เห็บและโรคที่มาพร้อมกับเห็บ
เห็บคือปรสิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าและสนามหญ้า สัตว์กลุ่มแมงต้องการเลือดจากมนุษย์หรือสัตว์เพื่อมีชีวิตรอด เห็บเป็นพาหะของโรคร้ายแรงหลายอย่าง ซึ่งสามารถส่งต่อคนที่ถูกกัดได้ โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงสัตว์เพราะ เห็บหมา เห็บแมว สามารถพบได้มากในสัตว์เลี้ยง แต่เห็บกัดคนได้และสามารถทำให้เกิดอันตรายหรือป่วยไข้ได้ช่วยกันโรคที่เกิดจากเห็บกัด
- โรคไลม์ (โดยเฉพาะที่ส่งต่อจากเห็บกวางระยะตัวเต็มวัย)
- โรคไข้พุพองเทือกเขาร็อกกี้ (ในสุนัขและแมว)
- โรคทูลาริเมียหรือโรคไข้กระต่าย
- โรคบาบีซิโอซิส (มีอาการเหมือนมาลาเรียที่ถูกส่งต่อโดยเห็บ)
- โรคเออร์ลิชิโอสิส
- โรค Anaplasmosis
- โรคไข้กลับซ้ำ
สาเหตุของโรคติดเชื้อเห็บคืออะไร
การติดเชื้อเห็บไม่ว่าจะเป็นเห็บหมา เห็บแมว สามารถเกิดขึ้นได้จากแค่เห็บเพียงแค่ตัวเดียวที่นำมันติดตัวมาบ้าน เราสามารถสัมผัสกับเห็บได้เพียงแค่เข้าไปในป่าหรือแถบที่มีพุ่มไม้เยอะๆแถวๆบ้าน หรือแค่ออกไปนอกบ้านในวันที่อากาศอบอุ่น เห็บจะสามารถเอาตัวเองไปติดไว้กับทุกส่วนของร่างกายเราได้ โดยฝังหัวลงไปในผิวหนังของเรา เห็บสามารถเอาตัวมันมาติดไว้กับร่างกายเราได้ทุกส่วน รวมไปถึง:- ขาหนีบ
- ใต้วงแขน
- ภายในช่องหู
- ในผม
- ข้างในสะดือ
- ข้อพับขา
สัญญานของการติดเชื้อเมื่อเห็บกัด
ในระหว่างที่มีการติดเชื้อเห็บที่บ้าน คุณอาจจะสังเกตเห็นเห็บจำนวนมากตามตัวคุณหรือบนตัวสัตว์เลี้ยงของคุณ เพราะเห็บต้องการกินเลือดจากคนหรือสัตว์เป็นอาหารเพื่อความอยู่รอด พวกมันตะเกาะติดคุณ สมาชิกในครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยงของคุณ เห็บสามารถข้ามไปหาจากคนไปอีกคนได้รวดเร็วมาก แต่พวกมันชอบพื้นที่ที่อบอุ่นและมีความชื้น มักพบบ่อยๆตามบริเวณรักแร้ ใต้วงแขนหรือหนังศีรษะ และเมื่อเห็บพบเจอตำแหน่งที่ๆมัยชอบ มันก็จะกัดคุณและมุดหัวฝังแน่นไปที่ผิวของคุณ เห็บไม่เหมือนแมลงกัดเจ็บชนิดอื่นๆ เพราะเห็บกัดจะไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด คุณควรตรวจเช็คร่างกายเสมอๆ-โดยเฉพาะในเด็กและสัตว์เลี้ยง-หลังจากที่เจอบริเวณที่รู้ว่ามเห็บแล้ว ให้หาจุดที่เป็นสีดำหรือสีน้ำตาล อย่าเพ่งเล็งแค่เฉพาะพื้นที่ที่พบเห็บเท่านั้น เห็บมีหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1 ถึง 2 มม. (ขนาดเท่าเมล็ดป๊อบปี๊) เรื่อยไปจนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ราว 10 มม. (ขนาดเท่ายางลบดินสอ) คุณอาจติดเชื้อเห็บจากภายในบ้านได้หากพบว่าคุณหรือสมาชิกในครอบครัวเริ่มมีอาการจากกลุ่มโรคที่เกิดจากเห็บ ผลของอาการป่วยนี้อาจเป็นตั้งแต่น้อยมากไปจนถึงขั้นรุนแรง โดยอาการทั่วไปที่มีคล้ายๆกันเมื่อติดเชื้อจากเห็บ หมัด คือ: หลายๆอาการจากความเจ็บป่วยนี้จะคล้ายคลึงกับอาการของโรคอื่นๆ ผื่นที่เกิดจากกลุ่มโรคที่เกิดจากเห็บนั้นง่ายต่อการสังเกตทำให้แพทย์วินิจฉัยได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งรอบผื่นจะหายไปได้หลังเกิดอาการเกิดขึ้นและเข้าสู่กระบวนการเจ็บป่วย ควรพบแพทย์หาพบว่ามีอาการและมีเห็บอาศัยอยู่หรือที่บ้านเริ่มมีการติดเชื้อ แพทย์จะช่วยวินิจฉัยกลุ่มโรคที่เกิดจากเห็บได้อย่างเหมาะสม การตรวจพบเจอได้เร็วจะสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวที่เกิดร่วมกับโรคดังกล่าวเห็บที่พบได้ทั่วไป
เห็บหมา
เห็บมีหลายสายพันธุ์ ตัวเต็มวัยของเห็บจะมี 8 ขา มีส่วนหัวไม่ชัดเจนแต่จะเห็นส่วนที่เป้นปากยื่นออกมาทางตอนหน้าตัวเห็บ มันจะใช้ส่วนปากแทงเข้าไปที่ผิวหนังของสุนัขและฝังปากเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเกาะและดูดเลือดกินเป็นอาหาร วงจรชีวิตของเห็บสุนัขค่อนข้างซับซ้อน แต่มีระยะที่สำคัญอยู่ 4 ระยะ คือ ไข่ ตัวอ่อนมี6ขา ตัวกลางวัยมี8ขา ตัวเต็มวัยมี8ขา เห็บเพศเมียจะหาที่วางไข่ตามพื้นดินที่เป็นซอก มุมหรือขอบรอยต่อของบ้าน เห็บตัวเมียหนึ่งตัวสามารถวางไข่ได้ประมาณ 4,000 ฟอง ใช้เวลาในการฟักนานประมาณ 17-30 วัน และฟักออกมาเป็นตัวอ่อน วงจรชีวิตของเห็บจะสมบูรณืได้ในเวลาประมาณ 45-50 วัน เมื่อเห็บมีการดูดกินเลือดจำนวนมากส่งผลให้สุนัขและสัตว์เลี้ยงเกิดภาวะโลหิตจาง รอยกัดของเห็บอาจทำให้เกิดบาดแผลบนผิวหนังของสุนัข อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อเป็นหนองได้ เห็บยังเป็นพาหะของเชื้อพยาธิในเม็ดเลือดส่งผลให้สุนัขเจ็บป่วย มไข้สูง โลหิตจางและอาจทำให้เสียชวิตได้เห็บแมว
หมัดแมวเป้นปรสิตชนิดหนึ่ง มีวงจรชีวิต 4 ระยะ คือ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้และตัวเต็มวัย หมัดแมวจะมีสีน้ำตาลเข้ม ตัวแบนและแข็งมีขา 4 คู่ ยาวประมาณ 1.5-3.3 มิลลิเมตร สามารถกระโดดได้ไกลเคลื่อที่เร็ว กินเลือดเป็นอาหาร สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 2 เดือนถึง 1 ปี หากโดนหมัดแมวกัด เราสามารถสังเกตได้จากอาการแรกคือ จะมีตุ่มนูนแดง ตุ่มน้ำใสเป็นแนวยาวหรือกระจุกเป็นหย่อมสามเหลี่ยมรวมกัน 3-4 ตุ่ม และมีจุดหมัดกัดตรงกลาง มักเกิดขึ้นบริเวณแขน ขา และเอว สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ คนที่แพ้อาจเกิดลมพิษได้ โดยจะเกิดตุ่มแดงเป็นจำนวนมากและมีอาการนานหลายสัปดาห์ สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาแก้แพ้ หรือทายาบริเวณที่เกิดอาการคันด้วยยาสเตียรอยด์ หรืออาจเลือกใช้สมุนไพรบางชนิดเช่น เสลดพังพอน เพื่อช่วยบรรเทาอาการเห็บลม
เห็บลมคือสัตว์ตัวเล็กๆขนาดประมาณหัวเข็มหมุด สามารถลอยไปตามกระแสลมได้ เป็นสัตว์กินเลือดสัตว์อื่นเช่น กวาง เก้ง เมื่อเราเข้าไปเดินป่าเราอาจถูกเห็บลมกัดเข้า เห็บลมจะติดอยู่ที่ผิวหนังเราโดยเราไม่รู้ตัวได้นานถึง 3-4 วัน บสงรายที่มีอาการแพ้อาจมีไข้ทุกวัน บริเวณรอบๆที่ถูกกัดจะเป็นผื่นแดงเจ็บและคัน เห็บลมมักอาศัยอยู่บริเวณกาบต้นเฟิร์นแห้ง พบได้บ่อยในช่วงฤดูที่แห้งแล้ง ช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป เราสามารถป้องกันตนเองได้โดนการอย่าไปนั่งบนขอนไม้แห้ง ทายาป้องกันแมลงกันยุงบนผิวหนังบริเวณที่ไม่มีการปกปิดที่มิดชิด เมื่อกลับถึบ้านให้นำเสื้อผ้าที่ใส่เข้าป่าใส่ถุงพลาสติกปิดปากถุงให้มิดิด ห้ามนำเสื้อผ้าไปซักรวมกับเสื้อผ้าอื่นๆอย่างเด็ดขาด เมื่อซักเสร็จควรลวกน้ำร้อนเพื่อกำจัดเห็บให้หมด เมื่ออาบน้ำควรอาบน้ำสระผมด้วยสบู่และแชมพูฆ่าเห็บ หากโดนเห็บลมกัดควรใส่ยาที่แผลด้วยยาเบต้าดีนเพื่อบรรเทาอาการวิธีกำจัดเห็บและป้องกัน
