ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
อาการของเอดส์

HIV อาการอย่างไร

าการ HIV  มักแสดงเป็น 3 ขั้นตอน หากไม่มีการรักษา อาการจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป และในที่สุดก็จะเอาชนะระบบภูมิคุ้มกันของร่างอกายได้ในที่สุด อาการของโรคขึ้นกับความแข็งแรงของร่างกาย

ระยะแรก

ระยะแรก: อาการติดเชื้อเอชไอวีแบบเฉียบพลัน คนส่วนมากไม่รู้ตัวว่าพวกเขาติดเชื้อเอชไอวีเมื่อใด แต่อาจเกิดอาการภายใน 2 ถึง 6 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อไวรัส เป็นช่วงเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกำลังต่อสู้ เรียกว่าอาการ retroviral แบบเฉียบพลัน หรือการติดเชื้อเอชไอวีระยะแรก

อาการเริ่มต้นโรคเอดส์

จะคล้ายกับอาการป่วยจากไวรัสชนิดอื่น ๆ และมักถูกนำมาเปรียบเทียบกับไข้หวัดใหญ่ ตามปกติจะใช้เวลา 1 หรือ 2 สัปดาห์แล้วหายไป สัญญาณเริ่มต้นของเอชไอวี ได้แก่ : หากเกิดอาการเอดส์เหล่านี้ และพบว่ามีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีในช่วง 2-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเอชไอวี กรณีไม่มีอาการแต่มีความเสี่ยงก็ควรเข้ารับการตรวจสอบด้วย การตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นมีความสำคัญ ด้วยเหตุผล 2 ประการ อย่างแรกคือระดับของเอชไอวีในเลือดและของเหลวในร่างกายจะสูงมาก ทำให้เป็นโรคติดต่อได้ง่าย อย่างที่ 2 การเริ่มการรักษาที่เร็วที่สุดจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการป่วยได้ การใช้ยาร่วมกัน (เรียกว่า ยาเอชไอวี ยาต้านไวรัส หรือ ART) ใช้ต่อสู้กับเอชไอวี รักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และป้องกันไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไวรัส การใช้ยาเหล่านี้ร่วมกับการดูแลสุขภาพ จะช่วยให้การติดเชื้อ HIV ไม่ทรุดลงไปอีก

 ระยะที่ 

ระยะที่ 2 : อาการแฝงทางสุขภาพ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเอชไอวีได้ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่จะหายไป แต่เกิดอาการ HIV หลายอย่างเกิดขึ้นในร่างกาย แพทย์เรียกช่วงเวลานี้ว่าระยะที่ไม่มีอาการ หรือเกิดการติดเชื้อเอชไอวีแบบเรื้อรัง ในร่างกายของคุณ เซลล์ที่เรียกว่าเซลล์ CD4 T จะประสานการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ในระยะนี้ HIV ที่ไม่ได้รับการรักษาจะฆ่าเซลล์ CD4 และทำลายระบบภูมิคุ้มกัน แพทย์จะตรวจดูว่าร่างกายเหลือเซลล์เหล่านี้กี่เซลล์ด้วยการตรวจเลือด หากไม่มีการรักษา จำนวนเซลล์ CD4 จะยิ่งลดลง และผู้ป่วยจะมีโอกาสติดเชื้ออื่น ๆ มากขึ้น

ลักษณะโรคเอดส์

ระยะนี้ของคนส่วนมากไม่มีอาการที่มองเห็นหรือรู้สึกได้ ผู้ป่วยอาจไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ และสามารถแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังผู้อื่นได้ แต่หากใช้ยา ART ผู้ป่วยอาจคงอาการในระยะนี้ได้เป็นเวลานานหลายสิบปี ยังมีโอกาสแพร่เชื้อไวรัสไปยังผู้อื่นได้ แต่จะยากมากขึ้น หากรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ Symptom of AIDS

ระยะที่ 3

ระยะที่ 3: อาการเอดส์ โรคเอดส์เป็นขั้นตอนที่รุนแรงของการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งปกติแล้วจะเป็นเมื่อจำนวน T-cell CD4 ลดต่ำกว่า 200 และระบบภูมิคุ้มกันจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจติดเชื้อที่เข้ามาฉวยโอกาส ซึ่งเป็นโรคที่เกิดบ่อยขึ้น และแย่ลงเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ อาการของเอดส์บางลักษณะเช่น Kaposi’s sarcoma (ลักษณะของมะเร็งผิวหนัง) และ pneumocystis pneumonia (โรคปอด) ถือเป็น “โรคที่เกิดจากเอดส์” หากไม่รู้ตัวมาก่อนว่าติดเชื้อเอชไอวี ลักษณะคนเป็นเอดส์ คืออาการเหล่านี้:
  • เหนื่อยตลอดเวลา
  • ต่อมน้ำเหลืองบวมที่คอหรือขาหนีบ
  • ไข้ครั้งละนานกว่า 10 วัน
  • เหงื่อออกตอนกลางคืน
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • จุดด่างดำบนผิว
  • หายใจถี่
  • ท้องร่วงรุนแรงและยาวนาน
  • การติดเชื้อราในปาก คอ หรือช่องคลอด
  • รอยฟกช้ำหรือเลือดออกที่ไม่ทราบสาเหตุ
  • อาการทางระบบประสาท เช่น ความจำเสื่อม สับสน ปัญหาการทรงตัว พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง อาการชัก และการมองเห็นเปลี่ยนแปลง
ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ไม่ใช้ยาจะมีชีวิตได้ประมาณ 3 ปี หรือน้อยกว่านั้นหากติดเชื้ออื่น ๆ แต่เอชไอวียังสามารถรักษาได้ในขั้นตอนนี้ โดยใช้ยารักษาเอชไอวี การใช้ยาเหล่านี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อมีอายุที่ยืนยาว
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด