นมผึ้ง คืออะไร มีผึ้งมีประโยชน์อย่างไร
นมผึ้งเป็นสารคล้ายวุ้นที่ได้จากน้ำผึ้งเพื่อใช้เป็นอาหารของนางพญาผึ้งและลูก ๆ ของพวกมัน มักจะถูกขายในรูปแบบของอาหารเสริมเพื่อรักษาอาการป่วยและโรคเรื้อรังต่าง ๆ นมผึ้งถูกใช้มาอย่างยาวนานในยาแผนโบราณ แต่ในยาแผนปัจจุบันนั้นยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ประโยชน์ของนมผึ้ง Royal Jelly มีอะไรบ้าง
1. วิตามินนมผึ้งมีสารอาหารมากมาย
นมผึ้งมีส่วนประกอบของ น้ำ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สารเคมีในนมผึ้งนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ประโยชน์ต่อสุขภาพอาจมาจากโปรตีนและกรดไขมันเฉพาะที่มีในนมผึ้ง ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีน 9 กลุ่มที่เรียกว่า โปรตีนหลักในนมผึ้ง (MRJPs) และกรดไขมันสองชนิด คือ Trans-10-Hydroxy-2-decenoic acid และ 10-Hydroxydecanoic acid นมผึ้งยังมีวิตามินบีและแร่ธาตุรองหลายชนิด องค์ประกอบของสารอาหารจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของนมผึ้ง วิตามินบางอย่างที่พบในนมผึ้งได้แก่: วิตามินบี 1 (B1) วิตามินบี 2 (B2) วิตามินบี 5 (B5) วิตามินบี 6 (B6) วิตามินบี 3 (B3) วิตามินบี 9 (B9) วิตามินบี 8 (B8) และวิตามินบี 7 (B7) สารอาหารเหล่านี้อาจทำให้นมผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่กระนั้น การค้นคว้าวิจัยในสารอาหารเหล่านี้มากขึ้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น2. นมผึ้งสรรพคุณต้านการอักเสบ
นมผึ้งมีฤทธิ์ลดการอักเสบและภาวะเครียดออกซิเดชั่น และสารประกอบฟีโนลิกที่พบในนมผึ้งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ3. อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยส่งผลต่อระดับคอลเรสเตอรอล
การศึกษาในสัตว์และมนุษย์แสดงให้เห็นว่านมผึ้งอาจมีผลดีต่อระดับคอเลสเตอรอลและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ถึงแม้ว่ากลไกการออกฤทธิ์จะยังไม่เป็นที่แน่ชัด โปรตีนเฉพาะในนมผึ้งอาจช่วยลดคอเลสเตอรอล ผู้ที่รับประทานมผึ้ง 3 กรัมทุกวัน ในขณะที่การทดลองเหล่านี้ให้ผลที่มีเป็นความหวัง การศึกษาให้มากขึ้นของนมผึ้งต่อสุขภาพยังเป็นสิ่งที่จำเป็น4. อาจช่วยในการรักษาแผลและการซ่อมแซมของผิว
นมผึ้ง สามารถใช้ได้ทั้งแบบรับประทานและแบบใช้เฉพาะที่ อาจช่วยในการรักษาแผลและอาการอักเสบของผิวอื่น ๆ และมันยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ซึ่งทำให้แผลสะอาดและไม่ติดเชื้อ สารสกัดนมผึ้งมี คอลลาเจนเป็นโครงสร้างโปรตีนสำหรับการซ่อมแซมของผิว5. โปรตีนชนิดพิเศษอาจช่วยลดความดันโลหิต
นมผึ้งอาจช่วยปกป้องหัวใจและควบคุมระบบการทำงานของหัวใจโดยการลดความดันโลหิตสูง อาหารเสริมจากนมผึ้งผสมกับสารสกัดที่ได้จากผึ้งอื่น ๆ พบการลดลงของความดันเลือดอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตาม บทบาทของนมผึ้งในอาหารเสริมนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด6. ควบคุมน้ำตาลในเลือดโดยการลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นและการอักเสบ
นมผึ้งอาจช่วยให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดดีขึ้นด้วยและความไวต่ออินซูลินโดยการลดความเครียดออกซิเดชั่นและการอักเสบ เชื่อว่าการรับประทานนมผึ้งทุกวัน แสดงให้เห็นถึงการลดลงของน้ำตาลในเลือด 20%7. คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