วิธีกำจัดเห็บ หมัด
เห็บจะไม่เกาะติดผิวหนังเราสามารถดูดฝุ่นทิ้งได้ ถุงเก็บฝุ่นควรปิดให้แน่นสนิทและทิ้งไว้นอกบ้านทันทีหลังดูดเสร็จ คุณควรตรวจเช็คเสื้อผ้าของคุณและตามร่างกายหลังดูดออกเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีเห็บติดอยู่ที่ตัวคุณอีก คุณอาจพ่นสเปรย์หรือแป้งฝุ่นเพื่อช่วยฆ่าเห็บภายในบ้านของคุณ เมื่อสามารถควบคุมการติดเชื้อเห็บได้แล้ว ควรป้องกันการติดเชื้อจากจุดเกิดเหตุครั้งแรกด้วย หากคุณอาศัยหรือต้องใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ที่มีเห็บอยู่ คุณควรตรวจเช็คตัวเองและเด็กๆก่อนกลับเข้ามาในตัวบ้าน คุณอาจสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและใส่ขากางเกงใส่ลงไปในถุงเท้าในขณะเดินป่าหรือ เข้าไปในพื้นที่ป่า ลองใช้ย่าไล่แมลง อาจเลือกซื้อเสื้อผ้าที่มียาไล่แมลงในเนื้อผ้ามาใช้ การเอาตัวเห็บที่กัดคุณหรือคนในครอบครัวคุณไปแล้ว คือจับตัวเห็บไว้ให้ใกล้กับผิวหนังที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยที่หนีบหรือกระดาษทิชชู จากนั้นดึงออกอย่างช้าๆและดึงตรงๆโดยไม่หมุนหรือบิด ก่อนจะดึงตัวเห็บออกจากเห็บไม่ควรใช้วาสลีน น้ำมันหรือแอลกอฮอล์เพื่อพยายามฆ่าตัวเห็บ เพราะหากทำเช่นนั้นอาจทำให้ปากของตัวเห็บติดค้างอยู่ที่ร่างกายซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หลังจากดึงเอาตัวเห็บออกแล้ว ให้หย่อนตัวเห็บลงให้จมในแอลกอฮอล์ ใส่ในถุงปิดสนิทหรือแปะบนเทปใส หรือกดทิ้งในโถชักโครกหลังการกำจัด เพื่อป้องกันเห็บในบริเวณพื้นที่บ้านของคุณ ให้ทำพื้นที่รอบๆบ้านที่ทำให้ตัวเห็บอยู่ไม่ได้ เห็บไม่ชอบแสงแดด สิ่งแวดล้อมที่แห้งๆและเห็บไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในพืชที่สั้นๆ พยายามดูแลหญ้าและพุ่มไม้ให้ออกห่างจากบ้านและตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอเพื่อกำจัดเห็บที่อาจอยู่ใกล้ๆบ้านของคุณ หากรอบๆบ้านของคุณรายล้อมไปด้วยพุ่มไม้หรือพื้นที่ป่าที่เห็บอาจอาศัยอยู่ คุณอาจพ่นยายาฆ่าแมลงในพื้นที่เพื่อช่วยกำจัดเห็บ ยาฆ่าแมลงส่วนมากจะส่งผลกับสัตว์อื่นๆ คุณจึงควรทำความสะอาดรอบๆบริเวณบ้านของคุณเพราะอาจมีหนูด้วย เพราะสัตว์พวกนี้ก็เป็นพาหะของเห็บด้วยเช่นกัน ตรวจเช็คสัตว์เลี้ยงของคุณบ่อยๆและใช้ยาป้องกัน เห็บมักเกิดขึ้นกับสัตว์ที่ได้รับอนุญาติให้ออกไปนอกบ้าน หากคุณพบว่ามีเห็บบนตัวสัตว์เลี้ยงของคุณควรพาไปพบสัตวแพทย์ สัตว์เลี้ยงของคุณอาจต้องการการรักษาอาการจากเห็บกัด คุณอาจซื้อยาสำหรับสัตว์เลี้ยงคุณและป้องกันการเกาะติดของเห็บควรไปพบแพทย์เมื่อไร
คุณควรไปพบแพทย์หากโดนเห็บกัดและเริ่มมีอาการในกลุ่มโรคที่เกิดจากเห็บ หนึ่งในสัญญานแรกคือผื่น ที่มักมาร่วมกับไข้สูง เหมือนติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์ของคุณจะสามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องและสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อทำการรักษาข้อเท็จจริงของการติดเชื้อจากเห็บ
