โรคเสพติดการช็อปปิ้ง หรือซื้อของออนไลน์
โรคเสพติดการช็อปปิ้ง คือ อาการที่รู้กันดีว่าเป็นอาการคลั่งช็อปปิ้ง ไม่ว่าจะเดินช็อปปิ้ง หรือซื้อออนไลน์ก็ตาม คนที่มีอาการนี้จะมีเสพติดผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ หรืออาจซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์ความงาม หุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ การซื้อของออนไลน์ คนที่มีอาการเสพติดการช็อปปิ้งนี้จะซื้อของอย่างรวดเร็ว เมื่อสมองสั่งด้วยความพึงพอใจ คนที่มีอาการเสพติดการช็อปปิ้งก็จะพยายามสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งและอีกครั้งอาการเสพติดการซื้อของ
บางคนที่มีอาการเสพติดช็อปปิ้งอาจเก็บซ่อนปัญหาไว้เป็นอย่างดี และบางครั้งมีเพียงคนเดียวที่จะรับรู้ปัญหาของพวกเขาก็คือคนที่ต้องสนิทสนมกับพวกเขาจริงๆเท่านั้น คนที่มีปัญหาโรคเสพติดช็อปปิ้งอาจหลบๆซ่อนของที่ซื้อมาหรืออาจมีการใช้จ่ายเงินไปอย่างมากในการช็อปปิ้ง นักช็อปตัวยงทั้งหลายมักมีภาพลักษณ์ของคนร่ำรวยและประสบความสำเร็จ ในขณะที่ความเป็นจริงพวกเขาอาจเป็นหนี้มากมาย หากพวกเขาไม่สามารถหยุดการช็อปปิ้งได้หรือต้องมีหนี้ก้อนโตจากการช็อปปิ้ง นั่นแสดงว่าพวกเขามีอาการเสพติดแล้ว คนที่มีภาวะเสพติดการช็อปปิ้งอาจมีอาการดังนี้:- มีจิตใจหมกหมุ่นอยู่กับการซื้อเป็นประจำทุกวันทุกอาทิตย์
- มีการซื้อของเพียงเพื่อจัดการกับความเครียด
- ใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินหรือเปิดบัตรใบใหม่โดยยังไม่ได้จ่ายหนี้จากงวดที่แล้ว
- รู้สึกมีภาวะเคลิ้มสุขอย่างมากหรือมีความตื่นเต้นหลังได้ซื้อของ
- ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือซื้อสิ่งของที่ไม่ใช้
- ขโมยหรือโกหกเพื่อให้มีการช็อปปิ้งต่อไป
- รู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิดหลังการซื้อของ แต่ก็ยังคงช็อปปิ้งต่อไป
- ไม่สามารถจ่ายหนี้หรือจัดการการเงินได้
- ล้มเหลวในการพยายามหยุดการช็อปปิ้งอย่างบ้าคลั่ง
การรักษาอาการเสพติดการช็อปปิ้งคืออะไร
โรคเสพติดการช็อปปิ้งเป็นเรื่องยากในการจัดการ เช่นเดียวกับการซื้อของที่เป็นเรื่องปกติที่เป็นส่วนหนึ่งในทุกๆวันของชีวิต ทุกคนต้องมีการซื้ออาหารเป็นประจำและสิ่งของต่างๆเช่นเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวและรถบ้างเป็นครั้งคราว แต่การหยุดการซื้อง่ายๆนี้ไม่สามารถรักษาโรคเสพติดการช็อปปิ้งได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคเสพติดการช็อปปิ้ง พวกคลั่งช็อปปิ้งอาจจำเป็นต้องทำการ “ตัดขาด” ออกจากกระแสเงินสด บางคนอาจจำเป็นต้องมีคนเข้ามาดูแลเรื่องการเงินให้ ในบางรายที่พบได้ไม่บ่อยนัก คนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งอาจต้องการเข้ารับเป็นคนไข้ในโปรแกรมการเสพติด คนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งส่วนใหญ่มักได้รับการรักษาด้วยการบำบัดด้านพฤติกรรมและรับการปรึกษาส่วนตัว คนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งจะต้องพัฒนาการควบคุมความหุนหันพลันแล่นและเรียนรู้ความเข้าใจในแรงกระตุ้น ในหลายๆกรณี โรคเสพติดการช็อปปิ้งอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาทางด้านอารมณ์ลึกๆหรือโรคทางสุขภาพจิต หากมีปัญหามาจากภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาทางสุขภาพจิตอื่นๆ การใช้ยาอาจช่วยได้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตอาจช่วยระบุได้ จุดประสงค์หลักในการรักษาก็คือการขัดขวางวงจรเดิมๆ การเผชิญหน้ากับปัญหาและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ คิด รู้สึกและการแสดงออกในทางที่ดีการเฝ้าติดตามสำหรับโรคเสพติดการช็อปปิ้งคืออะไร
