กระเจี๊ยบแดงกับ 12 ประโยชน์ เพื่อสุขภาพ (12 Health Benefits Of Roselle)

ต้นกระเจี๊ยบคืออะไร 

กระเจี๊ยบแดงหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus sabdariffa คือ ไม้พุ่มที่อยู่ในตระกูลพืชวงศ์ชบา ในประเทศอิหร่านรู้จักกันว่าเป็นชาเปรี้ยว ในแถบประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการพูด กระเจี๊ยบถูกเรียกว่า เรดซอเรล เป็นพืชดั้งเดิมมาจากประเทศแอฟริกาและประเทศแถบแคริเบียนเช่นหมู่เกาะเวสต์อินดีส ประเทศตรินิแดดและโตเบโก ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีการเพาะปลูกทั่วไปในประเทศเขตร้อนและใกล้เขตร้อนของโลก โดยเฉพาะในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระเจี๊ยบเคยถูกใช้เป็นพืชเพื่อการรักษามานานหลายศตวรรษแล้ว สามารถรักษาอาการปวดฟัน โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคหวัด หรือแม้แต่อาการเมาค้าง ในประเทศเซเนกัล น้ำกระเจี๊ยบสกัดจากใบสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคตาแดงและเมื่อนำมาบดเป็นผง จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บและบาดแผลได้ หนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับการเพาะปลูกกระเจี๊ยบคือเพื่อผลิตเส้นใยเปลือกในซึ่งสกัดมาจากก้านและถูกนำมาทดแทนปอกระเจา Hibiscus cannabinus คือ พืชที่เพาะปลูกในแถบเอเชียใต้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดเอาเส้นใย กระเจี๊ยบเป็นไม้พุ่มที่เจริญเติบโตได้ง่าย และมีลำต้นสูง ง่ายต่อการระบุพันธุ์เพราะมีก้านสีแดงสด และยังให้ดอกที่เห็นได้ชัดและดูโดดเด่น และยิ่งกว่านั้นในปุ่มทุกๆปุ่มจะมีกลีบเลี้ยง กระเปาะทั้งแบบสดและแห้งเป็นส่วนที่สำคัญและนำไปใช้ประกอบอาหารได้ 

สรรพคุณกระเจี๊ยบแดง

กลีบเลี้ยงของดอกกระเจี๊ยบหรือกลีบที่เหลืออยู่ที่ผลสามารถใช้เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือดและช่วยลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต รักษาเส้นโลหิจให้แข็งแรงดี  ช่วยย่อยอาหารเพราะไม่เพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะ เพิ่มการหลั่งน้ำดี ผลของกระเจี๊ยบช่วยลดไขมันในเส้นเลือด แก้กระหายน้ำ รักษาแผลในกระเพาะ และในส่วนของเมล็ดช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง 

ประโยชน์ของน้ำกระเจี๊ยบสรรพคุณดีต่อสุขภาพอย่างไร

น้ำกระเจี๊ยบแดงมีรสเปรี้ยว เมื่อนำมาต้มกับน้ำแล้วเติมน้ำตาล ไว้ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ กระเจี๊ยบแดงเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม พบว่าน้ำกระเจี๊ยบช่วยทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง และยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ เป็นอีกทางที่สามารถช่วยลดความดันโลหหิตได้ด้วย เมื่อนำน้ำกระเจี๊ยบมาดื่มนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เพราะมีกรดซีตริคอยู่ ในน้ำกระเจี๊ยบแดงมีสีแดงเข้ม เพราะสารแอนโทไซยานิน สามารถนำไปแต่งสีอาหารได้ตามต้องการ น้ำกระเจี๊ยบช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เพราะมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันเลสและยับยั้งการตายของมาโครฟาจ โดยมีสาร Dp3-Sam ซึ่งเป็นแอนโทไซยานินชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในห้องทดลองได้ จึงมีผลในการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและอาจช่วยชะลอการลุกลามของมะเร็งบางชนิดได้