การพบเห็บเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น และอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่า ตั้งแคมป์ ทำสวน และการใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ป่าหรือหญ้า ต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญบางประการเกี่ยวกับเห็บ:- ประเภทเห็บ:มีเห็บหลายชนิดทั่วโลก เห็บขาดำหรือเห็บกวาง เห็บสุนัขอเมริกัน เห็บสุนัขสีน้ำตาล และเห็บดาวเดียว เห็บแต่ละสายพันธุ์อาจแพร่โรคต่างกันได้
- ช่วงชีวิต:เห็บมีช่วงชีวิตสี่ช่วง: ไข่ ตัวอ่อน ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย เห็บใช้เลือดในแต่ละเพื่อการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์
- การแพร่กระจายของโรค:เห็บเป็นพาหะของโรคต่างๆ รวมถึงโรคไลม์ ไข้ด่างดำจาก Rocky Mountain ภาวะอะแนพลาสโมซิส และอื่นๆ การแพร่กระจายของโรคเกิดขึ้นเมื่อเห็บที่ติดเชื้อกัดคนหรือสัตว์และแพร่เชื้อโรคผ่านทางน้ำลาย
- โฮสต์ที่ต้องการ:เห็บมีโฮสต์ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น เห็บขาดำมักกินกวางและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก ในขณะที่เห็บสุนัขอเมริกันชอบสุนัข คน และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อื่นๆ
- อาการจากการถูกกัด:เห็บกัดมักไม่เจ็บปวด และบุคคลนั้นอาจไม่สังเกตเห็นว่ามีเห็บติดอยู่ด้วยซ้ำ หลังจากเห็บกัด อาจมีอาการแดง คัน หรือมีผื่นเล็กๆ ในบางกรณี บริเวณที่ถูกกัดอาจบวมหรือมีรูปแบบตาวัว
- การกำจัดเห็บ:การกำจัดเห็บอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรค ใช้แหนบปลายแหลมจับส่วนปากของเห็บที่อยู่ใกล้ผิวผิวหนังแล้วดึงขึ้นด้วยแรงสม่ำเสมอ หลังจากถอดออก ให้ทำความสะอาดบริเวณและมือของคุณด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- พื้นที่เสี่ยงต่อเห็บ:เห็บมักพบในพื้นที่หญ้าและป่า รวมถึงในเศษใบไม้และหญ้าสูง สามารถพบได้ในสภาพแวดล้อมในเมือง ตรวจสอบเห็บหลังจากใช้เวลาในสภาพแวดล้อมเหล่านี้
- ชุดป้องกัน:การสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าปิดนิ้วเท้าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการถูกเห็บกัดได้ การสอดกางเกงเข้าไปในถุงเท้าหรือรองเท้าบู๊ตสามารถป้องกันไม่ให้เห็บคลานขึ้นขาของคุณได้
- สารไล่เห็บ:สารไล่เห็บที่มี DEET, พิคาริดิน หรือเพอร์เมทริน สามารถลดโอกาสที่เห็บกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปใช้กับผิวหนังและเสื้อผ้าที่สัมผัสตามคำแนะนำ
- โรคที่เกี่ยวข้องกับเห็บ:โรคที่เกิดจากเห็บสามารถมีอาการได้หลากหลาย รวมถึงมีไข้ เหนื่อยล้า ปวดข้อ ผื่น และปัญหาทางระบบประสาท การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจ็บป่วยจากเห็บหลายชนิด
- สัตว์เลี้ยง:เห็บสามารถรบกวนสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่คล้ายคลึงกัน ตรวจสอบและดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นประจำ และใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ของคุณ
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.cdc.gov/ticks/diseases/index.html
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/lyme-disease/symptoms-causes/syc-20374651
- https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/is-that-a-tick-bite
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น