หากโรคการเสพติดการช็อปปิ้งถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา คนที่คลั่งการช็อปปิ้งจะพบว่าตัวเองกำลังจะเป็นหนี้มากขึ้นทุกที พวกเขาอาจเสียเพื่อนและความไว้วางใจในความรัก พวกเขาอาจต้องสูญเสียบ้านหรือทรัพย์สินหากพวกเขายังไม่สามารถจัดการเรื่องการเงินของพวกเขาได้ บางคนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งอาจเริ่มกลายเป็นขโมยเพื่อสนองนิสัยตนเอง อาจทำให้ถูกจับได้ บางครั้งพวกเขาจะขอความช่วยเหลือเมื่อพวกเขามาถึง “จุดที่ตกต่ำ” เพื่อเอาชนะการเสพติดดังกล่าวนี้ คนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งอาจต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัวหรือเพื่อนสนิทในการจัดการเรื่องเงินในระยะแรกของการฟื้นฟู แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาเองต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไว้ ส่วนที่ยากมากที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งก็คือการจัดการกับเรื่องการเงินที่เป็นผลมาจากพฤติกรรมเสพติดดังกล่าว คนที่เป็นโรคเสพติดการช็อปปิ้งบางคนอาจจำเป็นต้องยื่นฟ้องล้มละลาย รีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือต้องหางานทำพิเศษเพื่อจ่ายค่าหนี้ พวกเขาอาจต้องเจอกับช่วงเวลายุ่งยากในการหางานหรือเช่าบ้านหากพวกเขาไม่มีเครดิตน่าเชื่อถือ เฉกเช่นเดียวกับการเสพติดอื่นๆ คนที่เป็นโรคคลั่งช็อปปิ้งสามารถกลับมามีอาการได้ใหม่อีก แต่หากได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้อง พวกเขาก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการจัดการในการรับมือและหาทางกลับไปสู้การแก้ไขได้ทำอย่างไรเมื่อลูกของคุณมีอาการเสพติดการซื้อของ
หากคุณสงสัยว่าบุตรหลานของคุณกำลังมีอาการเสพติดการซื้อของ สิ่งสำคัญคือต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยความระมัดระวังและดำเนินการเพื่อให้การสนับสนุน ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำว่าควรทำอย่างไรหากบุตรหลานของคุณแสดงอาการติดช้อปปิ้ง:- สังเกตและประเมิน:
-
-
- ใส่ใจกับพฤติกรรมของลูกของคุณและรูปแบบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อของมากเกินไป มองหาสัญญาณต่างๆ เช่น ซื้อของออนไลน์บ่อยๆ สะสมของที่ไม่จำเป็น หรือหมกมุ่นอยู่กับการซื้อของ
-
- เริ่มต้นการสื่อสารแบบเปิด:
-
-
- เข้าหาลูกของคุณด้วยความเห็นอกเห็นใจและแสดงความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกเขา ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้างและไม่ตัดสิน ถามเกี่ยวกับความเครียดหรือความท้าทายทางอารมณ์ที่พวกเขาอาจเผชิญ
-
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดช้อปปิ้ง:
-
-
- ช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจแนวคิดเรื่องการเสพติดการซื้อของและผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิต ความสัมพันธ์ และความเป็นอยู่ทางการเงิน
-
- กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน:
-
-
- กำหนดขอบเขตและแนวทางการใช้จ่ายที่ชัดเจน หารือเกี่ยวกับงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการใช้จ่ายตามดุลยพินิจและความสำคัญของการซื้ออย่างมีสติและตั้งใจ
-
- ส่งเสริมกลไกการรับมือที่ดี:
-
-
- ช่วยให้ลูกของคุณระบุวิธีอื่นในการรับมือกับความเครียด ความวิตกกังวล หรือความท้าทายทางอารมณ์ ส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬา งานอดิเรก หรือการใช้เวลากับเพื่อนฝูงเป็นร้านเพื่อสุขภาพ
-
- สอนความรู้ทางการเงิน:
-
- ให้ความรู้แก่บุตรหลานของคุณเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ อภิปรายถึงความสำคัญของการจัดทำงบประมาณ
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/connect-to-care/addiction-treatment-recovery/shopping-addiction-treatment-options
- https://www.verywellmind.com/shopping-addiction-4157288
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น