นมผึ้งอาจช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น การศึกษาหนึ่งในหนูที่เครียดที่ถูกให้นมผึ้งพบว่า นมผึ้งช่วยลดระดับของฮอร์โมนความเครียด และทำให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานได้ดีขึ้นกว่ากลุ่มควบคุม ทำให้ความจำที่ดีขึ้นและนมผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ปกป้องเนื้อเยื่อของสมองและระบบประสาท8. อาจช่วยให้หลั่งน้ำตาได้มากขึ้นและช่วยรักษาภาวะตาเเห้งเรื้อรัง
นมผึ้งอาจช่วยรักษาอาการตาแห้งได้หากรับประทานแบบเป็นเม็ด ภาวะตาแห้งเมื่อรักษาด้วยนมผึ้งชนิดรับประทาน ผลลัพท์แสดงให้เห็นว่าสารจากผึ้งเหล่านี้อาจช่วยให้หลั่งน้ำตาจากต่อมน้ำตามากขึ้น9. สรรพคุณนมผึ้งในการชะลอวัย
นมผึ้งอาจช่วยชะลอวัยได้หลายทาง นมผึ้งถูกนำไปเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงผิวพรรณเพื่อผิวสุขภาพดีและอ่อนเยาว์10. อาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีสุขภาพดี
นมผึ้งอาจช่วยให้ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ตอบสนองต่อแบคทีเรียและไวรัสดีขึ้น โปรตีนหลักในนมผึ้งและกรดไขมันต่าง ๆ ช่วยก่อให้เกิดกระบวนการต้านแบคทีเรีย ซึ่งสามารถช่วยลดการติดเชื้อและทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นได้11. ลดผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง
การรักษาโดยเคมีบำบัดและการรักษามะเร็งวิธีอื่น ๆ อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ รวมไปถึง หัวใจล้มเหลว การอักเสบ และปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร นมผึ้งอาจช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรักษามะเร็งในบางวิธี การใช้นมผึ้งเฉพาะที่อาจช่วยป้องกันภาวะเยื่อบุช่องปากอักเสบ ซึ่งป็นผลมาจากการรักษาโรคมะเร็ง12. อาหารเสริมสำหรับวัยทอง
นมผึ้งอาจช่วยรักษาบางอาการที่เกี่ยวข้องกับสตรีวัยหมดประจำเดือน ภาวะหมดประจำเดือนทำให้เกิดการลดลงของฮอร์โมนควบคุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงทางร่างกายและจิตใจ เช่น ความเจ็บปวด ความจำบกพร่อง โรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวลปริมาณและรูปแบบของอาหารเสริม
เนื่องจากการค้นคว้าวิจัยยังจำกัด ปริมาณที่แน่ชัดของการบริโภคนมผึ้งจึงยังไม่สามารถบอกได้ ในรูปแบบของอาหารเสริม นมผึ้งอาจอยู่ในรูปแบบของ เจล ผง หรือแคปซูล ประโยชน์นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่แตกต่างกันไป งานวิจัยล่าสุดสนับสนุนการบริโภคอยู่ที่ 300–6,000 มิลลิกรัมต่อวัน นมผึ้งสามารถทาลงบนผิวเฉพาะที่ได้ และบางครั้งก็เป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงผิว หากคุณไม่เคยใช้นมผึ้งมาก่อน ควรเริ่มจากการใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเพื่อทดสอบอาการแพ้ความเสี่ยงและผลข้างเคียง
ถึงแม้ว่ามันจะปลอดภัยต่อคนส่วนมาก แต่นมผึ้งก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากมันเป็นผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ผู้ที่มีอาการแพ้เมื่อโดนผึ้งต่อย แพ้เกสร หรือสารก่อภูมิแพ้ในธรรมชาติอื่น ๆ ควรใช้อย่างระมัดระวัง สิ่งปนเปื้อนจากภายนอก เช่น ยากำจัดศัตรูพืช ก็ถูกพบในนมผึ้งเช่นกัน และทำให้เกิดปฏิกริยาแพ้ ในขณะที่การใช้นมผึ้งปลอดภัยต่อคนส่วนมาก ปฏิกริยาการแพ้รุนแรงก็ถูกพบเช่นกัน เช่น- โรคหอบหืด
- ภาวะแพ้รุนแรง
- ผื่นแพ้สัมผัส
กินนมผึ้งอ้วนไหม
นมผึ้งมีผลต่อระบบเมตาบอลิซึม ซึ่งจะช่วยน้ำตาลในเลือด และช่วยเสริมสร้างการนำไขมันในร่างกายไปใช้งาน การกินนมผึ้งจึงไม่ทำให้อ้วนง่ายนมผึ้งกินตอนไหน
จริง ๆ แล้วนมผึ้งสามารถรับประทานตอนไหนก็ได้ แต่หากต้องการการบำรุงทางด้านผิวพรรณ ควรรับประทานนมผึ้งก่อนนอน เพื่อที่สารสกัดจากนมผึ้งและวิตามินต่าง ๆ สามารถเข้าไปฟื้นฟูร่างกายยามเราพักผ่อนได้ใครที่ควรหลีกเลี่ยงนมผึ้ง
รอยัลเยลลีเป็นสารที่ผลิตโดยผึ้งงานและใช้เป็นอาหารของนางพญาผึ้ง เป็นสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีการวางตลาดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับมนุษย์ด้วย อย่างไรก็ตาม มีบุคคลบางกลุ่มที่ควรเข้าใกล้นมผึ้งด้วยความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการบริโภค:- อาการแพ้:บางคนอาจมีอาการแพ้นมผึ้ง การตอบสนองต่อการแพ้อาจแตกต่างกันไปในระดับความรุนแรง ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น อาการคันหรือการระคายเคืองผิวหนัง ไปจนถึงปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรง รวมถึงอาการแพ้อย่างรุนแรง บุคคลที่ทราบกันว่าแพ้ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง เช่น น้ำผึ้งหรือเกสรผึ้ง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษและอาจต้องหลีกเลี่ยงนมผึ้ง
- โรคหอบหืดหรืออาการแพ้:บุคคลที่มีประวัติโรคหอบหืด กลาก หรืออาการแพ้อื่นๆ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดอาการแพ้รอยัลเยลลี ขอแนะนำให้บุคคลดังกล่าวหลีกเลี่ยงการใช้รอยัลเยลลีหรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนบริโภค
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร:มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยของรอยัลเยลลี่สำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน โดยทั่วไปแนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรหลีกเลี่ยงนมผึ้ง เนื่องจากขาดการวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบของรอยัลเจลลี่ในกรณีเหล่านี้
- เด็ก ๆ:รอยัลเยลลีอาจไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ ความปลอดภัยและปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเด็กยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ
- ผู้ใช้ยาโรคหอบหืดหรือไข้ละอองฟาง:งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ารอยัลเยลลีอาจรบกวนยาบางชนิดที่ใช้สำหรับโรคหอบหืดหรือไข้ละอองฟาง ขอแนะนำให้ผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้รอยัลเยลลี
- สภาวะหรือความผิดปกติของฮอร์โมน:รอยัลเยลลีมีสารประกอบที่อาจมีผลต่อฮอร์โมน บุคคลที่มีภาวะหรือความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น มะเร็งบางชนิด ควรหลีกเลี่ยงรอยัลเยลลีหรือใช้ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเท่านั้น
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/324152
- https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-503/royal-jelly
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3499288/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น