ใบกระเจี๊ยบทำอะไรได้บ้าง

ในส่วนของใบกระเจี๊ยบนั้นช่วยแก้โรคพยาธิตัวจี๊ด  ลดเสหมะ แก้ไอ ขับเมือกในลำคอ และสามารถนำใบมาตำพอกฝีหรือใช้ต้มน้ำเพื่อใช้ล้างแผลได้ ใบอ่อนของกระเจี๊ยบใช้รับประทานเป็นผักได้ หรือจะนำมาใช้ทำแกงส้มเพราะให้รสเปรี้ยว และมีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา

ดอกกระเจี๊ยบแดง

ดอกกระเจี๊ยบมีประโยชน์มากมาย สามารถช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด แก้อาการไอ ในส่วนของกลบดอกของกระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงจึงมีประโยชน์ต่อสตรีในช่วงวัยทอง เราสามารถนำดอกกระเจี๊ยบไปทำอาหารต่างๆได้เช่น แกงส้มดอกกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ แยมดอกกระเจี๊ยบ ดอกกระเจี๊ยบแช่อิ่ม กระเจี๊ยบกวนเป็นต้น

โทษของกระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดงอาจมีโทษในบางราย เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียเพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบาย และเพราะมีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะ แม้ว่จะมีความเป็นพิษต่ำมากก็ตาม ก็ไม่ควรดื่มในปริมาณเข้มข้นและติดต่อกันนานๆเพราะจะไม่ดีต่อสุขภาพ

ใครที่ไม่ควรทานกระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดงเป็นไม้ดอกที่มักใช้ในการเตรียมอาหารและสมุนไพรต่างๆ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว กระเจี๊ยบจะถือว่าปลอดภัยและสามารถรับประทานได้ แต่ก็มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์กระเจี๊ยบ:
  • สตรีมีครรภ์:ดอกกระเจี๊ยบถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อกระตุ้นการหดตัวของมดลูกและการมีประจำเดือน ดังนั้นสตรีมีครรภ์ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการบริโภคกระเจี๊ยบแดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปริมาณมากเพราะอาจทำให้แท้งได้
  • สตรีให้นมบุตร:ผลของกระเจี๊ยบแดงต่อสตรีให้นมบุตรไม่ได้รับการศึกษาอย่างดี มารดาที่ให้นมบุตรแนะนำให้บริโภคกระเจี๊ยบในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากยังไม่เป็นที่เข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการผลิตน้ำนมแม่หรือทารก
  • ผู้ที่รับประทานยา:กระเจี๊ยบแดงอาจเกิดปฏิกิริยากับยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต เนื่องจากมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต  ปรึกษากับแพทย์หากคุณกำลังใช้ยาเพื่อควบคุมความดันโลหิตหรืออาการอื่นๆ
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ:ความสามารถของกระเจี๊ยบในการลดความดันโลหิตอาจไม่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว การบริโภคกระเจี๊ยบแดงอาจช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้อีก
  • อาการแพ้:บางคนอาจแพ้พืชที่เกี่ยวข้องในตระกูล Malvaceae ปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อกระเจี๊ยบแดงมีได้ตั้งแต่ผื่นที่ผิวหนังไปจนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบากหรือภูมิแพ้
  • ความผิดปกติของไต:กระเจี๊ยบมีออกซาเลตซึ่งสามารถทำให้เกิดนิ่วในไตในบางคนได้ หากคุณมีประวัตินิ่วในไตหรือโรคไต แนะนำให้ติดตามปริมาณออกซาเลตและปรึกษากับแพทย์
  • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร:รสเปรี้ยวของกระเจี๊ยบแดงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องเสียง่ายหรือกรดไหลย้อน อาจทำให้อาการไม่สบายทางเดินอาหารรุนแรงขึ้นในบางคน
  • การดูดซึมธาตุเหล็ก:กระเจี๊ยบมีสารประกอบที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ซึ่งอาจยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ฮีม (ธาตุเหล็กจากพืช) เมื่อบริโภคกับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง หากคุณพึ่งพาแหล่งธาตุเหล็กจากพืช คุณอาจต้องการจำกัดการบริโภคกระเจี๊ยบแดงควบคู่ไปกับมื้ออาหารที่มีธาตุเหล็กสูง

