิตริกในน้ำมะนาวสดหรือน้ำมะนาวเข้มข้นอาจช่วยขจัดและป้องกันนิ่วในไตโดยการเพิ่มปริมาณซิเตรตในปัสสาวะและปัสสาวะ การศึกษาอื่นแสดงให้เห็นว่าการบริโภคน้ำมะนาวเป็นเวลาเกือบสี่ปีอาจช่วยลดการเกิดนิ่วในไตจากเฉลี่ยหนึ่งก้อนต่อปีเหลือเพียง 0.13 ต่อปีเพิ่มภูมิคุ้มกัน
มะนาวช่วยเสริมสร้างแนวป้องกันของร่างกายและช่วยป้องกันการติดเชื้อและโรคต่างๆ เช่น มาลาเรีย ท้องร่วง และปอดบวม นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยต่อสู้กับอาการไอและหวัด และเพิ่มภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกาย สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากการศึกษาหลายชุดรวมถึงงานวิจัยในปี 2560 ในวารสาร Nutrientsช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
วิตามินซีในมะนาวเมื่อจับคู่กับอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก อาจช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการดูดซึมธาตุเหล็ก นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เช่น เวียนศีรษะ เล็บเปราะ ผมร่วง และเหนื่อยล้า อาจพิจารณาการเพิ่มมะนาวลงในอาหารของคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
นอกจากวิตามินซีแล้ว มะนาวยังมีสารประกอบพิเศษที่เรียกว่าฟลาโวนอยด์ (ลิโมนอยด์ เช่น ลิโมนินกลูโคไซด์) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านสารก่อมะเร็ง เป็นยาปฏิชีวนะ และช่วยล้างพิษ กรดในมะนาวทำปฏิกิริยากับน้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำให้เกิดปฏิกิริยาเป็นด่าง ฟลาโวนอยด์และปฏิกิริยาอัลคาไลน์รวมกันจะช่วยกระตุ้นกระบวนการบำบัดแผลในกระเพาะอาหารและในช่องปากหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น