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบคือพืชตัวอย่างที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย คนที่รู้จักมันดีจะสามารถนำทุกส่วนทั้งหมดมาใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นส่วนกระเปาะกระเจี๊ยบ ใบ ก้าน ดอก และอื่นๆเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น:

ใช้ประกอบอาหาร

พืชชนิดนี้มีชื่อเสียงมากมายสำหรับกระเปาะที่อวบอิ่ม กระเปาะสดของกระเจี๊ยบสีแดงสดนี้ถูกนำมาใช้ในการผลิตสีแดงสด น้ำดื่มรสเลิศที่เรียกว่าน้ำกระเจี๊ยบหรือฟลอเดอจาไมก้า บางบ้านอาจนำใบกระเจี๊ยบมาทำสลัด ซึ่งจะทำให้มีรสชาติคล้ายผักโขมแบบเผ็ดผสมกับผลไม้รสเปรี้ยว ใบของกระเจี๊ยบจึงมักสร้างความตื่นเต้นให้รสชาติอยู่เสมอ

ครีมบำรุงผิว

ด้วยกิตติศัพท์เรื่องคุณสมบัติด้านชะลอวัย กระเจี๊ยบจึงเป็นพืชยอดนิยมในเรื่องของความงามและครีมบำรุงผิวของโลก โดยนำมาใช้สำหรับขัดใบหน้าลำตัว อบไอน้ำ มาร์สหน้า ส่วนดอกกระเจี๊ยบมีประโยชน์เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ -ซึ่งช่วยต่อต้านผลกระทบจากอนุมูลอิสระ 

12 ประโยชน์เพื่อสุขภาพจากกระเจี๊ยบ

1. ลดอาการปวดประจำเดือน

 ช่วยบรรเทาอาหารปวดเกร็งและปวดประจำเดือน ช่วยฟื้นฟูความสมดุลของฮอร์โมน (ซึ่งสามารถช่วยลดอาการช่วงมีประจำเดือน เช่นอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้าและรับประทานมากเกินไป)

2. มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย

ชาฮิบิคัสอุดมไปด้วยกรดแอสคอร์บิก หรือที่รู้จักกันในชื่อวิตามินซีนั่นเอง วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นที่ร่างกายต้องการเพื่อเสริมสร้างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดอกกระเจี๊ยบทั้งแบบแห้งและสดนั้นมีวิตามินซีที่สูงมาก
  • เสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน (ป้องกันโรคหวัดและไข้หวัด)
  • มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย
  •  ช่วยอาการไม่สบายตัวเนื่องจากโรคไข้หวัด (เพราะผลจากการทำให้ตัวเย็นลง)

3. ช่วยในการย่อยอาหาร

แคปซูลเมล็ดในกระเจี๊ยบเป็นที่รู้กันดีว่ามีคุณสมบัติเรื่องยาขับปัสสาวะและยาบำรุง จากนี้ไปคือประโยชน์ของแคปซูลเมล็ด:
  • เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และการถ่ายปัสสาวะ (เพราะคุณสมบัติด้านการขับปัสสาวะ)
  • รักษาโรคท้องผูก
  • ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้

4. ลดน้ำหนัก

ชาสมุนไพรฮิบิคัสมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก หากคุณบริโภคอาหารที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งนั่นหมายความว่ามันมีน้ำตาลและแป้งเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่า ฮิบิคัสสกัดลดการดูดซึมแป้งและกลูโคสที่อาจช่วยในการลดน้ำหนัก ฮิบิคัสช่วยยับยั้งการผลิตอะไมเลส ซึ่งจะช่วยดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและแป้ง ดังนั้นการดื่มชาฮิบิคัสจึงช่วยป้องกันการดูดซึมที่เกิดขึ้นได้ เราจึงพบเห็นชาฮิบิคัสในผลิตภัณฑ์เพื่อลดน้ำหนักหลายๆตัว12 Health Benefits Of Roselle

5. มีคุณสมบัติต้านอาการซึมเศร้า

  •  มีคุณสมบัติต้านซึมเศร้าเช่น ฟลาโวนอยด์
  • ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลง
  • ช่วยลดความวิตกกังวลและซึมเศร้าโดยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายทั้งทางร่างกายและจิตใจ

6. มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง

ชาสมุนไพรฮิบิคัสมีกรดโปรโตคาทีคูอิก ซึ่งเป็นสารต้านเซลล์มะเร็งและมีสารต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาโดย ในนครไทจง ประเทศไตหวัน แนะนำว่าฮิบิคัสช่วยทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้ช้าลง 

7. ช่วยจัดการอาการไอ หวัดและไข้หวัด 

จากข้อมูลในหนังสือ “Healing Herbal Teas,”  ดอกฮิบิคัสสดมีสารกรดแอสคอร์บิกเป็นส่วนประกอบประมาณ 6.7 มก. ในรูปของวิตามินซี ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นของร่างกาย ด้วยประโยชน์ที่มีมากมาย ฮิบิคัสเป็นที่รู้กันดีว่าคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นชาฮิบิคัสจึงมักถูกนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบของอาหารเสริมเพื่อช่วยในการรักษาอาการไอหรือหวัด เพราะผลทำให้เกิดความเย็น โดยเฉพาะผลในการลดความไม่สบายตัวจากโรคไข้หวัดที่อาจเกิดร่วมกับอาการป่วย

8. การจัดการความดันเลือด

จากรายงานของ  AHA (American Heart Association) ที่ถูกตีพิมพ์ในเดือนพฤศจิกายน ปี2008 บอกไว้ว่าการบริโภคชาดอกไม้ฮิบิคัสช่วยลดความดันเลือดในคนที่มีภาวะก่อนความดันโลหิตสูง  และปกป้องหัวใจซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและคนที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะมีคุณสมบัติเรื่องการต้านการอักเสบ ชาฮิบิคัสจึงสามารถช่วยลดความดันเลือดได้มากถึง 10 จุด จากข้อมูลการวิจัยของ Tufts University in Boston พบว่าสามารถทำให้ดีขึ้น เมื่อมีการบริโภคชา 3 ถ้วยทุกๆวันเป็นระยะเวลาสองสามอาทิตย์ อีกทั้งชาฮิบิคัสยังมีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะจึงช่วยเพิ่มการถ่ายปัสสาวะ และลดความดันโลหิตลงไปพร้อมๆกัน

9. ปกป้องตับ

ด้วยคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยในการรักษาโรคตับ (สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องร่างกายจากโรคเพราะช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระในเนื้อเยื่อและเซลล์ของร่างกาย)

10.ช่วยทำให้ฟันและเหงือกมีสุขภาพที่ดี

กระเจี๊ยบแดงมีแคลเซียมอยู่มากจึงส่งผลให้เหงือกและฟันมีสุขภาพดี

11. การตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพที่ดี

หญิงตั้งครรภ์ควรบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กมากกว่าคนอื่นๆ กระเจี๊ยบแดงอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

12. รสชาติเยี่ยม

ชาสมุนไพรฮิบิคัสมีรสชาติที่คล้ายคลึงน้ำแครนเบอรี่ ด้วยความที่มีรสจัดดังนั้นคุณจึงสามารถเติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มความหวานได้ อีกทั้งยัสามารถเติมเครื่องเทศเช่น ชินนามอน กานพูล ลูกจันทร์เทศและขิงขึ้นอยู่กับรสชาติตามชอบ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.healthline.com/nutrition/hibiscus-tea-benefits
  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/318120
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด